รู้ก่อนพร้อมก่อน 5 สิ่งที่แม่ท้องทุกคนต้องรู้ก่อนผ่าคลอด และ เทคนิคดูแลแผลผ่าคลอดให้สวยเนียน

นับตั้งแต่วันที่ทราบข่าวดีว่ากลายเป็นคุณแม่ป้ายแดง วิถีชีวิตของผู้หญิงคนนึงก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง คุณแม่ส่วนมากเริ่มหาความรู้เกี่ยวกับการบำรุงร่างกายเพื่อให้เบบี๋ให้ครรภ์มีสุขภาพแข็งแรง แต่น้อยคนนักที่จะเริ่มศึกษาวิธีการคลอด หรือทำความเข้าใจในเรื่องการผ่าคลอด ตลอดจน เทคนิคการดูแลแผลผ่าคลอดให้สวยเนียน ตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรก ๆ

การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ วิธีการคลอดแบบต่าง ๆ สามารถทำได้ตั้งแต่ตั้งครรภ์ไตรมาสแรก ๆ โดยเฉพาะหากคุณแม่ที่มีแนวโน้มต้องผ่าคลอด การทราบ เทคนิคการดูแลแผลผ่าคลอดให้สวยเนียน ก็จะช่วยให้คุณแม่ดูแลตัวเองได้ดี และคลายกังวลเรื่องแผลเป็นบริเวณหน้าท้อง ที่มักกลายเป็นปัญหาใหญ่ในชีวิตของคุณแม่ผ่าคลอดจำนวนมาก

ทีมงาน theAsianparent จึงรวบรวมเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับ การผ่าคลอด (Cesarean Section) เพื่อให้คุณแม่มีความเข้าใจ และเตรียมตัวให้พร้อมตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์ไตรมาสแรก ๆ รวมทั้งยังไม่ลืมที่จะหยิบ เทคนิคการดูแลแผลผ่าคลอดให้สวยเนียน มาฝากกันด้วยค่ะ

5 สิ่งที่แม่ท้องต้องรู้ก่อนผ่าคลอด

 

  • ปัจจัยในการผ่าคลอด โดยปกติคุณหมอจะแนะนำให้คุณแม่คลอดด้วยวิธีธรรมชาติ (Normal Labor) แต่ในบางกรณีหากคุณหมอพิจารณาแล้วว่ามีปัจจัยที่จำเป็นต้องทำการผ่าคลอด เช่น คุณแม่ไม่สามารถคลอดทารกได้เอง เนื่องจากมีความผิดปกติทางร่างกาย และมีโรคที่ส่งผลให้เป็นอันตรายระหว่างคลอด หรือทารกมีความผิดปกติ จนไม่สามารถรอให้คลอดเองตามธรรมชาติได้ รวมทั้งคุณแม่มีประวัติเคยผ่าคลอดมาก่อนในการตั้งครรภ์ที่ผ่านมา คุณหมอก็จะแนะนำให้คุณแม่เข้ารับการผ่าคลอดเป็นเคส ๆ ไป
  • ผ่าคลอดมีกี่แบบ วิธีการผ่าคลอดที่คุณหมอเลือกใช้ในปัจจุบันมี 3 แบบ คือ ผ่าคลอดแนวตั้ง (Classical Incisions) เป็นการผ่าตัดโดยมีแผลแนวตั้งลากยาวจากใต้สะดือลงมาถึงบริเวณหัวหน่าว วิธีนี้ไม่ค่อยเป็นที่นิยมนัก ต่างจาก การผ่าคลอดแบบแนวนอน (Low Tansverse Incisions) หรือที่เรียกกันว่า แนวบิกีนีไลน์ การผ่าคลอดแบบนี้จะมีแผลแนวขวาง ซึ่งมีข้อดี คือ เป็นแผลเป็นน้อยกว่า เจ็บแผลน้อยกว่า และดูแลแผลให้กลับมาสวยเนียนได้ง่ายกว่า
  • ผ่าคลอดน่ากลัวไหม การผ่าคลอดมีความปลอดภัยสูง โดยส่วนมากคุณหมอจะผ่าคลอดด้วยวิธีการบล็อกหลัง ซึ่งคุณแม่จะรู้ตัว แต่ไม่รู้สึกเจ็บปวดในบริเวณที่ผ่าตัด ตั้งแต่บริเวณชายโครงไปถึงปลายเท้าตลอดการผ่าคลอด ทำให้คุณแม่สามารถเห็นหน้าลูกน้อยได้ทันที รวมทั้งได้โอบกอดลูกน้อยขณะดูดนมจากเต้าของคุณแม่ ซึ่งเป็น น้ำนมเหลือง ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างน้ำนม และเพิ่มภูมิคุ้มกันหลังคลอดให้กับทารก
  • การดูแลตัวเองหลังผ่าคลอด คุณแม่จะใช้เวลาในการฟื้นตัวหลังผ่าคลอดประมาณ 24 ชั่วโมง และได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายใน 3 – 5 วัน โดยคุณหมอจะแนะนำให้คุณแม่พยายามเคลื่อนไหวให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้แผลเกิดพังผืด และช่วยให้แผลสมานตัวกันได้เร็วยิ่งขึ้น
  • แผลผ่าคลอด ฝันร้ายของผู้หญิงทุกคน? หนึ่งในสิ่งที่คุณแม่ผ่าคลอดส่วนใหญ่เป็นกังวลคือ แผลเป็นบนหน้าท้อง กลัวว่าจะไม่สามารถกลับมาสวมใส่เสื้อผ้าตัวเก่งได้เนื่องจากรอยแผลที่ไม่น่าอภิรมย์ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว หากคุณแม่ดูแลแผลผ่าคลอดอย่างดีตามคำแนะนำของคุณหมอ แผลผ่าคลอดก็ไม่ใช่ฝันร้ายอีกต่อไป

