ทำความรู้จัก 5 โรคพบบ่อยในเด็กวัยเรียน พร้อมประเมินค่าใช้จ่ายในการรักษา และเทคนิครับมือฉบับคุณแม่มืออาชีพ

เปิดเทอมทีไร นอกจากคุณพ่อคุณแม่แต่ละบ้านจะวุ่นวายอยู่กับการจัดเตรียมอุปกรณ์การเรียนให้เจ้าตัวเล็กแล้ว ยังมีเรื่องน่ากังวลที่ทำให้ผู้ปกครองส่วนใหญ่อดห่วงไม่ได้ คือ โรคต่าง ๆ ที่มักแพร่ระบาดอยู่ในหมู่ของเด็กวัยเรียน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

โรคพบบ่อยในเด็กวัยเรียน เป็นโรคที่ระบาดเป็นวงกว้างในกลุ่มของเด็กที่อยู่ในเกณฑ์เข้าเรียน โดยเฉพาะเด็กในวัยประถมศึกษาตอนต้น (อายุ 6 ปีขึ้นไป) ที่มีเพื่อนร่วมห้องเรียนเยอะมากกว่าวัยอนุบาล ทั้งยังเป็นช่วงวัยที่ระบบภูมิคุ้มกันยังพัฒนาไม่เต็มที่ และดูแลตัวเองได้ไม่ดีเท่าเด็กโต ดังนั้น เมื่อมีเด็กป่วย 1 คน จึงติดต่อกันง่ายและรวดเร็วมาก ทั้งจากการสัมผัส หายใจ และใช้ของใช้ร่วมกัน เมื่อป่วย 1 ครั้ง ก็จะมีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลจำนวนมาก 

เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมก่อนพาลูกไปโรงเรียน จึงอยากชวนคุณแม่มาทำความรู้จักกับ 5 โรคสุดฮิตต้อนรับเปิดเทอม วิธีการป้องกัน และการวางแผนการเงินในวันที่ลูกป่วย ฉบับคุณแม่มืออาชีพกันค่ะ

ทำความรู้จัก 5 โรคพบบ่อยในเด็กวัยเรียน

 

1.โรคมือเท้าปาก

เป็น โรคพบบ่อยในเด็กวัยเรียน สาเหตุของโรคมือเท้าปาก เกิดจากเชื้อไวรัสในลำไส้ที่เข้าสู่ปาก จากการสัมผัสน้ำลาย น้ำมูก น้ำจากตุ่มพุพองของผู้ป่วยโรคมือเท้าปาก และการไอจามรดกัน เด็กที่เป็นโรคนี้จะมีตุ่มแดงขึ้นตามลิ้น เหงือก กระพุ้งแก้ม ฝ่ามือ นิ้วมือ และก้น ผื่นที่พบนี้มักไม่มีอาการคันและหายไปภายใน 7 – 10 วัน หากคุณแม่พบว่าลูกเป็นโรคมือเท้าปาก ควรหยุดเรียน อยู่บ้านเพื่อสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หากลูกมีไข้สูง หอบ อาเจียนบ่อย แขนขาอ่อนแรง ชัก ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

ค่ารักษาพยาบาล: สำหรับค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชน ในการรับคำปรึกษาจากแพทย์เบื้องต้น (OPD) เริ่มต้นครั้งละ 1,000 – 3,000 บาท หากมีอาการรุนแรง และจำเป็นต้องเข้าพักเพื่อรับการรักษาในโรงพยาบาล (IPD) จะมีค่าใช้จ่ายสำหรับห้องพักเริ่มต้นวันละ 4,500 – 30,000 บาท และค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเริ่มต้น 30,000 – 120,000 บาท (ค่าใช้จ่ายจริง อาจแตกต่างไปตาม อาการ เทคนิคการรักษา และโรงพยาบาลที่เข้ารับการรักษา)

การป้องกัน: หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วย ล้างทำความสะอาดมือบ่อย ๆ และงดใช้ภาชนะร่วมกับผู้ป่วย

2.ไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus)

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เป็นเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจได้ทั้งส่วนบนและส่วนล่าง ทำให้ร่างกายผลิตเสมหะออกมาจำนวนมาก ติดต่อผ่านการไอ จาม และสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่น น้ำมูก น้ำลาย และเสมหะ แม้ปัจจุบันอัตราการเสียชีวิตของเด็กที่ติดเชื้อไวรัส RSV โดยตรงมีจำนวนน้อยมาก แต่หากเกิดขึ้นในเด็กวัยเรียน หรือเด็กที่เป็นโรคประจำตัว อย่าง โรคหัวใจ โรคปอด หรือเด็กที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ก็อาจมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง อย่าง ระบบหายใจล้มเหลว ทำให้เสียชีวิตได้

