เราทุกคนต่างทราบดีว่า ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบไปหมดทุกอย่าง แม้กระทั่งบทบาทในการเป็นพ่อแม่ ถ้านี่เป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้น นำมาปรับให้ดีขึ้นเพื่อลูกของเรากันเถอะ
7 ความผิดพลาดของพ่อแม่ที่บั่นทอนความสำเร็จลูก
#1 เราไม่เปิดโอกาสให้ลูกมีประสบการณ์ที่เสี่ยงบ้าง
โลกสมัยนี้อยู่ยาก ทุกย่างก้าวของลูกพ่อแม่จึงต้องขอ “ปลอดภัยไว้ก่อน” ดังนั้นเราจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้ปกป้องพวกเขา แต่การที่เราป้องกันลูกจากความเสี่ยงทุกอย่าง มันอาจจะส่งผลในทางตรงกันข้ามก็ได้นะ
นักจิตวิทยาในยุโรปได้มีการค้นพบว่าถ้าเด็ก ๆ ไม่เคยได้ออกเล่นข้างนอก หรือไม่เคยได้รับประสบการณ์หกล้มจนได้แผลเลย พวกเขาจะกลายเป็นเด็กที่ชอบหวาดกลัว ดังนั้นเด็ก ๆ จึงจำเป็นที่จะต้องมีโอกาสหกล้มบ้างเพื่อที่จะเรียนรู้ว่ามันเป็นเรื่องปกติธรรมดา ถ้าพ่อแม่กันความเสี่ยงต่าง ๆ ออกจากชีวิตลูกไปหมด โตขึ้นลูกก็อาจกลายเป็นคนเจ้ายศเจ้าอย่างและไม่รู้จักที่จะความเคารพในตัวเองได้นะ
#2 เราเข้าไปช่วยลูกเร็วเกินไป
เมื่อพ่อแม่เข้าไปช่วยเหลือลูกอย่างรวดเร็วเกินไป และทนุถนอมพวกเขามากเกินไปด้วยการ “ช่วยเหลือ” ไปซะทุกอย่าง มันก็เหมือนเราได้พรากสิ่งจำเป็นสำหรับลูกในการที่เขาจะรู้จักแก้หรือต่อสู้กับปัญหาด้วยตนเอง ดังนั้นควรให้ลูกได้ทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง โดยปราศจากความช่วยบ้าง เพราะการเข้าไปช่วยและจัดการปัญหาต่าง ๆ ให้กับพวกเขา จะกลายเป็นการปิดกั้นลูกจากการที่จะเติบโตและกลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสามารถในอนาคตได้
#3 เราชื่นชมลูกง่ายเกินไป
เมื่อเราใช้วิธีชื่นชมลูกง่าย ๆ และเพิกเฉยต่อพฤติกรรมที่แย่ ๆ อาจทำให้เด็ก ๆ รู้สึกว่าเป็นคนพิเศษ แต่ในที่สุดเด็ก ๆ ก็จะสังเกตว่า มีแต่พ่อแม่เท่านั้นที่คิดว่าพิเศษ เมื่อไม่มีคนอื่นที่มาคอยชื่นชมเขาเลย มันอาจจะทำให้ลูกรู้สึกดีในช่วงหนึ่ง ผลลัพธ์ก็คือมันไม่ใช่สิ่งที่เป็นจริง ซึ่งจะกลายเป็นว่าเด็ก ๆ ก็จะเรียนรู้ที่จะใช้เล่ห์กล คุยโม้โอ้อวด และโกหก เพื่อหลีกหนีจากความจริง กลายเป็นเด็กที่ไม่รู้จักยอมรับความจริงและความผิดหวังหากที่เรื่องที่เขาไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมันได้
#4 เราปล่อยให้การตามใจเข้ามาขัดขวางโอกาสในการสอนสิ่งดีๆ
