8 สัญญาณ เขายังรักคุณอยู่ วิธีดูว่าแฟนเก่ายังรักเราอยู่ไหม มีอะไรบ้าง

วิธีดูว่าแฟนเก่ายังรักเราอยู่ไหม ดูว่าแฟนยังรักเราอยู่หรือเปล่า ดูอย่างไรได้บ้าง

สัญญาณ เขายังรักคุณอยู่ คุณกับเขาอยู่ด้วยกันมาก็สักพักละ กลัวจังเลยกับการหมดรัก แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรนะว่า เขายังรักเราอยู่เหมือนเดิม อาการแฟนเก่าที่ยังรัก นี่คือ 8 สัญญาณที่อาจช่วยคุณได้

8 แบบทดสอบเขายังรักเราอยู่ไหม เขายังรักคุณอยู่ วิธีดูว่าแฟนเก่ายังรักเราอยู่ไหม มีอะไรบ้าง

 

1. เขาไม่มีท่าทีรำคาญคุณเลย

ไม่ว่าจะคุณจะทำตัวงอแง หรืออาจจะเผลอทำตัวเด็กไปบ้างในบางครั้ง แต่เขาก็ไม่มีท่าทีที่จะรำคาญ หรือว่าคุณเลยแม้แต่นิดเดียว ตรงกันข้าม เขากลับดูเหมือนว่าจะเอ็นดูขึ้นมากกว่าเดิมเสียด้วย

2. เขาอยากที่จะอยู่กับคุณ

จริงอยู่ที่อาจจะมีบ้างที่เขาอยากจะขอไปสังสรรค์กับบรรดาแกงค์หนุ่ม ๆ ของเขา แต่เขาก็ไม่เคยลืมว่าเขายังมีคุณอยู่ และแน่นอน เวลาที่เขามีเวลาว่าง เพื่อนอาจไม่ใช่คนแรกที่เขานึกถึง คนที่เขานึกถึง และอยากที่จะอยู่ และทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วย นั่นก็คือ “คุณ” คุณอาจแทบไม่ต้องเรียกร้องเพื่อขอเวลาจากเขาเลย เพราะเขานั่นแหละที่มีเวลาพร้อมให้กับคุณเสมอ

3. ไม่ปฏิเสธที่จะออกไปข้างนอกด้วย

แน่นอนว่า ผู้ชายส่วนใหญ่มักอยากที่จะอยู่บ้าน เพื่อดูทีวี หรือพักผ่อน แต่ครั้นเมื่อคุณเอ่ยปากอยากออกไปข้างนอกแล้วละก็ เขาไม่เคยอิดออด หรือมีท่าทีเบื่อหน่ายเลย หนำซ้ำ เขายังช่วยคุณคิดถึงสถานที่ ๆ จะไปและอาสาที่จะขับรถให้อีกเสียด้วย

4. เขาเรียกคุณเหมือนตอนที่คบกันใหม่ ๆ

อาการแฟนเก่าอยากกลับมา ไม่ว่าตอนคบกันใหม่ ๆ คุณจะมีฉายาเรียกกันเองว่าอะไร เวลาที่คุณอยู่กันลำพังเพียงสองคน เขาก็ยังเรียกคุณด้วยชื่อนั้นอยู่ และแน่นอน ไม่ว่าคุณจะมีลูกแล้ว หรือไม่ก็ตาม ถ้าเขายังเรียกคุณแบบนั้น เวลาอยู่ด้วยกันสองคนละก็ มั่นใจได้เลยว่า “ผู้ชายคนนี้ยังมีคุณอยู่เต็มหัวใจ”

5. เขาปล่อยวางทุกอย่างระหว่างอยู่กับคุณ

สัญญาณแฟนเก่ากลับมา ยุคนี้ใคร ๆ ก็ต้องพกพามือถือ หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่สามารถเชื่อมต่อกับโลกโซเชียลได้ หันไปทางไหนก็เหมือนกับสังคมก้มหน้า แต่พอเวลาคุณอยู่ข้าง ๆ เขาเท่านั้นแหละ เขาพร้อมที่จะละ และวางทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อพูดคุย และให้ความสำคัญกับคุณก่อน เขาให้ความสำคัญกับคุณขนาดนี้ คุณก็อย่าลืมที่จะละและปล่อยวางโซเชียลเวลาอยู่กับเขาด้วยเช่นกัน

6. ไม่ว่าจะอย่างไร เขาก็ไม่เคยเอ่ยปากขอแยกทาง

ไม่ว่าจะทะเลาะ ผิดใจ หรือคุณจะอารมณ์ร้อนใส่เขามากขนาดไหน เขาก็ไม่เคยที่จะเอ่ยปากขอแยกทาง หรือพูดว่าขอห่างกันสักพักเลย เขาเลือกที่จะเงียบมากกว่าการมีปากมีเสียงปะทะกัน