ค่ารักษาพยาบาล: สำหรับค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชน ในการรับคำปรึกษาจากแพทย์เบื้องต้น (OPD) เริ่มต้นครั้งละ 1,000 – 3,000 บาท หากมีอาการรุนแรง และจำเป็นต้องเข้าพักเพื่อรับการรักษาในโรงพยาบาล (IPD) จะมีค่าใช้จ่ายสำหรับห้องพักเริ่มต้นวันละ 4,500 – 30,000 บาท และค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเริ่มต้น 50,000 – 150,000 บาท (ค่าใช้จ่ายจริง อาจแตกต่างไปตาม อาการ เทคนิคการรักษา และโรงพยาบาลที่เข้ารับการรักษา)

การป้องกัน: ล้างมือบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับคนแปลกหน้า หมั่นทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน

3.ไข้หวัดใหญ่

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เป็นโรคยอดฮิตที่เด็ก ๆ เป็นกันบ่อยในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว เด็ก ๆ ส่วนใหญ่มักติดเชื้อไข้หวัดใหญ่จากเพื่อน ๆ ในห้องเรียน จากการไอ จาม และสัมผัสใกล้ชิดกับเพื่อนที่ป่วย สำหรับอาการของไข้หวัดใหญ่จะแตกต่างกันไปตามช่วงวัยและความแข็งแรงของร่ายกาย ถ้าเป็นเด็กโตและวัยรุ่น จะมีไข้สูงเฉียบพลัน หนาวสั่น ปวดเมื่อยร่างกาย โดยเฉพาะแขน ต้นขา ขา และหลัง มีน้ำมูกใส คัดจมูก ไอแห้ง เจ็บคอ และเบื่ออาหาร ส่วนในเด็กเล็กมักมีไข้สูง ถ่ายเหลว คลื่นไส้ และชัก

ค่ารักษาพยาบาล: สำหรับค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชน ในการรับคำปรึกษาจากแพทย์เบื้องต้น (OPD) เริ่มต้นครั้งละ 1,000 – 3,000 บาท หากมีอาการรุนแรง และจำเป็นต้องเข้าพักเพื่อรับการรักษาในโรงพยาบาล (IPD) จะมีค่าใช้จ่ายสำหรับห้องพักเริ่มต้นวันละ 4,500 – 30,000 บาท และค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเริ่มต้น 46,000 -80,000 บาท (ค่าใช้จ่ายจริง อาจแตกต่างไปตาม อาการ เทคนิคการรักษา และโรงพยาบาลที่เข้ารับการรักษา)

การป้องกัน: ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ประจำทุกปี สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วย

4.ไข้เลือดออก

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue Virus) ซึ่งมีทั้งหมด 4 สายพันธุ์ มียุงลายเป็นพาหะ อาการของโรคไข้เลือดออกที่พบบ่อยในเด็ก คือ มีไข้สูงหลายวัน ร่วมกับมีอาการหวัด ปวดเมื่อยตามตัว เบื่ออาหาร อาเจียน  และมีจุดเลือดตามผิวหนัง อาจมีเลือดออกที่อวัยวะต่าง ๆ ถ่ายเป็นสีดำ อาเจียนเป็นเลือด เกล็ดเลือดต่ำ บางรายเมื่อไข้ลดลงก็มีภาวะช็อค หมดสติ และหยุดหายใจ

ค่ารักษาพยาบาล: สำหรับค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชน ในการรับคำปรึกษาจากแพทย์เบื้องต้น (OPD) เริ่มต้นครั้งละ 1,000 – 3,000 บาท หากมีอาการรุนแรง และจำเป็นต้องเข้าพักเพื่อรับการรักษาในโรงพยาบาล (IPD) จะมีค่าใช้จ่ายสำหรับห้องพักเริ่มต้นวันละ 4,500 – 30,000 บาท และค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเริ่มต้น 24,000 -85,000 บาท (ค่าใช้จ่ายจริง อาจแตกต่างไปตาม อาการ เทคนิคการรักษา และโรงพยาบาลที่เข้ารับการรักษา)

การป้องกัน: ทำลายแหล่งเพราะพันธุ์ยุงลาย สวมใส่เสื้อผ้ามิดชิด และหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ยุงเยอะ

5.ท้องเสียจากไวรัสโรต้า

เป็นโรคติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินอาหาร ทำให้เกิดอาการท้องร่วงรุนแรง อาเจียน และซึ่งถ้าเกิดในเด็กอาจเสียชีวิตได้ โรคนี้ติดต่อผ่านการรับเชื้อไวรัสโรต้าผ่านทางปาก หลังจากการรับเชื้อไปประมาณ 2 – 5 วัน จะมีอาการท้องเสีย ถ่ายเหลว ถ่ายบ่อยมากถึงวันละ 3 – 9 ครั้ง บางรายมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนหนัก มีไข้สูงถึง 39 องศาเซลเซียส มีน้ำมูก ไอ อ่อนเพลีย และเกิดอาการช็อก หากพบว่ามีอาการอ่อนเพลีย ซึม ไม่มีแรง ปัสสาวะน้อยและมีสีเข้ม ตัวเย็น ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที

