5 วิธีบอกรัก ภรรยาขณะตั้งครรภ์
ในช่วงที่ภรรยาตั้งครรภ์ ผู้หญิงต้องแบกรับความเปลี่ยนแปลงมากมายทั้งจากภายนอกและภายใน สามีจึงเป็นเหมือนหลักยึดที่ดีที่สุดของภรรยา เราอยากให้คุณสามีดูแลเอาใจใส่ภรรยาให้มากเป็นพิเศษสักหน่อยค่ะ เพราะหากคุณแม่อารมณ์ดีมีความสุข ลูกในท้องก็จะแข็งแรงและมีความสุขไปด้วย เรามาดูกันค่ะว่า มีวิธีไหนบ้างที่สามีสามารถใช้ทำให้ภรรยายิ้มหวานได้ตลอดการตั้งครรภ์
1. ตั้งรับอารมณ์แปรปรวนอย่างเข้าใจ
เป็นเรื่องยากที่ผู้ชายจะทำความเข้าใจอารมณ์ที่เหวี่ยงขึ้นเหวี่ยงลงของภรรยาในช่วงตั้งครรภ์ แต่เชื่อเถอะว่า ภรรยาที่แสนน่ารักของคุณก็ทรมานกับอาการเหวี่ยงของตัวเองเช่นกันค่ะ เธอควบคุมมันไม่ได้ เพราะมันเกิดจากกลไกในร่างกายของเธอที่เปลี่ยนแปลงไป สิ่งที่จะช่วยบรรเทาได้คือความใจเย็นและเข้าอกเข้าใจกัน คุณสามีจึงอาจต้องศึกษาถึงธรรมชาติของแม่ท้อง เพื่อทำความเข้าใจ และดูแลภรรยาของคุณได้
2. หยุดตำหนิภรรยา
ไม่มีอะไรกัดกร่อนหัวใจของคุณแม่ท้องได้เท่ากับคำพูดตำหนิของสามี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรูปร่างหน้าตาของเธอที่เปลี่ยนไป อารมณ์ของเธอที่เปลี่ยนแปลง เราอยากแนะนำให้คุณสามีชื่นชมในข้อดีของภรรยามากกว่าตำหนิหรือหาเรื่องชวนทะเลาะ เพราะเธอกำลังเสียสละทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่เพื่อครอบครัวอยู่นะคะ
3. หมั่นเล่นกับลูกในท้องสม่ำเสมอ
อย่าปล่อยให้คุณแม่ตั้งครรภ์รู้สึกว่า การตั้งครรภ์เป็นหน้าที่ของเธอแค่เพียงฝ่ายเดียว ระหว่างที่ภรรยากำลังตั้งครรภ์ คุณสามีควรแสดงให้เธอรู้ว่า คุณให้ความรักและให้ความสำคัญกับเธอและลูกในท้องเสมอ ด้วยการหมั่นพูดคุยกับลูกในท้องบ่อยๆ นอกจากจะสร้างความอุ่นใจให้คุณแม่แล้ว ยังสร้างความคุ้นเคยและสายสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคุณกับทารกในครรภ์ด้วยนะคะ
4. ทำงานบ้านแทนภรรยา
หากปกติหน้าที่การทำงานบ้านเป็นของภรรยา ตอนนี้คุณจะต้องลุกขึ้นมาเป็นฮีโร่ช่วยเธอทำงานบ้านบ้างนะคะ ภรรยาจะได้ไม่เหนื่อยเกินไป และจะได้ช่วยให้เธอได้พักผ่อน ได้เห็นความรักที่คุณมีต่อเธอด้วยค่ะ
5. โอบกอดและสัมผัส
การโอบกอดและสัมผัสภรรยาเป็นการสร้างความอบอุ่นใจให้เธอได้ดีมาก นอกจากนี้ การสัมผัสนวดเบาๆ ที่หน้าท้อง ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้คุณแม่ตั้งครรภ์รู้สึกผ่อนคลาย และเป็นเหมือนการสร้างสัมพันธ์ระหว่างคุณกับทารกในครรภ์ได้ในอีกทางด้วยค่ะ
6. ไปโรงพยาบาลด้วยอย่าให้ขาด
ระหว่างตั้งครรภ์ แม่ท้องจำเป็นต้องไปพบคุณหมอเป็นประจำ เพื่อตรวจสุขภาพคุณแม่และเช็คสุขภาพลูกในครรภ์ คุณพ่อควรไปเป็นเพื่อนคุณแม่เสมอนะคะ นอกจากจะเพื่อช่วยดูแลคุณแม่แล้ว คุณพ่อจะได้มีส่วนร่วมในการคิด ตัดสินใจ ในกรณีที่เกิดปัญหาต่างๆ ขึ้นได้ด้วยค่ะ
