เราเชื่อว่าคุณแม่หลายคนมีความมุ่งมั่นที่จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะนี่เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยสานสัมพันธ์ระหว่างคุณแม่และลูกน้อยได้ดีที่สุด…
การบริหารน้ำนมแม่เป็นเรื่องที่คุณแม่หลายคนให้ความสนใจ อาจเรียกได้ว่าเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งเลย เพราะนอกจากจะต้องใส่ใจเรื่องอาหารการกินที่จะช่วยทำให้น้ำนมพุ่งปรี๊ดและเพียงพอสำหรับเจ้าตัวเล็กแล้ว ยังต้องคอยบริการจัดการเรื่องการปั๊มน้ำนมและจัดเก็บน้ำนมสต๊อกไว้ให้กับเจ้าตัวเล็กอีกด้วย โดยเฉพาะกับคุณแม่ให้นมบุตรที่กำลังจะหมดวันลาคลอดและกลับไปทำงานกันอีกครั้ง
ดังนั้น ถุงเก็บน้ำนมแม่จึงนับว่าเป็นไอเทมที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับคุณแม่ให้นมบุตร นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณแม่หลายคนต้องศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกซื้อถุงเก็บน้ำนมกันอย่างเต็มที่เพื่อให้รักษาคุณภาพของน้ำนมที่ปั๊มออกมาเอาไว้ให้ได้นานที่สุด และในบทความนี้ The Asianparent ก็ได้มัดรวมเคล็ดลับการเลือกซื้อและลิสต์รายการถุงเก็บน้ำนมตัวเก่งมาฝากกันแล้ว จะเป็นอย่างไร? ตามเรามาเลยค่ะ
เคล็ดลับการเลือกซื้อถุงเก็บน้ำนมแม่
หากคุณแม่มีตัวช่วยดีๆ อย่างถุงเก็บน้ำนมแม่ที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพและได้มาตรฐาน การรักษาคุณภาพของน้ำนมแม่ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป และ ในบทความนี้ The Asianparent ก็มีเคล็ดลับการเลือกซื้อถุงเก็บน้ำนมแม่เบื้องต้นมาฝากกันด้วยค่ะ อย่างไร? อ่านต่อกันเลย
1. ผลิตจากวัสดุ Food-grade
ไม่ใช่ว่าจะใช้ถุงแบบใดมาจัดเก็บน้ำนมแม่ก็ได้ แต่คุณแม่ควรใช้ถุงที่ออกแบบมาเพื่อจัดเก็บน้ำนมโดยเฉพาะ และควรตรวจสอบให้แน่ใจด้วยว่าวัสดุที่ใช้ในการผลิตนั้นเป็นวัสดุ food-grade ที่มีความแข็งแรง ทนทาน และปราศจากสาร BPA เนื่องจากถุงน้ำนมแม่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องสัมผัสกับน้ำนมโดยตรง
2. วัสดุมีความหนา
นอกจากจะต้องเลือกถุงเก็บน้ำนมที่ผลิตจากวัสดุปลอดภัยแล้ว คุณแม่ควรเลือกถุงเก็บน้ำนมที่ทั้งตัวถุงมีความหนาอย่างน้อย 2 ถึง 3 ชั้น รวมไปถึงแถบซีลข้างที่ได้รับการซีลเข้าไปอย่างน้อย 3 ถึง 7 มิลลิเมตร เพื่อให้คุณแม่สามารถจัดเก็บสต๊อกน้ำนมเอาไว้ในตู้แช่แข็งได้นานและไม่แตกหรือฉีกขาด
3. มีซิปล็อกแน่นหนา
คุณแม่ควรเลือกซื้อถุงเก็บน้ำนมแม่ที่ได้รับการออกแบบมาให้มีซิปล็อกแน่นหนา เนื่องจากจะช่วยป้องกันการหกเลอะเทอะของน้ำนมแม่เวลาน้ำไปใส่เก็บไว้ในตู้เย็นหรือช่องแช่แข็งได้ เนื่องจากน้ำนมจะมีการดันตัวขึ้นมาเมื่อน้ำนมเริ่มแข็งตัวขึ้น ดังนั้น คุณแม่ที่ยิ่งมีซิปล็อกมากก็จะยิ่งสามารถช่วยรักษาคุณภาพของน้ำนมแม่ให้คงอยู่ได้นานยิ่งขึ้นอีกด้วยนั่นเองค่ะ