7. เขาท้าทายคุณ

ไม่ว่าคุณจะทำอะไรสักอย่าง ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่นการลดน้ำหนัก เขาไม่เคยที่จะพูดว่า คุณไม่มีทางทำได้หรอก แต่เขากลับเลือกที่จะจัดสรรหาข้อมูล เรื่องของอาหารการกิน การออกกำลังกาย และท้าทายคุณโดยอาจจะมีของขวัญบางอย่างหากคุณทำได้ นั่นไม่ใช่เพราะอะไร แต่เขาอยากให้คุณมีสุขภาพที่ดี นั่นเอง

8. เขาชอบทำเซอร์ไพรส์คุณ

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี โปรโมชั่นแห่งความรักของเขาก็ไม่เคยที่จะน้อยลงเลย ทุกอย่างที่เขาทำตั้งแต่ตอนแรกเริ่มคบกันจนถึงปัจจุบันที่แต่งงาน และมีลูกแล้วก็ตาม เขาก็ยังคงชอบที่จะทำเซอร์ไพรส์คุณเสมอ

ถ้าคนข้างกายคุณมีลักษณะสัญญาณตามที่กล่าวมามากกว่าสองข้อขึ้นไปแล้วละก็ จงภูมิใจเถอะ เขายังรักคุณมากจริง ๆ

 

เรื่องที่ไม่ควรทำ ถ้าไม่อย่าให้ความรักของอีกฝ่ายลดลง

 

1. อย่าผิดคำพูด

ผู้ชายเองก็ไม่ควรผิดคำพูดเช่นกัน ผู้หญิงก็ไม่ต่างกัน หากนัดกันเวลาใดเวลาหนึ่งควรตรงต่อเวลา หรือเลทเพียงเล็กน้อย หรือหากบอกว่าจะโทรหาก็ควรโทร ยกเว้นคุณติดธุระจริง ๆ ก็มีเหตุผลที่จะบอกกับเขาได้ แต่ในบางครั้งการผิดคำพูดเพราะคุณเป็นคนไม่สนใจ ไม่แคร์ความรู้สึกคนอื่นนั้น จะส่งผลกระทบกับความสัมพันธ์แน่นอน ไม่ว่าการเที่ยวกันเป็นกลุ่ม หรือออกเดท

 

2. ทำลายความไว้วางใจ

การโกหกชนิด White lie นั้นบางครั้งก็ไม่ได้ผล แต่ในบางครั้งที่พูดกันตรง ๆได้ก็พูด เพราะผู้ชายมักไม่พูดเยอะเหมือนผู้หญิง ถ้าไม่ใช่เรื่องว่าผู้หญิงเจ้าชู้ประตูดิน และหาเรื่องโกหกได้ตลอดเวลานั้น ผู้ชายบางที่ก็ไม่ได้ใส่ใจนักกับสิ่งที่ผู้หญิงทำ ฉะนั้น มีอะไรพูดกันบอกกันตรง ๆ เสียดีกว่า

 

3. พูดกับเขาไม่ดีเสมอ

คนฉลาดย่อมเป็นผู้ฟังมากกว่า และหากจะพูดมักจะมีคำพูดที่ฉลาด ๆ เสมอ หากคุณทะเลากันให้เลี่ยงการพูดคุยที่จะต่อประเด็น หากใครคนใดคนหนึ่งสามารถเย็นลงได้ สิ่งที่ทะเลาะกันนั้น ก็จะถึงจุดจบได้เร็วขึ้น อารมณ์ของผู้หญิงขึ้น ๆ ลง ๆ ตามฮอร์โมน หรือคุณอาจจะทำจนเคยชินบางครั้ง เมื่อทะเลาะกันจากเรื่องเล็ก ๆ คุณพูดขุดแต่เรื่องไม่ดีเก่า ๆ ของเขาขึ้นมา ผู้ชายมักไม่ชอบให้นำเรื่องเก่า ๆ มาพูดถึงแม้จะเป็นความจริงก็ตาม การให้เกียรติซึ่งกัน และเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตคู่ของทุกคน การพูดถึงกันในสิ่งดี ๆ นั้นย่อมส่งผลดีในระยะยาวมากกว่าแน่นอน

 

