ภรรยา 7 ประเภท ที่พระพุทธองค์ทรงจำแนกไว้

เพจสะพานธรรมะ @SaphanDhamma ได้โพสต์อัลบั้มภาพ ภรรยา 7 ประเภท ที่พระพุทธองค์ทรงจำแนกไว้ (อ้างจาก ภริยาสูตร ส. อํ. (60) ตบ. 23 : 93-95 ตท. 23 : 87-88 ตอ. G.S. IV : 57-58) ตามไปอ่านกันดูดีกว่าว่า 7 ประเภทของภรรยามีอะไรบ้าง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ภรรยา 7 ประเภท ที่พระพุทธองค์ทรงจำแนกไว้

ชายและหญิงที่โคจรมาใช้ชีวิตร่วมกัน นั้น บางคนก็อาจจะเป็นคู่สร้างคู่สมที่กลายเป็นมาคู่คิด คู่ชีวิตที่ อยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า แต่ก็มีไม่น้อยที่เป็นคู่วรคู่กรม คู่กัด คู่แข่ง หรือบางครั้งก็เป็นเพียงคู่ขา ที่มาอยู่ด้วยกันเพียงครั้งคราวก็ได้ อย่างไรก็ดี คนโบราณขาก็พูดถึงผู้หญิงที่ชายจะได้มาเป็นคู่ครอง ว่ามีอยู่ ภรรยา 7 ประเภท ด้วยกันคือ…

ประเภทของภรรยา

 

1. วรกาภริยา

หมายถึง ภริยาเยี่ยงเพชฌฆาต คือ ภรรยาที่มีจิตคิดทำร้ายสามีของตนอยู่ตลอดเวลา ไม่อนุเคราะห์ ช่วยเหลือสามีของตนด้วยประการทั้งปวง สนใจแต่ประโยชน์ของตน ยินดีและลุ่มหลงในชายอื่นที่หล่อ หรือ รวยกว่า ดูหมิ่นสามีของตน คิดจะขจัดสามีของตนไปไกล ๆ หรือฆ่าให้ตายเสีย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

2. โจรีภริยา

หมายถึง ภรรยาประเภทนี้ อาจจะไม่ร้ายแรงถึงขนาดอยากฆ่าสามีของตน แต่มีสันดานเป็นโจรแก่ไม่หาย รักใคร่ในทรัพย์สินของสามีเพียงเท่นั้น ถึงแม้สามีจะขยันขันแข็งได้ทรัพย์มาโดยทางใด ก็เก็บงำไว้ไม่อยู่ เพราะภรรยาประเภทนี้จะยักยอกทรัพย์ของสามีเสียให้หมด เพื่อความสุขของตัวเองเท่านั้นความร้ายแรงของภรรยาประเภทนี้ อาจถึงขั้นปอกลอกให้สามีหมดทรัพย์สินทุกอย่างที่มี ทำให้เป็นหนี้เป็นสิน และ จากสามีไป

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

3. อัยยาภริยา

หมายถึง ภริยาเยี่ยงนาย กล่าวคือคู่ครองแบบนี้ อาจมีรักมั่นต่อกันอยู่ แต่ผู้เป็นภรรยา จะไม่สนในการ งานทั้งปวง เป็นผู้ขี้เกียจ ปากร้าย ปากมาก ชอบใช้กำลัง ชอบข่มเหงสามี กินมากใช้จ่าย ฟุ่มเฟือย มือ ถึงเท้าถึง ชอบทำร้ายสามี กดขี่ให้สามีเป็นเพียงทาสคนหนึ่ง ผู้เป็นสามีต้องทำงานทุกอย่างและเลี้ยงดภรรยาประเภทนี้ไปจนจะหมดเวรกรรมต่อกัน หรือตายขาดจากกันไป

4. มาตาภริยา หมายถึง ภริยาเยี่ยงมารดา กล่าวคือ ภรรยาประเภทนี้เป็นภรรยาที่ดีมาก ช่วยเกื้อกูลสามีในทุกๆ ด้าน และรักสามีเหมือนลุกคนหนึ่ง ช่วยรักษาทรัพย์ทีสมีหามาไว้อย่างปลอดภัย เป็นภรรยาที่พึ่งพาได้ เสมอ ไม่ว่าจะเจ็บไข้ หรือตกอยู่ในความทุกข์ประการใด เป็นภรรยาที่มีความตีงามเสมอกับแม่อย่าง แท้จริง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

5. ภคินีภริยา หมายถึง ภริยาเยี่ยงพี่สาวน้องสาว คือ ภรรยาที่มีความอ่อนน้อม และ กิริยาเรียบร้อย พูดจาไพเราะ เป็น เหมือนกับพี่สาวน้องสาวที่ดี มีความคารพในสามีของตนและพร้อมจะให้การสนับสนุนในทุกๆ เรื่อง ภรรยาประเภทนี้ มักจะเป็นคนที่ละอายต่อบาป และคล้อยตามความคิดเห็นและอำนาจของสามี มีนิสัย สอดคล้องกับสามีและเข้าใจกันง่ยดุจพี่สาวน้องสาวของสามี

