19 ภาพคลอดลูกสุด ตราตรึงหัวใจ แห่งปีที่คนเป็นพ่อแม่จะจดจำไม่ลืม
วินาทีแรกของการคลอดลูกจะเป็นเหตุการณ์แรก ที่คนเป็นพ่อเป็นแม่จะจดจำ ตราตรึงหัวใจ ไปได้อย่างไม่รู้ลืม นี่คือภาพคลอดลูกที่ตราตรึงหัวใจของการให้กำเนิดชีวิตใหม่ในช่วงปี 2016
1. ภาพคุณพ่อที่เก็บความรู้สึกซาบซึ้งเอาไว้ไม่อยู่ เมื่อได้เข้าไปรับลูกชายตัวน้อยด้วยมือ และนำเขาออกมาสู่โลกกว้าง
2. คุณแม่ผู้ที่หัวใจกำลังพองโตด้วยความยินดีหลังลูกน้อยออกมาลืมตาดูโลกด้วยความปลอดภัย
3. กำลังใจจากลูกสาวตัวน้อยที่กำลังจะกลายเป็นพี่คนโตในช่วงเวลาที่รอคอยอีกไม่ช้า
4. ภาพของการได้ออกมาเห็นโลกของเจ้าตัวน้อยที่รอคอย เป็นช่วงเวลาที่ไม่อาจลืมเลือน
5. ความพยายามอย่างเต็มที่แม้ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม เพื่อที่จะได้เห็นหน้าลูก
6. ภาพที่แสดงถึงอารมณ์ความรักที่มีเจ้าตัวน้อยมาเป็นโซ่ทองคล้องใจ และได้มีชีวิตที่กลายเป็นครอบครัว พ่อ แม่ ลูก ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
7. หลังจากการคลอดลูกผ่านไป นี่คือภาพผ่อนคลายของคุณแม่อย่างแท้จริง เป็นช่วงเวลาของความมีชีวิตชีวาอย่างกำลังเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
8. ช่วงเวลาอันแสนสำคัญ วินาทีแรกที่เจ้าตัวน้อยได้ออกมาลืมตาดูโลก
9. ความเจ็บปวดจากการคลอดลูกออกมาแล้ว มันยังไม่จบง่าย ๆ แค่นี้ ยังมีสิ่งตกค้างที่ต้องทำอดทนต่ออีกนิด อุ้มลูกรอไปก่อนนะพ่อ
10. กำลังใจจากคุณแม่มือเก่าโอบกอดลูกสาวที่กำลังจะกลายเป็นแม่คนเช่นกัน
11. ภาพคลอดลูกท่ามกลางธรรมชาติที่คนเป็นพ่อเป็นแม่จะจดจำภาพสวยงามนี้ไว้ไม่ลืม
12. ภาพที่แสดงถึงว่าการคลอดนั้นเป็นเรื่องของครอบครัว ที่ทุกคนพร้อมจะส่งพลังเอาใจช่วย และรอต้อนรับสมาชิกใหม่ออกมา
13. ภาพน่ารักของคุณแม่ที่กำลังให้นมทั้งลูกคนโตและลูกน้อยที่เพิ่งเกิดพร้อม ๆ กัน
14. เมื่อพี่ชายตัวน้อยพยายามช่วยชั่งน้ำหนักของน้องพี่เพิ่งเกิด
15. ความรู้สึกปลื้มปริ่มของคนเป็นพ่อที่ได้อุ้มลูกสาวเป็นครั้งแรก
16. ช่วงเวลาที่สวยงามของการต้อนรับสมาชิกใหม่เข้าสู้อ้อมกอดของแม่
17. บทบาทของคนเป็นแม่มีให้ลูกเท่ากันทุกคน ไม่ว่าจะดูแลลูกที่ออกมาแล้ว หรืออีกคนที่กำลังจะออกมาก็ตาม
18. อารมณ์ตราตรึงของแม่ที่ได้อุ้มลูกน้อยเพิ่งเกิด หลังจากการคลอดลูกแสนยากลำบากและยาวนาน
19. ปิดท้ายด้วยภาพสุดฮาคลายเครียดของคุณพ่อที่อยากจะตัดสายสะดือด้วยมือของเค้าเอง เอ่อ..ไม่ใช่สิ ด้วยปาก!
