1. ต้องแน่ใจว่าลูกคุณพร้อมที่จะมีสัตว์เลี้ยง
หากลูกคุณแสดงความสนอกสนใจอยากจะเลี้ยงสัตว์ คุณควรหาข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์ชนิดนั้น ๆ ให้ได้มากที่สุดเท่าที่คุณสามารถทำได้ มันสำคัญมากที่จะทำให้เด็ก ๆ เข้าใจว่าสัตว์นั้นคล้ายคลึงกับมนุษย์ คือ มันสามารถมีปัญหาสุขภาพ ติดโรค และตายได้ การพูดคุยทำความเข้าใจกับลูกในเรื่องนี้เป็นวิธีที่ดีที่จะสอนให้เด็กมีความรับผิดชอบในการให้อาหารและดูแลสัตว์เลี้ยงของพวกเขา ใช้สัญชาตญาณในความเป็นพ่อแม่ของคุณในการตัดสินใจว่าลูกคุณพร้อมแล้วที่จะมีสัตว์เลี้ยงหรือควรจะต้องรอต่อไปอีกสองสามปี
บทความแนะนำ: ลูกพร้อมมีสัตว์เลี้ยงหรือยัง
2. อย่าปล่อยให้ลูกคุณมีแค่เพียงสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อน
บางครอบครัวตัดสินใจซื้อสัตว์เลี้ยงให้ลูกเพื่อคลายความเหงาและให้สัตว์เลี้ยงเป็นเหมือนเพื่อนคู่หูของเด็ก แม้จะเป็นการดีที่จะให้เด็กสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับสัตว์เลี้ยง แต่เด็กก็ควรได้ใช้เวลากับพ่อแม่ ญาติพี่น้องและเพื่อนในวัยเดียวกัน เด็กที่เข้าใจว่าสัตว์เลี้ยงคือเพื่อนสนิทที่สุดที่เขามี จะทำใจรับกับการจากไปของสัตว์เลี้ยงนั้น ๆ ได้ยาก เราคงห้ามความรู้สึกผูกพันระหว่างลูกกับสัตว์เลี้ยงไม่ได้ แต่ก็ต้องแน่ใจว่าลูกคุณมีเพื่อนสนิทและสมาชิกในครอบครัวที่สามารถไว้วางใจได้เช่นเดียวกัน
บทความแนะนำ: เด็กทารกและสัตว์เลี้ยงอยู่ร่วมกันได้หรือไม่
3. จดจำช่วงเวลาดี ๆ
การเตือนความจำลูกถึงความทรงจำที่งดงามที่เขามีกับสัตว์เลี้ยงเป็นเรื่องที่ดี ให้ลูกเข้าใจว่าสัตว์เลี้ยงนั้นมีชีวิตที่ดี มีความสุขและสอนให้ลูกรู้สึกขอบคุณที่มีช่วงเวลาที่แสนพิเศษเหล่านั้น ใช้เวลาพูดความจริงกับลูก แต่ไม่จำเป็นต้องพูดรายละเอียดบางอย่างที่ไม่จำเป็นหากคุณรู้สึกว่าลูกอาจยังไม่พร้อมที่จะรับมือกับมัน คุณอาจจะใช้ประโยค เช่น “น้องหมาอยู่บนสวรรค์” เพื่อช่วยบรรเทาอารมณ์เศร้าโศกเสียใจของลูกน้อย
4. ควรปล่อยให้ลูกเศร้าโศกเสียใจ
ขั้นตอนที่สำคัญในการรับมือกับความตาย คือ การมีประสบการณ์พบเจอกับการลาจาก หากลูกคุณต้องการให้มีพิธีการเกี่ยวกับร่างของสัตว์เลี้ยง คุณควรห้ลูกทำได้ พ่อแม่ควรให้ความสำคัญกับการก้าวผ่านความเศร้าโศกอย่างจริงจังและควรให้ลูกได้ระบายความเสียใจโดยให้เป็นไปตามธรรมชาติ
5. อย่ารีบร้อนที่จะซื้อสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ให้ลูก
พ่อ แม่ ไม่ควรแทนที่สัตว์เลี้ยงที่เสียไปแล้วด้วยสัตว์เลี้ยงตัวใหม่เพื่อปลอบใจลูก ถึงแม้ว่าลูกอาจจะขอเลี้ยงสัตว์ตัวใหม่แบบทันทีทันใด แต่คุณควรจะให้เด็ก ๆ ได้มีเวลารักษาใจ ทำใจได้ต่อจากการตายของสัตว์เลี้ยง และได้เรียนรู้ถึงความรู้สึกนั้น เพื่อให้ลูกแข็งแกร่งขึ้นในอนาคต ในขณะเดียวกันคุณควรใช้เวลากับลูกอย่างมีคุณค่าและบอกให้ลูกรู้ว่าหากลูกรู้สึกเศร้าใจหรือคิดถึงสัตว์เลี้ยง ลูกสามารถมาพูดคุยกับคุณได้ทุกเมื่อ
บทความแนะนำ: วิธีเลือกสัตว์เลี้ยงให้เหมาะกับลูก