6 วิธี เลี้ยงลูก ให้ถูกทาง ส่งเขาสู่ความสำเร็จในอนาคต
1. เข้าใจธรรมชาติของลูก
เมื่อลูกน้อยเข้าสู่ช่วงอายุ 1-2 ขวบ เป็นวัยที่เริ่มมีความคิด ความอ่านเป็นของตัวเอง และเริ่มกล้าแสดงออกในเรื่องที่เขาสนใจมากขึ้น แต่ปัจจุบันพ่อแม่มือใหม่ส่วนใหญ่มักมองข้ามสิ่งเล็กๆ ที่ลูกสนใจตั้งแต่เด็กๆ เพียงแค่คิดว่า “เดี๋ยวโตไปก็รู้เอง” ดังนั้น การเลี้ยงลูกที่ถูกต้อง คุณแม่จะต้องเริ่มสังเกตพฤติกรรมของลูกอย่างใกล้ชิด ว่าเขาถนัดหรือมีแววความสามารถในเรื่องใดเป็นพิเศษ เพื่อเตรียมความพร้อมได้อย่างเหมาะสมตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วคุณแม่มือใหม่ อย่างเราๆจะรู้ได้อย่างไร ว่าพฤติกรรมเหล่านั้นคือสิ่งที่เขาถนัด? วันนี้เราเลยมีตัวช่วยมาแนะนำนั่นก็คือ แอป “Today For Tomorrow” appเลี้ยงลูกที่เปรียบเสมือนคู่มือสำหรับคุณแม่มือใหม่ ที่ต้องการให้ลูกมีพัฒนาการที่สมบูรณ์แบบ เป็นแอปพลิเคชันเพียงหนึ่งเดียว ที่สามารถวัดแววความสามารถของลูกน้อย เพื่อเป็นแนวทางให้กับคุณแม่ได้มอบโอกาสให้ลูกได้เรียนรู้ในด้านที่เหมาะสม ได้ด้วยฟังก์ชัน “วัดแวว” ผ่านแบบสอบถามพิเศษที่ถูกออกแบบโดย รศ.ดร. อุษณีย์ อนุรุทธ์วงศ์ ผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมพัฒนาศักยภาพและอัจฉริยภาพมนุษย์ และมาพร้อมกับฟังก์ชัน “เบบี้ โมเมนต์” ที่เปรียบเสมือนไดอารี่สำหรับคุณแม่ เพื่อบันทึกทุกพฤติกรรม และโมเมนต์น่ารักๆ รวมถึงติดตามการเปลี่ยนแปลงพัฒนาการของลูกน้อยได้อย่างใกล้ชิดอีกด้วย นอกจากนั้นตอนนี้ Today For Tomorrow ยังจัดกิจกรรมเพื่อให้คุณแม่ได้เข้าไปร่วมสนุกกันอีกด้วย สามารถติดตามรายละเอียดกิจกรรมได้ที่ Hi-Family Club
2. สร้างความสัมพันธ์กับลูก
เพราะแม่คือโลกทั้งใบของลูกน้อย การให้ความรัก ความอบอุ่นกับลูก จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณแม่มือใหม่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แค่การอุ้ม กอด สอนการบ้าน พาลูกเข้านอน โดยเฉพาะ “การเล่นกับลูก” ก็จะช่วยสร้างสายใยรักที่แข็งแกร่งขึ้นได้ และยังช่วยพัฒนาลูกให้มีพื้นฐานในการก้าวผ่านอุปสรรค เพราะการเล่นจะนำไปสู่การเรียนรู้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรู้จักสิ่งแวดล้อม รู้จักช่างสังเกต ได้เรียนรู้กระบวนการคิด วางแผน ทำให้เด็กพัฒนาไปสู่วิถีการดำเนินชีวิตในอนาคตต่อไปได้
3. สอนให้ลูกเข้าสังคม