6. สขีภริยา หมายถึง ภริยาเยี่ยงสหาย คือ ภรรยาที่มีความเสมอกับสามีเหมือนเพื่อน มีความรักสามีเหมือนรักเพื่อน ตายคนหนึ่ง มีความกลมเกลียวพร้อมเพรียงกันดี ไม่มีวันทอดทั้งกัน คอยอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่เหมือน เพื่อนรัก สามารถช่วยออกความเห็นและปรึกษาเรื่องกิการงานต่างๆ ได้ และสามีสามารถไว้วางใจให้ ภรรยาประเภทนี้ทำงานต่างๆ แทนได้ เพราะเป็นเหมือนเพื่อนยาก ที่มีทั้งความสามารถและความรักต่อ กันอย่างไม่เสื่อมคลาย

7. ทาสีภริยา หมายถึง ภริยาเยี่ยงทาส คือ ภรรยาที่อยู่ใต้อำนาจของสามีในทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะถูกสามีเฆี่ยนตี ขู ตะคอก ใช้งานหนัก ก็ไม่โกรธ ไม่คิดโต้ตอบสามี เป็นภรรยาที่อดทนในทุกๆ เรื่องของสามี กล่าวคือ หากได้สามีดีก็นับว่าดีไป แต่หากได้สมีที่ไดีเป็นคนเลว ภรรยาประเภทนี้ก็จะถูกข่มเหงรังแก เป็น ทาสรับใช้ตลอดไปจนกว่าจะสิ้นเวรกรรมต่อกัน

ภรรยาที่ดีควรทําอย่างไร

ภรรยาที่ดีควรทําอย่างไร อยากเป็นศรีภรรยาที่ดี ภรรยาที่น่ารัก หน้าที่ของภรรยาที่ดีต้องทำอย่างไร วิธีทำให้สามีตกหลุมรักทุกวัน ไม่นอกใจไปมีคนอื่น เลิกเจ้าชู้ ไม่มีกิ๊ก

หน้าที่ของภรรยาจากธรรมะเพื่อครอบครัวโดยธรรม

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่ชาติยาวัน ใกล้เมืองภัททิยะ อุคคหเศรษฐีผู้เป็นหลานเมณฑกเศรษฐีเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค กราบทูลนิมนต์พระผู้มีพระภาคพร้อมด้วยภิกษุ 3 รูป เพื่อรับภัตตาหารในวันรุ่งขึ้น

วันรุ่งขึ้น พระผู้มีพระภาคเสด็จไปยังนิเวศน์ของท่านอุคคหเศรษฐี หลังจากเสวยเสร็จแล้ว เศรษฐีกราบทูลขอให้พระผู้มีพระภาคทรงกล่าวสอนกุมารีของตนที่จะต้องไปอยู่สกุลสามี เพื่อประโยชน์สุขแก่กุมารีนั้นตลอดกาล

พระผู้มีพระภาคจึงตรัสสอนกุมารีเหล่านั้นด้วยธรรม 5 ประการ คือ

  1. หากหวังความเกื้อกูลอนุเคราะห์ด้วยความเอ็นดูจากมารดาบิดาของสามี จะต้องตื่นก่อน นอนทีหลังท่าน คอยรับใช้ ประพฤติเป็นที่พอใจของท่าน พูดคำเป็นที่รักต่อท่าน
  2. ทำการสักการะ เคารพ นับถือ บูชา บุคคลอันเป็นที่เคารพของสามี คือ มารดาบิดา หรือสมณพราหมณ์
  3. เป็นผู้ขยันไม่เกียจคร้าน ประกอบด้วยปัญญาเครื่องพิจารณาอันเป็นอุบายในการงานภายในบ้านของสามี
  4. รู้การงานที่ทาส คนใช้ หรือกรรมกรภายในบ้านของสามี ว่าทำแล้ว หรือยังไม่ได้ทำ รู้ว่าคนป่วยไข้มี หรือไม่มีกำลัง และแบ่งของเคี้ยวของบริโภคให้ตามเหตุที่ควร
  5. รักษา คุ้มครอง ทรัพย์ ข้าวเปลือก เงิน หรือทองที่สามีหามาได้ให้คงอยู่ ไม่เป็นนักเลงการพนัน ขโมยหรือนักดื่ม ไม่ผลาญทรัพย์ให้พินาศ

สุภาพสตรีผู้มีปรีชา ย่อมไม่ดูหมิ่นสามีผู้หมั่นเพียร เลี้ยงตนอยู่ทุกเมื่อ ให้ความปรารถนาทั้งปวง ไม่ทำสามีให้ขุ่นเคือง ด้วยประพฤติแสดงความหึงหวงสามี และบูชาผู้ที่สามีเคารพ เป็นผู้ขยัน ไม่เกียจคร้าน สงเคราะห์คนข้างเคียงของสามี ประพฤติเป็นที่พอใจของสามี รักษาทรัพย์ที่สามีหามาได้ สตรีใดประพฤติอย่างนี้ ย่อมเข้าถึงความเป็นเทวดาเหล่ามนาปกายิกา

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ที่มา : สะพานธรรมะ @SaphanDhamma

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

10 ประเภทสามีสุดบ้า – ของคุณน่ะยังน้อยไป!

คุณเป็นภรรยาที่ดีหรือเปล่า

สร้างบุญบารมี ให้ได้ลูกที่ดี ลูกที่มีบุญมาเกิด บุญบารมีพ่อแม่สร้างได้

บทความโดย

Tulya