4. ขนาดเหมาะสม
คุณแม่ควรเลือกใช้ถุงเก็บน้ำนมแม่ที่มีขนาดเหมาะสมหรือมีปริมาณเทียบเท่ากับความต้องการของเจ้าตัวเล็กแต่ละมื้อหรือแต่ละวันเพื่อให้สะดวกต่อการหยิบมาใช้ของคุณแม่เองหรือบรรดาคุณตาคุณยายที่มาช่วยเลี้ยงหลานๆ ตอนที่คุณแม่ต้องกลับไปทำงาน อีกทั้งขนาดที่เหมาะสมจะทำให้คุณแม่ไม่ต้องทิ้งน้ำนมไปโดยเปล่าประโยชน์หากเจ้าตัวเล็กดื่มไม่หมดด้วยนั่นเองค่ะ
5. ฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย
ในปัจจุบันก็มีหลายแบรนด์ที่แข่งขันผลิตถุงเก็บน้ำนมแม่ด้วยการเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานให้ครอบคลุมและตอบโจทย์ความต้องการของคุณแม่มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตรวจวัดอุณหภูมิ การเพิ่มนวัตกรรมรักษาคุณภาพน้ำนม การฆ่าเชื้อโรค หรือเพิ่มพื้นที่การจดบันทึกวันเวลา ซึ่งฟังก์ชันเหล่านี้จะช่วยให้คุณแม่สามารถบริหารจัดการสต๊อกน้ำนมได้ดียิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ
อ่านต่อ: เคล็ดลับการทำละลายน้ำนมแม่แช่แข็งอย่างถูกวิธี
3 ถุงเก็บน้ำนมใช้ดี จนอยากบอกต่อคุณแม่!
ปัจจุบันถุงเก็บน้ำนมแม่ในท้องตลาดมีการผลิตออกมาให้คุณแม่เลือกกันอย่างละลานตา เรียกได้ว่าตัดสินใจเลือกกันไม่ถูกเลยใช่ไหมล่ะคะ เพราะหลากหลายแบรนด์ก็ช่างมีลวดลายที่น่ารักและดึงดูดใจ แต่อย่างที่เราได้กล่าวกันไปแล้วว่าคุณแม่ไม่สามารถเลือกซื้อถุงเก็บน้ำนมแม่เพียงแค่เพราะมีลวดลายหรือสีสันถูกใจ แต่ควรพิจารณาหลายๆ ส่วนประกอบกันไปด้วย
แน่นอนว่าในบทความ The Asianparent ได้นำถุงเก็บน้ำนมแม่ที่เต็มไปด้วยคุณภาพและฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์คุณแม่มาแนะนำกันด้วย จะมีแบรนด์ไหนบ้าง? ตามเรามาเลยค่ะ
Mama’s Choice Breastmilk Storage Bag ถุงเก็บน้ำนมแม่จากแบรนด์ Mama’s Choice เป็นหนึ่งแบรนด์ที่มีถุงเก็บน้ำนมแม่ตอบโจทย์ ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของวัสดุที่ใช้ในการผลิตหรือฟังก์ชันการใช้งานที่ครอบคลุมที่สำคัญถุงเก็บน้ำนมทุกชิ้นผ่านการฆ่าเชื้อเรียบร้อย สามารถหยิบมาใช้งานได้อย่างมั่นใจ ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ทำให้คุณแม่สามารถมั่นใจได้เลยว่าน้ำนมแม่จะปลอดภัยสำหรับเจ้าตัวเล็กทุกหยด
ข้อดีของ Mama’s Choice Breastmilk Storage Bag ถุงเก็บน้ำนมแม่
- ผลิตจากวัสดุ food grade คุณภาพระดับพรีเมียม ปราศจากสาร BPA และสารเคมีอันตรายทุกชนิด
- วัสดุแข็งแรง ทนทาน สามารถจัดเก็บในตู้เย็นทั้งช่องธรรมดาและช่องแช่แข็งได้นาน