เทคนิคดูแลแผลผ่าคลอดให้ฟื้นตัวเร็ว แผลสวยเรียบเนียน เรียกคืนความมั่นใจได้ 100%

โดยปกติเมื่อร่างกายเกิดบาดแผล ผิวหนังจะมีการสมานตัวโดยการสร้างคอลลาเจนมาฟื้นฟูผิวบริเวณนั้น ในขณะเดียวกันหากร่างกายมีการผลิตคอลลาเจนมากจนเกินไป ก็ส่งผลให้เกิดเป็นแผลนูนแดง หรือ แผลคีลอยด์ แบบที่คุณแม่ส่วนใหญ่กลัวขึ้นได้ เพื่อลดการเกิดรอยแผลเป็นไม่พึงประสงค์ นอกจากการดูแลความสะอาดเป็นประจำแล้ว คุณหมอจะแนะนำให้คุณแม่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น มีวิตามินอี สามารถปกป้องผิว ลดการอักเสบ และช่วยให้คอลลาเจนทำหน้าที่สมานแผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ คืนความสวยงามให้กับหน้าท้องของคุณแม่ และสามารถกลับมาสวมใส่ชุดโปรดได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง

ซึ่ง ผลิตภัณฑ์ดูแลแผลผ่าคลอด เดอร์มาติกซ์ อัลตร้า (Dermatix Ultra) คือ ซิลิโคนเจลที่ช่วยลดเลือนรอยแผลเป็น และแผลผ่าคลอด ที่คุณหมอแนะนำส่วนใหญ่ให้ใช้ และคุณแม่จำนวนมากไว้วางใจ ด้วย CPX เทคโนโลยี ที่ช่วยให้แผลเป็นอ่อนนุ่มและ วิตามินซี เอสเตอร์ ในซิลิโคนเจล ที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ช่วยให้รอยแผลเป็นสีจางลง  เนื้อนุ่ม บางเบา เกลี่ยง่าย ไม่มีกลิ่น ซึมสู่ผิวได้ดีโดยไม่ทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ มอบความชุ่มชื้นสู่ผิวอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยปกป้องผิวจากสารเคมี เชื้อจุลินทรีย์และแบคทีเรีย รวมทั้งรังสี UVA และ UVB ช่วยปรับเม็ดสีส่วนเกินให้ผิวกระจ่างใส ให้ผลลัพธ์ดีที่สุดในการป้องกันแผลเป็นแบบนูน (hypertrophic scar) *  เช่น แผลผ่าคลอด แผลผ่าตัดศัลยกรรม แผลจากอุบัติเหตุ ฯลฯ ช่วยให้ความนูนของแผลลดลง นุ่มขึ้น และสีจางลง

 

คุณแม่สามารถทา เดอร์มาติกซ์ อัลตร้า (Dermatix Ultra) ซึ่งเป็น ซิลิโคน เจล ลงบนแผลได้ทันทีหลังจากตัดไหม รอยเย็บจางลง หรือบาดแผลสมานกันดีแล้ว (หรือราว 7 – 14 วัน หลังผ่าคลอด แต่ไม่แนะนำให้ใช้ขณะบาดแผลยังเปิดอยู่) ใช้ได้ทุกวันหลังทำความสะอาดแผลและเช็ดให้แห้ง ด้วยการบีบเจลลงบนนิ้วขนาดเท่าเมล็ดถั่วเขียว ปาดบาง ๆ ไม่ต้องนวดวน บริเวณรอยแผลเป็นขนาดยาวประมาณ 6 นิ้ว รอเพียง 1 – 2 นาที ก็สามารถใช้เครื่องสำอาง ทาครีมกันแดด หรือสวมเสื้อผ้าทับได้ทันที ใช้ทาวันละ 2 ครั้ง (เช้า – เย็น) ต่อเนื่องอย่างน้อย 3 – 6 เดือน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คืนหน้าท้องที่สวยงาม และมอบความมั่นใจในการใช้ชีวิตของคุณแม่กลับคืนมาอีกครั้ง

 

 

เดอร์มาติกซ์ อัลตร้า (Dermatix Ultra) มีให้เลือก 3 ขนาด คือ 5 กรัม, 9 กรัม และ 15 กรัม มีวางจำหน่ายในร้านขายยาทั่วไป

 

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม คลิกที่นี่

 

*ให้ผลลัพธ์ที่ดีสำหรับรอยแผลที่เกิดขึ้นในระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี

 

ข้อมูลอ้างอิง pobpad

 

 

บทความโดย

theAsianparent Editorial Team