จากผลการสำรวจของ theAsianparent ในเรื่องพฤติกรรมของผู้บริโภคสินค้าสำหรับเด็กกับกลุ่มคุณแม่ที่แม่ลูกตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 3 ขวบ ที่ใช้สื่อออนไลน์เป็นประจำ จำนวน 752 ท่าน ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม – 25 กุมภาพันธ์ 2016 ที่ผ่านมา พบว่าคุณแม่ได้ให้ความสนใจกับข้อมูลก่อนการตัดสินใจเลือกใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็ก ซึ่งจากผลการสำรวจครั้งนี้ทำให้ทราบถึง 4 ปัจจัยหลักที่คุณแม่ส่วนใหญ่ได้ให้ความสำคัญก่อนที่จะตัดสินใจเลือกใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็ก ดังนี้ :
จาก 4 ปัจจัยนี้ เชื่อว่าคุณแม่จะสามารถใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มได้อย่างสบายใจและไร้กังวล เนื่องจากปัจจุบันได้มีผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็ก ดาวน์นี่ เบบี้ เจนเทิล ด้วยคุณสมบัติตรงกับความต้องการของคุณแม่ ที่มีในเรื่องของความอ่อนโยนต่อผิว ผลิตภัณฑ์ได้ผ่านการทดสอบทางผิวหนัง หลังใช้แล้วช่วยให้เสื้อผ้านุ่ม ไม่ระคายผิวเด็ก และยังมีกลิ่นหอมบางเบา อ่อนโยนที่เหมาะสำหรับเด็กอีกด้วย ผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่ม ดาวน์นี่ เบบี้ เจนเทิล หนึ่งเดียวที่มีครบทุกความต้องการของคุณแม่ค่ะ
10 เรื่องที่แม่ลูกอ่อนต้องเตรียมก่อน พาทารกออกนอกบ้าน
#1 จัดเตรียมสิ่งของจำเป็นต่าง ๆ โดยเลือกเอาเฉพาะที่จำเป็นต้องใช้จริง ๆ
ของใช้สำหรับเบบี๋นั้นมากมายเหลือเกิน แต่เมื่อถึงเวลาออกนอกบ้าน ยิ่งในกรณีที่ต้องรีบด้วยแล้ว มันคงไม่ดีแน่ถ้าจะต้องแบกของใช้ลูกทุกอย่างนี้ไปตลอดทั้งวัน ดังนั้นก่อนพาลูกออกนอกบ้านควรเขียนรายการสิ่งของจำเป็นจริง ๆ ติดไว้บนตู้เย็น หรือบนตู้เก็บของลูกไว้ เพื่อคุณจะได้รู้ว่าของเหล่านี้คือของใช้จำเป็นสำหรับทารกที่ต้องพกติดกระเป๋า อย่างเช่น
- เสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยน (อย่างน้อย 2 ชุด ถ้าคุณแม่คิดว่าจะออกไปมากกว่า 2 ชม. หรือลูกน้อยชอบแหวะออกมาทีละเยอะ ๆ )
- ผ้าอ้อมสำรอง (อย่างน้อย 1 ชิ้นต่อเวลา 1 ชม.ที่จะออกไปข้างนอก)
- ทิชชู่เปียกขนาดพกพา
- จุกนมหลอก ของเล่น หรือสิ่งของอื่น ๆ ที่ลูกชอบเพื่อใช้ดึงดูดความสนใจเวลาที่เจ้าตัวน้อยงอแง
- ผ้าห่มซักผืนที่สามารถเอาไว้ใช้สำหรับห่มให้ความอบอุ่น เอามาทำเป็นที่กันแดด เอาไว้ปูตอนเปลี่ยนผ้าอ้อมหรือเสื้อ หรือเอาไว้คลุมตอนให้นม
- ผ้าขนหนูผืนเล็ก ๆ หรือผ้ากันเปื้อน สำหรับเช็ดเวลาที่ลูกแหวะหรือน้ำลายไหล
- เตรียมนมหรืออุปกรณ์สำหรับชงนม ถ้าลูกน้อยนั้นกินนมจากขวด โดยให้เตรียมขวดนมที่ใส่นมผงที่ตวงแล้วและกระติกที่ใส่น้ำร้อนไว้ใส่ในกระเป๋า เท่านี้ก็จะทำให้คุณแม่และลูกน้อยออกไปข้างนอกได้โดยไร้กังวล
อ่านทิปส์ที่คุณแม่ควรเตรียมก่อนพาเจ้าตัวน้อยออกนอกบ้าน ต่อหน้าถัดไปนะคะ >>