ลูก ๆ ของเราจะก้าวข้ามผ่านความผิดหวังได้ แต่พวกเขาไม่อาจก้าวข้ามผลของการถูกตามใจจากพ่อแม่ไปได้เลย ถ้าหากพวกคุณไม่เคยพูดคำว่า “ไม่” หรือ “ยังไม่ใช่ตอนนี้” และปล่อยให้พวกเขาได้พยายามทำในสิ่งที่เขาต้องการด้วยตัวเอง มันเป็นการเสียโอกาสที่จะได้ทำให้ลูกได้เห็นว่าความสำเร็จนั้นมันขึ้นอยู่กับการกระทำด้วยตัวเอง และเป็นสิ่งที่ดี
พึงระวังต่อเงื่อนไขที่พวกคุณจะให้กับลูก เช่น ให้รางวัลเมื่อสอบได้ดี ลูกจะได้รับรางวัลที่เป็นวัตถุ แต่ไม่ได้ประสบการณ์จากแรงกระตุ้นหรือความรักอันไร้เงื่อนไขของคุณ
#5 เราไม่เคยแชร์ความผิดพลาดของตัวเองในอดีตให้ลูกฟัง
เมื่อเด็ก ๆ โตขึ้นเขาจะต้องพยายามทำหลายสิ่งหลายอย่างด้วยตัวเอง เราในฐานะพ่อแม่ก็ควรปล่อยให้ลูกได้ทำสิ่งเหล่านั้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่คอยช่วยชี้นำพวกเขานะ ลองแชร์ประสบการณ์ความผิดพลาดที่พวกคุณเคยทำเมื่อตอนอายุเท่าลูกในอดีตดูซิ เพื่อพวกเขาจะได้เรียนรู้และเลือกทางที่ดีกว่าคุณได้ แบ่งปันเรื่องราวที่พวกคุณเคยเผชิญกับปัญหาหรือความผิดพลาดแล้วบอกลูกว่าคุณได้ทำอย่างไร และได้บทเรียนอะไรจากสิ่งเหล่านั้น เพราะพ่อแม่ไม่เพียงแต่มีอิทธิพลกับลูกเท่านั้น แต่ต้องเป็นต้นแบบที่ดีให้กับลูกด้วย
#6 เราเข้าใจผิดในเรื่องที่คิดว่าลูกเป็นเด็กตลอดเวลา
มันไม่มีเวทมนต์ “ความรับผิดชอบตามอายุ” หรือ แนวทางการพิสูจน์ว่า สติปัญญาตามวัยนั้นใช้เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าเด็กพร้อมสำหรับการผจญภัยในโลกกว้างเมื่อไหร่ วิธีที่ดีคือการสังเกตเด็กคนอื่น ๆ ที่อยู่ในช่วงอายุเดียวกับลูก ถ้าเห็นพวกเขาทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเองได้มากกว่าลูกของคุณ แสดงว่าบางทีคุณอาจจะให้อิสระและโอกาสกับลูกของคุณช้าเกินไป
#7 เราไม่ได้ปฏิบัติตามในสิ่งที่สอนลูกไป
ในฐานะของพ่อแม่ มันเป็นความรับผิดชอบที่จะต้องเป็นตัวอย่างในการดำรงชีวิตในแบบที่เราอยากให้ลูกได้เป็นในอนาคต เป็นคนที่ชี้นำการดำเนินชีวิต ที่ต้องมีความเชื่อถือและมีส่วนรับผิดชอบต่อคำพูดและการกระทำ ดังนั้นพวกคุณจึงควรระวังในเรื่องพฤติกรรมที่มองดูเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการทำอะไรแบบขอไปที เพราะถ้าคนอื่นสังเกตเห็น ลูกของคุณก็จะสังเกตเห็นเช่นกัน ดังนั้นการแสดงให้ลูกเห็นความเป็นแบบอย่างที่ดี เช่น การให้ลูกได้รู้ความหมายของการเสียสละ หรือรู้จักช่วยเหลือผู้คน ลูก ๆ ก็จะจดจำและทำในสิ่งเดียวกันนี้ เมื่อเขาโตขึ้นจะโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในสังคมเช่นเดียวกับพ่อแม่ได้
Credit content: www.brightside.me
บทความอื่นที่น่าสนใจ :
เรียนรู้ 6 ข้อผิดพลาดที่แม่มือใหม่เลี้ยงลูกต้องเจอ
5 ความลับของลูก ที่ไม่เคยบอกให้พ่อแม่รู้