- มีส่วนที่โป่รงใสสามารถตรวจสอบคุณภาพและสีของน้ำนมแม่ได้
- มาพร้อมกับซิปล็อก 2 ชั้น แน่นหนา ไม่ต้องกลัวน้ำนมหกเลอะ
- มีนวัตกรรม Anvanced Oxygen Barrier ช่วยกักเก็บออกซิเจนทำให้รักษาคุณภาพน้ำนมได้นานขึ้น
- มีช่องเทน้ำนมและแถบบ่งบอกปริมาณ จดบันทึกวันเวลา และตรวจวัดอุณหภูมิ
- ขนาด 120 มิลลิลิตร (4 ออนซ์)
Pigeon Breastmilk Storage Bags ถุงเก็บน้ำนมแม่จากแบรนด์พีเจ้น อีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าจะคุ้นหูคุณแม่กันเป็นอย่างดี ซึ่งถุงเก็บน้ำนมรุ่นนี้จะมาพร้อมกับลวดลายสัตว์น่ารักๆ และสีสันสดใส นอกจากนี้ ถุงเก็บน้ำนมพีเจ้นยังผ่านการฆ่าเชื้อด้วยรังสีแกมมาทุกชิ้น มั่นใจได้เลยว่าปลอดภัยสำหรับลูกน้อยแน่นอนค่ะ
ข้อดีของ Pigeon Breastmilk Storage Bags
- ผลิตจากพลาสติก Food Contact Grade ปราศจากสาร BPA และ BPS
- ถุงพลาสติกหนา 2 ชั้น ลดกลิ่นเหม็นหืนได้ดี พร้อมขอบข้างที่หนา 5 มิลลิเมตร
- ปิดหนาแน่นด้วยซิปล๊อค 2 ชั้น ป้องกันการปนเปื้อนได้ดี
- มีจุดฉีกเปิดถุงแบบปรุ 2 จุด ฉีกง่าย ใช้งานสะดวก
- มีแถบบันทึกข้อมูลวันเวลาที่จัดเก็บน้ำนม
- ขนาด 120 มิลลิลิตร (4 ออนซ์) และ 180 มิลลิลิตร (6 ออนซ์)
Lamoon ถุงเก็บน้ำนมแม่ Breast Milk Storage Bag ถุงเก็บน้ำนมที่มาพร้อมกับลวดลายน่ารักๆ เช่นเดียวกัน ผลิตจากวัสดุคุณภาพดี ที่สำคัญคุณแม่สามารถมั่นใจได้ว่าปลอดภัย เพราะแบรนด์เขาเคลมว่าผลิตภัณฑ์ได้ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยเทคโนโลยี มาตรฐานระดับโลก Electron beam ทำให้สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ยีสต์ รา ได้อีกด้วยนั่นเองค่ะ
ข้อดีของ Lamoon ถุงเก็บน้ำนมแม่ Breast Milk Storage Bag
- ผลิตจากวัสดุFoodGrade มั่นใจในความสะอาดปลอดภัย หมดกังวลเรื่องสารตกค้าง
- คงคุณค่าสารอาหารได้มากขึ้น ด้วยถุงแบบทึบแสง และเทคนิคพิเศษในการผลิต
- มีแถบบอกอุณหภูมิน้ำนม
- ปากถุงปิดสนิทด้วยซิปล็อก 2 ชั้น แข็งแรง ป้องกันการรั่วซึมของน้ำนม
- ป้องกันการปนเปื้อน ด้วยช่องเทน้ำนมแยกส่วน
- ซีลขอบข้างหนา 5 มิลลิเมตร หนา คงทน ไม่รั่วซึม
- มีแถบจดบันทึกวันเวลาจัดเก็บน้ำนม
- ขนาด 150 มิลลิลิตร (5 ออนซ์) และ 240 มิลลิลิตร (8 ออนซ์)
—
ทั้งหมดนี้ก็เป็นคุณสมบัติของถุงเก็บน้ำนมแม่ที่ดี พร้อมกับถุงเก็บน้ำนมแม่ทั้ง 3 แบรนด์ที่เราอยากแนะนำให้กับคุณแม่ได้ไปซื้อมาลองใช้กัน อีกหนึ่งไอเทมที่คุณแม่ให้นมบุตรห้ามพลาด เพราะจะช่วยให้คุณแม่สามารถบริหารจัดการสต๊อกน้ำนมได้ดีมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ
ตารางเปรียบเทียบราคาสินค้า
อ้างอิง
https://bit.ly/38ucgGi
https://bit.ly/3z2cFe1