ในช่วงตั้งครรภ์นั้น คุณแม่ตั้งครรภ์มักต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ คุณพ่ออาจจะต้องเหนื่อยหน่อยนะคะ แต่เชื่อเถอะว่า คุณแม่เองก็เหนื่อยไม่แพ้กัน ดังนั้น ช่วงเวลานี้จึงเป็นเหมือนช่วงเวลาพิสูจน์ใจ ขอให้คุณพ่อคุณแม่จับมือพากันไปให้ตลอดรอดฝั่งเลยนะคะ เราเอาใจช่วยค่า
สำหรับว่าที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนที่กำลังจะมีลูกน้อย เชื่อว่าช่วงเวลา 9 เดือนก่อนจะคลอดนั้น เป็นช่วงเวลาที่สำคัญและก็น่าจดจำไม่ใช่น้อยเลย
ในขณะที่หลายคนเตรียมตัวซื้อของให้ลูก จัดเตรียมบ้าน ดูแลทุกอย่างรอบตัวเพื่อรอรับลูกน้อย แต่ผมกลับพบว่าสิ่งที่สำคัญสุดที่เราควรต้องดูแล คือคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ ซึ่งแน่นอนว่าวิธีการดูแลภรรยาของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป แต่ก็มีหลายอย่างที่บางคนมองข้าม
“เราคือคนที่ใกล้ชิดแฟนเรามากที่สุดแล้ว”
แน่นอนว่าคนที่ใกล้ชิดว่าที่คุณแม่ที่สุด ก็คือว่าที่คุณพ่อนี่แหล่ะ แต่ก็เน๊อะ ผู้ชายเรา แค่ดูแลตัวเองยังดูแลไม่ค่อยจะได้เลย มาถึงเวลาต้องดูแลคนท้อง มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายซะทีเดียว
สำหรับการดูแลเบสิค เช่น ช่วยยกของหนัก, ดูแลเรื่องอาหารการกิน เราทุกคนก็น่าจะรู้กันอยู่แล้ว ผมเลยอยากขอแชร์ในบางมุม ที่บางครั้งคุณพ่อมือใหม่อย่างพวกเราก็อาจจะหลงลืมไปก็เป็นได้ ก็เลยขอสรุปออกมาเป็นวิธีดูแลคนท้อง 8 ข้อ ดังนี้เลยจ้า
คนท้องต้องการบำรุงมากกว่าปกติ แน่นอนว่ามีอาหารหลายอย่างที่คนท้องไม่ควรทาน ซึ่งคุณแม่ๆ เองก็คงจะระวังตัวเองเป็นปกติอยู่แล้ว แต่พอต้องงดอาหารหลายอย่าง มันก็กดดันไม่น้อยเหมือนกันนะ
การกินก็เป็นการหาความสุขอย่างนึง ถ้าเรารู้ว่าเค้าทานอะไรได้บ้างไม่ได้บ้าง และรู้ว่าอะไรคือของโปรด จงพาเธอไปซัดให้หมดอย่าให้เหลือ !!
คือพอท้อง บางทีเค้าก็ไม่ค่อยอยากออกไปไหน แต่เชื่อไหมว่าทุกครั้งที่พาเค้าขับรถไปเยาวราช, ร้านอาหารโปรด, ไปนั่งในร้านชิวๆ ยามบ่าย โหย คุณเธอจะฟินมากเป็นพิเศษ
อีกเรื่องคือหลังจากลูกคลอดแล้ว เวลาทานข้าวก็จะน้อยลง กินไม่อร่อยเพราะต้องดูแลลูก ช่วงวันสำคัญๆ เราก็ควรพาเค้าไปทานร้านอาหารบรรยากาศดีๆ บ้าง นอกจากเปลี่ยนอารมณ์แล้ว ยังได้ความมุ้งมิ้งในแบบสามีภรรยาอีกด้วย ^^
เรื่องสำคัญที่สุดสำหรับคุณพ่อที่ไม่ค่อยจะรู้เรื่องการดูแลเด็ก การดูแลคนท้องแบบพวกเรา คือความไม่รู้นี่แหล่ะ ก็ในเมื่อไม่รู้ ก็ต้องทำให้รู้สิจะได้เข้าใจ
ผมพบว่าการพาแฟนไปพบแพทย์ทุกครั้งด้วยตัวเอง เข้าไปฟังหมอด้วยกัน เรียนรู้ไปด้วยกัน เป็นวิธีง่ายที่สุดแล้วที่เราจะเข้าใจคนท้องให้มากขึ้น
“หมอคะ ช่วงนี้ปวดหลังมากเลย ?”