แม่คลอดลูกแบบธรรมชาติ ตราตรึงหัวใจ อย่างไร
คุณแม่ที่ตั้งครรภ์พร้อมคลอดทั้งหลายจะต้องเผชิญกับระยะการคลอด 3 ระยะ ได้แก่
ระยะที่ 1 ปากมดลูกขยายออกและบางตัวลง
แบ่งออกเป็นระยะย่อย คือ
ระยะปากมดลูกเปิดตัวช้า คุณแม่จะเริ่มรู้สึกถึงการหดรัดตัวเบา ๆ ของปากมดลูกที่จะเกิดขึ้นครั้งละประมาณ 30-45 วินาที ทุก ๆ 5-30 นาที การหดรัดตัวนี้ส่งผลให้ปากมดลูกเปิดออกและบางตัวลงเพื่อจะให้ทารกเคลื่อนมายังช่องทางการคลอด บางรายปากมดลูกอาจค่อย ๆ ขยายออกประมาณ 3-4 เซนติเมตร มีอาการปวดหลังส่วนล่าง ปวดท้องคล้ายเป็นประจำเดือน หรือปวดตึง ๆ บริเวณเชิงกราน และอาจสังเกตว่ามีน้ำสีออกชมพูหรือสีปนเลือดถูกขับออกมาด้วย
ในการตั้งครรภ์ครั้งแรก ระยะนี้อาจใช้เวลาประมาณ 8-12 ชั่วโมง แต่หากไม่ใช่การตั้งครรภ์ครั้งแรกก็มักจะผ่านไปยังระยะต่อไปได้รวดเร็วกว่า โดยในช่วงนี้ คุณแม่จะยังสามารถทำกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อคลายกังวลและเบี่ยงเบนความสนใจอยู่ที่บ้านได้ เช่น ฟังเพลง ดูทีวี ลุกขึ้นเดินเบา ๆ อาบน้ำ ฝึกหายใจเพื่อผ่อนคลาย หรือเปลี่ยนท่าทาง ก็จะช่วยให้รู้สึกสบายตัวยิ่งขึ้น
ระยะปากมดลูกเปิดตัวเร็ว เป็นระยะที่ปากมดลูกจะค่อย ๆ เริ่มหดรัดตัวถี่และรุนแรงยิ่งขึ้น ทำให้เกิดความรู้สึกเจ็บที่บริเวณหลังส่วนล่าง ท้อง ต้นขา เกิดตะคริวที่ขา รวมถึงอาการคลื่นไส้ บางรายอาจมีน้ำคร่ำแตกออกมา แต่บางรายที่น้ำคร่ำไม่แตกออกมาก็จะทำให้รู้สึกถึงแรงกดที่หลังยิ่งขึ้น คุณแม่ควรรีบไปโรงพยาบาลเมื่อสังเกตเห็นสัญญาณใกล้คลอดเหล่านี้
ระยะนี้อาจคงอยู่ประมาณ 3-5 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น โดยปากมดลูกจะขยายตัวออกประมาณ 1 เซนติเมตรทุก ๆ 1 ชั่วโมง จากระยะแรก 4 เซนติเมตรเพิ่มเป็นประมาณ 7 เซนติเมตร และบีบรัดตัวครั้งละ 45-60 วินาที ในทุก 3-5 นาที ระหว่างนี้คุณแม่อาจลองใช้วิธีการฝึกหายใจหรือท่าออกกำลังกายแบบผ่อนคลายเพื่อต่อสู้กับความเจ็บที่เพิ่มมากขึ้น และหากขยับตัวได้โดยไม่มีเครื่องตรวจอัลตราซาวด์ครรภ์ติดที่ท้องก็อาจลองเปลี่ยนท่าทางหรือใช้การนวดผ่อนคลาย
ระยะเปลี่ยนผ่าน เป็นช่วงสุดท้ายของการคลอดระยะที่ 1 ซึ่งอาจใช้เวลาตั้งแต่ 20 นาที ไปจนถึง 2 ชั่วโมงหากเป็นการคลอดครั้งแรก แต่ในกรณีที่เคยคลอดลูกมาก่อนแล้วมักเปลี่ยนเข้าสู่ระยะที่ 2 ค่อนข้างเร็ว ในระยะนี้ปากมดลูกจะขยายออก 8-10 เซนติเมตร และมีการหดรัดตัวถี่ขึ้นอีกเป็นครั้งละ 60-90 วินาที ในทุก 0.5-2 นาที