4. ขี้หึงไร้เหตุผล

เรื่องนี้สำคัญสำหรับทุกคู่ ถ้าคุณมั่นใจว่าคุณมีคู่ที่คู่ควร และรักเขาเท่าที่จะรักได้ และเขาเองก็รักคุณ แล้วเพราะอะไรที่ทำให้คุณต้องหึงเขาแบบไร้เหตุผลล่ะ หากการหึงนั้นทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกันบ่อย ๆ ลองถอยออกมาคิดสักนิด แม้เขาจะคุยกับใครต่อหน้าเรา หากเรามั่นหน้าซะอย่าง และคิดว่าเขาคุยเพราะนั่นคือเพื่อนจริง ๆ ฉะนั้นคุณไม่ควรจะงอนเพื่อนของเขาหากไม่ได้มีกิริยาที่ทั้งคู่แสดงออกมากเกินเพื่อน (และคุณต้องไม่คิดไปเอง) ความไว้วางใจกันควรจะมีต่อกันให้มาก

 

5. โกรธเคืองเพื่อนของเขา

ก่อนที่เขาจะคบคุณเขามีกลุ่มเพื่อนของเขา ความสนิทนั้นมากกว่าคุณนัก โดยเฉพาะหากเขาเป็นผู้ชายประเภทติดเพื่อน หรือประเภทรักเพื่อนมากกว่าแฟนล่ะก็ คุณควรเรียนรู้วิธีจะเข้าหากลุ่มเพื่อนของเขา หากไม่หนักหนาเกินไป เพราะการที่คุณวุ่นวายกับสิ่งที่เพื่อน ๆ เขาทำนั้นคือการล้ำเส้นความสัมพันธ์ของคุณ คุณไม่มีสิทธิ์ไม่ให้เขาเจอเพื่อน นอกเสียจากว่าเขาติดเพื่อนจนไม่สนใจแฟนนั่นล่ะ คุณถึงสามารถพูดกับเขาได้เต็มที่ว่าสิ่งที่เขาทำนั้นเหมือนไม่ให้เกียรติคุณ และเหมือนคุณไม่มีตัวตน แต่หากไม่ได้มีเรื่องมีแย่ขนาดนั้น ทางที่ดีพยายามทำตัวให้สนุกกับสิ่งที่เขาทำจะดีกว่า

 

วิธีในการทำให้ความสัมพันธ์ของคุณยืนยาวขึ้น

 

1. การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญ

การสื่อสารเป็นกุญแจสำคัญของความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน ในฐานะคู่รักคุณ และคู่ของคุณต้องพูดคุยกัน และสิ่งเหล่านี้รวมถึงทุกอย่างตั้งแต่ความสุขของคุณไปจนถึงความมั่นใจปัญหาของคุณไปจนถึงความไม่ลงรอยกัน คุณต้องพูดถึงแรงบันดาลใจส่วนตัวของคุณเองเพื่อที่คุณจะได้เข้าใจซึ่งกัน และกันในแง่มุมต่าง ๆ

การพูดคุยถึงสิ่งที่เกี่ยวข้องกับคุณทั้งคู่ และความสัมพันธ์โดยรวมเป็นสิ่งสำคัญมาก เนื่องจากจะทำให้ความสัมพันธ์ของคุณคงอยู่ คุณอาจไม่เห็นด้วยกับทุกสิ่งตลอดเวลา แต่ด้วยการสื่อสารคุณสามารถแสดงความคิดเห็น ของคุณในรูปแบบที่ทำให้คุณต้องประนี ประนอม ซึ่งทำให้คุณสองคนสามารถใช้ชีวิตร่วมกันต่อไปได้

 

2. รับทราบจุดแข็งและจุดอ่อนของกันและกัน

คู่รักหลายคู่เลิกรากันเพราะไม่รับรู้จุดแข็ง และจุดอ่อนของกัน และกัน พวกเขารู้สึกเหมือนกำลังแข่งขันกันเอง หรือทั้งสองคนอ่อนแอกว่า และอาจเป็นภาระได้ทุกเมื่อในไม่ช้า ความสัมพันธ์ไม่ใช่แบบนั้น ไม่ได้สร้างขึ้นจากความสะดวกสบาย พวกเขาถูกสร้างขึ้นจากความรักความไว้วางใจมิตรภาพ และความเคารพ

เมื่อคุณอยู่ในความสัมพันธ์คุณควรกล้าพอที่จะยอมรับข้อบกพร่องของคู่ของคุณ และหาทางไปจากจุดนั้น และในทางกลับกัน ด้วยการทำเช่นนั้นคุณจะได้รับแรงบันดาลใจซึ่งกัน และกันในการเป็นหุ้นส่วนที่ดีขึ้น และเป็นบุคคลที่ดีขึ้นซึ่งจะทำให้ความสัมพันธ์ของคุณเติบโตขึ้น

 

 

