#1 คุณจะหยุดแต่งตัวลูกด้วยชุดที่น่ารักน่าเอ็นดู
เมื่อลูกคนแรกนั้นได้กลายเป็น “หนูทดลอง” สำหรับแฟชั่นการแต่งตัวต่าง ๆ ผ่านมือคุณแม่มาแล้ว ก็น่าจะเชื่อได้ว่าสำหรับลูกคนที่สองนั้นจะมีโอกาสปลอดภัยจากสไตล์ที่ไม่โอเคมาแล้วสำหรับลูกคนแรก
#2 หมดความกังวลเรื่องเชื้อโรคเหมือนตอนเลี้ยงลูกคนแรก
สำหรับลูกคนแรกนั้น คุณแม่จะรู้สึกว่าเรื่องเชื้อโรคนั้นเป็นเรื่องที่น่ากลัวอย่างมาก และลูกน้อยไม่สมควรจะที่โดนเจ้าเชื้อโรคเหล่านี้มารังแกได้ คุณแม่จะใช้เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันทำความสะอาดและทำให้แน่ใจว่าภายในบ้านนั้นปราศจากเชื้อโรคต่างๆ 99% แต่หลังจากที่คุณมีลูกคนแรกผ่านไป ความกังวลเหล่านั้นก็หมดไป
#3 คำจำกัดความของคำว่า “ความสะอาด” จะเปลี่ยนไป
เมื่อพูดถึงเรื่องความสะอาด ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยนะกับการดูแลลูกสองคนพร้อม ๆ กันในเวลาที่คุณกำลังซักผ้า ล้างจาน ถูบ้าน ขัดห้องน้ำ และคอยดูแลความสะอาดของบ้านส่วนอื่น ๆ เพื่อความสบายใจสูงสุด คุณอาจจะปล่อยวางบางสิ่งไปบ้างซักวันสองวันแล้วค่อยทำมัน
#4 คุณเลิกที่จะคอยมานั่งบันทึกรายละเอียดทุกอย่างของลูกๆ
เมื่อตอนเป็นคุณแม่มือใหม่นั้น ดูเหมือนจะมีความกระตือรือร้นอย่างมากในการจดบันทึกพัฒนาการในทุก ๆ ช่วงเวลาของลูก รวมถึงเก็บภาพความน่ารักของลูกน้อยไม่เว้นวัน แต่มาถึงลูกคนที่สองนั้นอาจจะไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว เพราะสิ่งที่คุณสนใจมากกว่าก็คือการทำให้ลูก ๆ นั้นหยุดร้องไห้โยเย และหวังว่าลูก ๆ จะไม่เล่นซนอะไรให้เละเทะจนเกินไปหากปล่อยให้เด็ก ๆ เล่นด้วยกัน
#5 คุณจะเลิกวิตกกังวลจนเกินเหตุ
สำหรับคนที่เริ่มต้นเป็นแม่นั้นจะดูแลทารกน้อยที่เกิดมาเป็นพิเศษ แต่เมื่อมาถึงลูกคนที่ 2 แล้วคุณแม่จะมีความรู้สึกที่ผ่อนคลายและใจเย็นมากขึ้น เพราะได้ผ่านความกลัวหรือรู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง มาถึงคนลูกคนที่ 2 ก็ทำให้คุณแม่ชิล ๆ มากขึ้น (แต่ความเหนื่อยเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่า)
Source : www.sg.theasianparent.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
บอกสามียังไงดีว่าอยากมีลูกอีกคน?
แม่เปลี่ยนไปเป็นแบบนี้ เมื่อท้องลูกคนที่ 2