จนคุณแม่รู้สึกถึงแรงกดบริเวณหลังส่วนล่างและบริเวณช่องทวารหนัก อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้คุณแม่ที่มีความรู้สึกอยากเบ่งคลอดเกิดขึ้นให้รีบบอกแพทย์ทันที เพราะหากปากมดลูกยังไม่ขยายเต็มที่ แพทย์จะให้คุณแม่กลั้นไว้ก่อน เนื่องจากการเบ่งที่รวดเร็วเกินไปจะทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าและช่องคลอดบวม ส่งผลให้การคลอดล่าช้าออกไปได้
ระยะที่ 2 ระยะเบ่งคลอด
เป็นช่วงเวลาแห่งการคลอดของคุณแม่ที่อาจใช้เวลาตั้งแต่ 2-3 นาที ไปจนถึง 2-3 ชั่วโมงในการเบ่งคลอดให้ทารกลืมตาออกมาดูโลก และอาจนานยิ่งขึ้นหากเป็นการตั้งครรภ์ครั้งแรกหรือครรภ์ที่คุณแม่ใช้ยาระงับอาการปวดระหว่างคลอด โดยแพทย์จะบอกให้ออกแรงเบ่งเมื่อเกิดการหดรัดตัวของมดลูก หรือคอยให้จังหวะในการเบ่งคลอด นอกจากนี้ บางขณะ แพทย์อาจแนะนำให้คุณแม่เบ่งเบา ๆ หรือไม่ต้องเบ่งเลยก็ได้ เพื่อให้เวลาเนื้อเยื่อบริเวณช่องคลอดได้ยืดตัวออกและป้องกันการฉีกขาด
คุณแม่ควรเพ่งความสนใจทั้งหมดไปที่การเบ่งเมื่อแพทย์ให้จังหวะ ครั้นเมื่อหัวของทารกออกมาแล้ว ลำตัวส่วนที่เหลือก็จะตามออกมาในไม่ช้า เมื่อทารกคลอดออกมาเรียบร้อย อันดับแรกแพทย์อาจทำความสะอาดทางเดินหายใจของเด็กแล้วจึงตามด้วยการตัดสายสะดือ
ระยะที่ 3 ระยะคลอดรก
หลังจากที่คลอดทารกสำเร็จ การทำคลอดรกจะตามมาอย่างรวดเร็ว โดยอาจใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีหรือนานไปถึงครึ่งชั่วโมง ทั้งนี้ยังมีกระบวนการทางการแพทย์หลังจากนั้นที่อาจใช้เวลาเป็นชั่วโมง ซึ่งในระหว่างนี้คุณแม่ส่วนใหญ่กำลังต้องการสัมผัสและชื่นชมลูกน้อยที่เพิ่งออกมาจนอาจไม่ทันสนใจขั้นตอนการคลอดรกที่จะเกิดขึ้นต่อไป
เมื่อทารกน้อยออกมาแล้ว มดลูกของคุณแม่จะยังมีการหดรัดตัวเบา ๆ อย่างต่อเนื่อง จากนั้นมดลูกก็จะกลับมาติดชิดกันและรู้สึกเจ็บน้อยลง แพทย์จะขอให้ออกแรงเบ่งอีกครั้งเพื่อคลอดรกออกมา ซึ่งก่อนและหลังการคลอดรกนี้ แพทย์อาจให้ยากระตุ้นการหดรัดตัวของกล้ามเนื้อมดลูกและลดการมีเลือดออก หรือให้คุณแม่ลองให้นมลูกเพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการหดรัดตัวของช่องคลอด และนวดเบา ๆ ที่ท้องเพื่อกระตุ้นให้รกลอกตัวออกมา
Credit content: www.buzzfeed.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ตีแผ่ 17 ภาพชีวิตจริงของแม่ท้องใกล้คลอดยามนอนกับสามี
15 ภาพความแข็งแกร่งของคุณแม่ขณะคลอดลูก
น่ารักมาก! เบนซ์ พรชิตา โพสต์ภาพโชว์ท้อง คู่ น้องปราง เตรียมตัวเป็นพี่สาวแล้วนะ