ค่ารักษาพยาบาล: สำหรับค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชน ในการรับคำปรึกษาจากแพทย์เบื้องต้น (OPD) เริ่มต้นครั้งละ 1,000 – 3,000 บาท หากมีอาการรุนแรง และจำเป็นต้องเข้าพักเพื่อรับการรักษาในโรงพยาบาล (IPD) จะมีค่าใช้จ่ายสำหรับห้องพักเริ่มต้นวันละ 4,500 – 30,000 บาท และค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเริ่มต้น 20,000 -80,000 บาท (ค่าใช้จ่ายจริง อาจแตกต่างไปตาม อาการ เทคนิคการรักษา และโรงพยาบาลที่เข้ารับการรักษา)

การป้องกัน: ฉีดวัคซีนเสริมภูมิคุ้มกันไวรัสโรต้าโดยเริ่มหยอดวัคซีนตั้งแต่อายุ 6 สัปดาห์  หมั่นล้างมือบ่อยๆ ทำความสะอาดของเล่นและของใช้ในบ้านเป็นประจำ

 

เมื่อลูกป่วยหนัก = ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลหนัก 

ยิ่งลูกป่วยหนักด้วยโรคร้ายแรงมากเท่าไร ค่าใช้จ่ายจิปาถะ เช่น ค่ารักษา ค่ายา ค่าหมอ ค่าอุปกรณ์และเจ้าหน้าที่เทคนิคการแพทย์ต่าง ๆ ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว คงไม่มีพ่อแม่คนไหนที่อยากให้ลูกเผชิญความเจ็บป่วยนาน หรือต้องรอเข้าคิวเพื่อรับการรักษาพยาบาลเป็นวัน ๆ แน่ แต่ทางเลือกที่รวดเร็วและสะดวกสบายที่สุด กลับต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงมาก แม้คุณพ่อคุณแม่จะป้องกันและเฝ้าระวังมากแค่ไหน แต่โอกาสที่ลูกจะปลอดภัย 100% ในวันที่ต้องไปโรงเรียนหรืออยู่นอกบ้าน ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้

 

ในวันที่ลูกป่วยหนัก ควรรับมืออย่างไรดี?

การวางแผนรับมือกับค่าใช้จ่ายในวันที่สมาชิกครอบครัวเจ็บป่วย อย่าง การซื้อประกันสุขภาพ ที่มีแผนความคุ้มครองคุ้มค่า ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ทั้งในฐานะของผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก ค่ายา ค่าผ่าตัด ค่าห้อง ค่าอาหาร และค่ารักษาต่อเนื่องภายหลังออกจากโรงพยาบาล ไม่ว่าจะป่วยด้วยไข้หวัดธรรมดา หรือต้องเผชิญหน้าโรคร้ายแรง ก็นับเป็นตัวช่วยที่ดีที่ช่วยลดความกังวลเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ของแต่ละครอบครัวได้มาก แต่ประกันแบบไหนจะมาพร้อมเงื่อนไขแฮปปี้ดีต่อใจกันล่ะ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

รีวิว เทคนิคกำจัดเงื่อนไขในวันที่ลูกต้องการการรักษาที่ดีที่สุด ฉบับคุณแม่มืออาชีพ

 

เมื่อลูกหรือคนในครอบครัวเจ็บป่วย การมีตัวช่วยดี ๆ อย่าง ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย AIA HEALTH HAPPY ที่ขยายกรอบจำกัด ด้วยแผนประกันดี ๆ ซึ่งคุ้มครองในวันที่คุณและครอบครัวทุกข์กาย แต่ไม่มีทางทุกข์ใจ ด้วยวงเงินความคุ้มครองสูงสุดถึง 25 ล้านบาท รับผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่าย ไม่จำกัดวงเงินต่อการเข้าพักรักษาตัวในแต่ละครั้ง หากพบว่าเป็นโรคร้ายแรง รับผลประโยชน์เพิ่มสูงสุดเป็น 2 เท่า ต่อเนื่องรวมเป็น 4 ปี กรมธรรม์ รับประกันเด็กตั้งแต่อายุ 6 ปีเป็นต้นไป ถึงอายุ 75 ปี ต่ออายุถึง 84 ปี คุ้มครองถึงอายุ 85 ปี เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะคุณลูก หรือคุณพ่อ คุณแม่ ก็สามารถทำประกัน AIA HEALTH HAPPY ได้ เพื่อเป็นตัวช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวหากมีใครคนใดคนหนึ่งเกิดการเจ็บป่วย หากเลือกแผนประกันที่ใช่ ทุกคนก็สามารถใช้ชีวิตได้แฮปปี้ยิ่งขึ้น

 

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม คลิก

 

หมายเหตุ: ข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครองจะระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยที่ออกให้กับผู้ถือกรมธรรม์

 

 

บทความโดย

theAsianparent Editorial Team