#2 จัดเตรียมสิ่งของเหล่านี้ในตอนกลางคืนวันก่อนเที่ยวไว้ก่อน
ถ้าอยากทำเรื่องการเตรียมของใช้ลูกให้เป็นเรื่องง่าย ก็ควรจัดของเหล่านี้ไว้ล่วงหน้า ในคืนก่อนวันที่จะออกไปข้างนอก ซึ่งทำให้คุณแม่มีเวลามากพอที่จะได้คิดว่าจะต้องเตรียมอะไรใส่กระเป๋าไปบ้าง ทั้งของลูกและตัวแม่เอง และจะได้คิดถึงสิ่งที่จำเป็นที่สุดจริง ๆ เพื่อทำให้กระเป๋ามีน้ำหนักน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ซึ่งมันจะช่วยให้คุณแม่สะดวกสบายตลอดเวลาที่อยู่ข้างนอกพร้อมลูกอ่อน และถ้าคุณมีรถ ก็อาจมีกระเป๋าฉุกเฉินสำรองที่จะเก็บสิ่งของเหล่านี้ไว้ท้ายรถได้ เช่น ผ้าอ้อม, ทิชชู่เปียก, ผ้าห่ม, เจลล้างมือ และเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยน 2-3 ชุด รวมถึงขวดนมสะอาด ๆ ด้วย
#3 จัดเวลาการเที่ยวให้เหมาะกับเวลานอนกลางวันของลูกน้อย
การวางแผนที่จะออกไปเที่ยวในช่วงเวลาที่ลูกนอนกลางวัน จะช่วยให้พ่อแม่เดินทางได้อย่างหายกังวลขึ้น เพราะเป็นช่วงเวลาที่เบบี๋จะได้นอนหลับในระหว่างที่เดินทาง
#4 ให้นมลูกน้อยก่อนที่จะออกจากบ้าน
พยายามจัดตารางเวลาที่จะให้นมลูกก่อนที่จะออกจากบ้าน ไม่เช่นนั้นแล้วเบบี๋อาจจะหิวเร็วเกินไป จนทำให้เจ้าตัวน้อยเริ่มร้องไห้และอยู่ไม่เป็นสุข ในบางกรณีคุณแม่อาจจะไม่สามารถให้นมลูกในทันทีตอนที่เจ้าหนูหิวขึ้นมาก็ได้ ดังนั้นก่อนออกจากบ้าน ต้องแน่ใจว่าการให้นมและการเปลี่ยนผ้าอ้อมนั้นเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก
#5 ใช้เป้อุ้มเด็ก
เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่จะช่วยให้พ่อแม่สะดวกสบายในการที่จะพาตัวน้อยไปไหนต่อไหนได้ง่ายขึ้น และการที่ลูกอยู่ใกล้ชิดตัวพ่อแม่จะทำให้เขารู้สึกอบอุ่น และปลอดภัยจากผู้คนแปลกหน้า และเสียงต่าง ๆ ที่ลูกจะได้ยินนอกบ้าน แถมการเคลื่อนไหวร่างกายของคุณพ่อหรือแม่ในขณะที่ลูกอยู่ในเป้นั้น เป็นการช่วยกล่อมลูกน้อยให้นอนหลับได้อีกด้วยนะ
เรื่องที่ต้องเตรียมก่อนพาเบบี๋ออกนอกบ้านยังไม่หมด สำคัญมาก อ่านหน้าถัดไป >>
#6 หลีกเลี่ยงที่ ๆ มีคนเยอะหรือพื้นที่ที่มีเสียงดัง
การพาลูกออกนอกบ้านในวัยแบเบาะ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงจากพื้นที่ที่มีคนพลุกพล่านมาก ๆ และมีเสียงดัง อย่างแรกเลย สถานที่เหล่านั้นสามารถทำให้คุณและลูกน้อยรู้สึกเครียดได้อย่างรวดเร็ว การให้ลูกน้อยอยู่ในพื้นที่ที่มีผู้คนจำนวนมาก ๆ นั้น เป็นการทำให้ลูกมีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะติดเชื้อโรคต่าง ๆได้มากขึ้นด้วย และมันก็ยากที่จะเลี่ยงในเวลาที่จะดูลูกและซื้อของไปพร้อมกับคอยกันคนแปลกหน้าที่เข้าใกล้ตัวในทุกวินาที
#7 ชวนเพื่อนหรือญาติไปด้วย