“พวกยาบำรุงนี่กินได้ไหมคะ ?”
“คืนวันก่อนคลอดต้องเตรียมตัวยังไงบ้างคะ ?”
เป็นคำถามที่เชอรี่ถามกับคุณหมอในช่วงที่ฝากครรภ์ ซึ่งตอนที่อยู่บ้านผมเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราจะมีคำถามพวกนี้ แต่พอได้ฟังเราก็เริ่มซึมซับความเป็นแม่ ความลำบากของการตั้งครรภ์มากขึ้นเรื่อยๆ จนเข้าใจกันมากขึ้นนั่นเอง
เชื่อผมเถอะครับว่าเวลา 9 เดือนมันผ่านไปไวมากๆ เผลอแป๊บเดียวคุณก็อยู่หน้าห้องคลอดแล้ว ช่วงเวลาของการตั้งครรภ์ก็ถือเป็นสิ่งที่น่าจดจำไม่ใช่น้อยสำหรับชีวิตครอบครัว
อย่าให้เวลาผ่านไป ควรเก็บบันทึก ไม่ว่าจะเป็นภาพ, วิดีโอ แม้แต่การจดบันทึกอย่างบล็อกหรือเขียนเรื่องราวบน Facebook พอได้กลับมาอ่านมันก็เป็นอะไรที่สนุกไม่น้อยทีเดียวนะ
ผมชวนเชอรี่ถ่ายภาพแบบจริงจัง จ้างตากล้องมาถ่ายแบบ เหมือนตอนถ่าย Pre Wedding ก่อนแต่งงานเลย การได้ภาพสวยๆ ก่อนที่จะคลอดลูกน้อยออกมา เก็บไว้ดูเป็นความทรงจำ น่ารักดีออก แค่ถ่าย Selfie กันแบบน่ารักๆ ก็น่าเก็บไว้ดูแล้ว ขอแนะนำเลยครับ
“คนท้อง ไม่ใช่คนป่วย” เป็นประโยคที่ผมจำได้ขึ้นใจ หลังจากที่คุยกับพี่ๆ ว่าไม่กล้าให้เชอรี่ไปโน่นไปนี่ มีอะไรก็กลัวไปหมด
ซึ่งก็มีคุณพ่อหลายคนนะ ที่กลัวมาก จนให้ภรรยาลาออกมานอนอยู่บ้านเฉยๆ หลายเดือนติดกันคือพอเราถามว่าอยากไปไหนไม๊ ? เค้าก็ตอบแหล่ะว่าไม่ไป กลัวเปลืองตังค์ แต่ยิ่งเราให้เขาอยู่บ้านหรือไปทำงานแล้วก็กลับบ้านเฉยๆ นานเข้า ก็เริ่มเห็นว่ามีความเครียดสะสมไม่ใช่น้อยเลย ซึ่งพอเราได้พาเค้าไปเที่ยว ก็เห็นได้ชัดเลยว่าดูสดชื่นขึ้น เครียดน้อยลงมาก
สุดท้ายผมพาเชอรี่เที่ยวแหลกเลยครับ ไปเที่ยวตั้งแต่หัวหิน, เชียงใหม่, สิงคโปร์ เอาแบบเที่ยวจนนาทีสุดท้ายที่เค้าไม่ให้เที่ยวเลย 5555
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ชื่อนี้ดีตั้งแล้วรวย คู่รัก ตั้งชื่อลูก ตามเครือข่ายอินเตอร์เน็ต จนมีเงินเก็บไว้ให้ลูก
7 วิธีที่ทารกใช้บอกรักคุณ “แม่จ๋าหนูรักแม่นะ”
10 ท่าทาง ภาษาบอกรักของทารก ถึงพูดไม่ได้หนูก็จะทำให้รู้ว่ารักแม่
https://www.soimilk.com/restaurants-bars/news/romantic-restaurants-bangkok-valentines