การที่คนๆ หนึ่งจะประสบความสำเร็จในชีวิต ต้องรู้จักการเข้าสังคม ซึ่งทักษะทางสังคม ไม่ได้มีมาตั้งแต่กำเนิด แต่ต้องอาศัยการฝึกฝน คุณแม่อาจจะฝึกลูกให้เข้าสังคมได้โดยเริ่มจากสอนให้ลูกเข้ากับคนในครอบครัวก่อน เมื่อคุ้นเคยแล้ว ก็ค่อยๆ สร้างให้ลูกมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ เช่น เพื่อนข้างบ้าน เมื่อถึงเวลาที่พวกเขาต้องเข้าสู่รั้วโรงเรียน เขาก็จะสามารถรู้จักการทำงานเป็นกลุ่ม เข้าอกเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น รู้จักควบคุมอารมณ์ของตัวเอง และใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้
4. อย่าใช้ความเครียด
เพราะอารมณ์ของคุณแม่ ส่งตรงถึงลูก ถ้าหากคุณแม่เครียดอยู่ตลอดเวลา เด็กๆ ก็จะได้รับและซึมซับอารมณ์เครียดๆ ตามไปด้วย อาจส่งผลต่อการเรียนรู้และพัฒนาการด้านต่างๆ ของลูกได้ ฉะนั้นคุณแม่ควรทิ้งความเครียดไว้เบื้องหลัง แล้วหันมาเป็นคุณแม่มือใหม่ที่มีความสุขเถอะค่ะ ลองส่งรอยยิ้มให้ตัวเองหน้ากระจกในทุกๆ เช้า เพื่อสร้างความรู้สึกดีๆ ให้ตัวเอง แล้วยังเป็นการเติมเต็มความมั่นใจก่อนเริ่มต้นกิจกรรมต่างๆ หรือคุณแม่ควรใช้เวลาพูดคุยปรึกษาหรือทำกิจกรรมร่วมกันภายในบ้าน เพราะนอกจากจะเป็นการเติมเต็มพลังรักแล้ว ยังเป็นการสานสัมพันธ์ที่ดีต่อกันในครอบครัวอีกด้วย
5. ให้ลูกรู้จักความพยายาม และกล้าเผชิญความล้มเหลว
การที่พ่อแม่ให้ลูกได้เรียนรู้ และกล้าเผชิญกับความล้มเหลว จะส่งผลให้เขามีความพยายาม และมีความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิตมากขึ้น ทำให้ลูกรู้จักจัดการกับอารมณ์และความรู้สึกของตัวเอง ก่อให้เกิดภูมิคุ้มกันอุปสรรค พร้อมที่จะเผชิญ และเอาชนะทุกปัญหาในอนาคตได้
6. เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก
เพราะหูเล็กๆ ของลูกกำลังเปิดเพื่อรับฟัง ตาของลูกกำลังมองสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวเขา การที่จะให้ลูกประสบความสำเร็จได้ คุณแม่ก็ควรทำให้ลูกเห็นเป็นตัวอย่าง ให้เขาได้รับรู้ว่ากว่าที่แม่จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้นั้น ต้องผ่านอุปสรรคมากมาย ต้องใช้ความอดทน ความพยายาม และความรับผิดชอบ เมื่อลูกรับรู้ก็จะเกิดการซึมซับ และทำตาม เกิดเป็นพฤติกรรมการเรียนรู้ที่นำไปสู่การพัฒนาตนเอง และเป็นจุดเริ่มต้นสู่ความสำเร็จในอนาคต
การเลี้ยงลูกให้เป็นคนดีและประสบความสำเร็จในชีวิตนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินกว่าที่จะทำได้ เพียงแค่อบรมบ่มนิสัยที่ดี สอนลูกให้ถูกทาง ก็สามารถช่วยให้เขาก้าวไปสู่ความสำเร็จในอนาคตได้แล้ว แต่ที่สำคัญอย่าลืมให้ความรัก และความอบอุ่นภายในครอบครัวกันด้วยนะคะ