การพาลูกออกนอกบ้านจะเป็นเรื่องง่ายขึ้น ในกรณีที่สามีไม่ว่าง คุณแม่สามารถชวนญาติหรือเพื่อนสนิทไปด้วยกันได้เพื่อคอยช่วยเหลือ คอยดูแลหรือช่วยอุ้มเจ้าตัวน้อยในขณะที่คุณแม่กำลังจ่ายค่าสินค้า หรือต้องทำธุระอะไรซักอย่าง รวมถึงคุณแม่จะมีโอกาสได้ทานอาหารสะดวกขึ้นบ้าง และอย่างน้อยที่สุด แขนคุณแม่ก็จะได้พักแขนบ้าง
#8 กลับถึงบ้านตามเวลา
เมื่อพาลูกออกนอกบ้าน คุณแม่ควรพยายามที่จะกลับถึงบ้านให้ตรงเวลา เพื่อที่จะทำกิจวัตรประจำวันตามปกติของลูกน้อยในช่วงบ่ายหรือตอนเย็น ซึ่งเหมือนทุก ๆ วันที่ลูกต้องทำ เพื่อที่จะทำให้เจ้าตัวน้อยรู้สึกปลอดภัย แม้มันอาจจะไม่ทำให้คุณได้ใช้เวลานอกบ้านอย่างเต็มที่นัก แต่ก็จะช่วยลดความเครียดบางอย่างในช่วงเวลากลางคืนของลูกลงได้ (เจ้าตัวน้อยจะได้เรียนรู้ว่าการออกไปข้างนอกนั้นไม่ได้เป็นเรื่องที่ต้องทำทุกวัน)
#9 วางแผนพาเบบี๋ไปเที่ยวในวันหยุดพักผ่อนให้เป็นเรื่องง่ายขึ้นด้วยแผนการอันมีประสิทธิภาพ
พร้อมหรือยังที่จะพาลูกน้อยไปเที่ยวนอกบ้าน แบบไม่ใช่ไปเช้าเย็นกลับแล้วนะ แต่เป็นการไปพักผ่อนเปลี่ยนสถานที่ ไปต่างจังหวัด ต่างประเทศ หรือค้างคืนบ้านญาติ ๆ ในขณะที่คุณแม่คิดจะเตรียมของจนมากเกินไป เพราะของใช้เด็กบางอย่างสามารถหาซื้อในระหว่างทางได้ เช่น ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ทิชชู่เปียก ส่วนสัมภาระที่ต้องคิดให้ออกว่าอะไรบ้างที่คุณจำเป็นต้องใช้จริง ๆ อย่างคาร์ซีทติดรถ พวกรถเข็นเด็ก เปล เก้าอี้เด็ก ฯลฯ
#10 คิดจะพาเจ้าตัวน้อยออกนอกบ้านครั้งแรก ลองซ้อมให้ออกไปที่ใกล้ ๆ ก่อนในช่วงแรก
การออกไปนอกบ้านอาจทำให้เบบี๋รู้สึกถึงความเครียดและอาจทำให้เขางอแงอยู่ตลอดเวลาได้ ดังนั้นการพาเจ้าตัวน้อยออกไปข้างนอกนั้นคุณแม่ควรเลือกสถานที่ใกล้ ๆ และสะดวกไปกลับจากบ้าน ซึ่งหมายถึงว่ามันอาจจะเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ที่จะทำให้คุณแม่หายเบื่อจากการอยู่บ้านมานาน และเพลิดเพลินได้เต็มที่
พาลูกน้อยออกไปเที่ยวด้วยกันนอกบ้าน มันไม่ใช่เรื่องยากนะคะ สิ่งสำคัญที่สุดคือ สถานที่ที่จะไปนั้นปลอดภัยสำหรับลูกน้อยด้วย ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มต้นการเที่ยวที่ใช้เวลานาน ๆ ต้องแน่ใจว่าได้จัดสิ่งของที่จำเป็นตามรายการที่แม่ลิสต์ไว้เรียบร้อยแล้ว ดูว่าลูกน้อยนั้นทานอาหารได้ดี หรือทานอาหารอิ่มก่อนออกพาทารกออกนอกบ้าน ผ้าอ้อมไม่อับชื้น มีความอบอุ่น และรู้สึกสบาย หากเดินทางไกลพยายามออกเดินทางให้ใกล้กับช่วงเวลานอนกลางวันของลูก หรือจัดการเวลานอนกลางวันของลูกให้ตรงกับช่วงเวลาที่ไฟล์ที่จะบิน ตรวจสอบสถานที่ที่จะไปให้เรียบร้อยเพื่อที่แน่ใจว่า แผนที่ได้เตรียมไว้มันโอเค เมื่อเจ้าตัวน้อยได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ เขาจะตื่นขึ้นมาเพื่อสนุกสนานกับสิ่งใหม่ ๆ ที่เขาได้เจอเริ่มต้นแบบเล็ก ๆ ก่อน ในไม่ช้าเจ้าตัวน้อยและคุณแม่ก็จะชำนาญในศาสตร์ของการออกไปเที่ยวนอกบ้านโดยไร้กังวล