4. รักษาความหวาน

สิ่งที่หอมหวานทำให้ทุกคู่รักได้สูดอากาศบริสุทธิ์เสมอ เป็นเพราะพวกเขาเพิ่มสีสัน ให้กับวันที่น่าเบื่อที่สุดของคุณในฐานะคู่รัก และไม่เสียค่าใช้จ่ายเกือบตลอดเวลา

คุณอาจต้องการเขียนจดหมายถึงคู่ของคุณโดยบอกว่าคุณรัก และชื่นชมความพยายามของพวกเขามากแค่ไหน และให้ในเวลาที่พวกเขาคาดหวังน้อยที่สุด หากคุณอยากเป็นคนโรแมนติกมากขึ้น คุณอาจเซอร์ไพรส์คนสำคัญของคุณด้วยดอกไม้ หรือของขวัญง่าย ๆ แม้ว่าจะไม่มีโอกาสฉลองก็ตาม แต่อย่างจริงจังการกระทำที่ง่ายที่สุดจะทำ

 

5. เคารพเวลา“ ฉัน” ของกันและกัน

สิ่งหนึ่งเกี่ยวกับคู่รักในทุกวันนี้ก็คือพวกเขาทำให้มันเป็นจุดที่จะเกาะติดกันราวกับว่าจะไม่มีวันพรุ่งนี้ และการอยู่ห่างกันทำให้มีโอกาสเกิดความสงสัยโดยไม่จำเป็น หากนี่คือความรู้สึกของคุณในความสัมพันธ์ก็ถึงเวลาเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ

การเรียนรู้ที่จะเคารพเวลา“ ฉัน” ของกันและกันเป็นสิ่งสำคัญมากเพราะแม้ว่าคุณจะมีความสัมพันธ์ด้วยกัน แต่คุณสองคนก็ยังแยกกันอยู่คนละคน คู่ของคุณมีเพื่อนของตัวเอง และคุณก็มีเพื่อนของคุณ แต่ละคนมีความฝันของแต่ละคนที่จะทำให้สำเร็จ แต่ในตอนท้ายของวันคุณยังคงเลือกที่จะจับมือของกันและกัน และเผชิญอนาคตด้วยกัน เมื่อพูดอย่างนั้นอย่าหลงระเริงกับเวลาที่ห่างกัน คิดว่าเป็นเวลาของคุณที่จะเติบโตเป็นรายบุคคล แต่ยังอยู่ด้วยกันด้วยใจ และจิตวิญญาณ

 

6. สัมผัสกัน

คุณรู้ไหมว่าการสัมผัสนั้นบอกได้หลายคำมากกว่าแค่การพูด เป็นเพราะเมื่อคุณจับมือกอด หรือจูบคุณจะได้ถ่ายทอดอารมณ์ของคุณซึ่งกัน และกัน คุณจะรู้ได้ทันทีเมื่อมีสิ่งผิดปกติ หรือไม่ปกติ และนั่นเป็นคิวของคุณในการสื่อสาร การสัมผัสก็เป็นวิธีที่สบายใจเช่นกันเนื่องจากจะปล่อยเอนดอร์ฟินที่ให้ความรู้สึกดีทุกครั้งที่คุณให้คู่ของคุณตบไหล่บีบมือหรือจูบที่หน้าผาก ความรู้สึกมั่นใจที่เกิดจากการสัมผัสนั้นมีพลังมากพอที่จะรักษาบาดแผลที่เกิดจากคำพูด และข้อโต้แย้งที่รุนแรงที่คุณเคยมีกับคนสำคัญของคุณก่อนหน้านี้ในระหว่างวัน

 

7. หลีกเลี่ยงเกมตำหนิ

การตำหนิกันในสิ่งที่ผิดพลาดเป็นตัวเร่งให้เลิกรากัน เนื่องจากไม่จำเป็นต้องหาข้อบกพร่องซึ่งกัน และกันด้วยเหตุผลเดียวที่ทำให้คุณสองคนอยู่ด้วยกัน ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในความสัมพันธ์ของคุณทั้งดี หรือไม่ดีล้วนเป็นผลมาจากการกระทำของคุณทั้งคู่

 

ที่มา:pooyingnaka , ph.theasianparent ,inspiringtips

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:

สามีอึ้ง! นี่หรือ? คือความคิดของภรรยา บนกระดาษแผ่นเดียว

ประสบการณ์จริง “ชีวิตครอบครัวเกือบพัง เพราะแม่สามี!” ที่เคมีไม่ตรงกัน

กักตัวกับแฟนยังไงให้รักกัน มากขึ้น กระชับกันใช้ช่วงเวลาที่ต้องอยู่บ้าน

บทความโดย

Muninth