แม่ท้องก็สวยได้ 17 วิธีดูแลตัวเองตอนท้อง ให้เป็นมนุษย์แม่ที่สวย สุขภาพดี

ใครว่าเป็นแม่ท้องจะต้องดูโทรม เพราะแม่ท้องก็สวยได้! เราขอแชร์ 17 วิธีดูแลตัวเองตอนท้อง ให้เป็นมนุษย์แม่ที่ทั้งสวย และสุขภาพดีอยู่เสมอ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

วิธีดูแลตัวเองตอนท้อง ให้สวยอยู่เสมอ

แม่ท้องในความคิดของทุกคนจะต้องเป็นแบบไหนกันบ้างคะ บางคนก็มองว่าปล่อยตัว เป็นแม่แล้ว ไม่ต้องห่วงสวยมากก็ได้ แต่จริง ๆ แล้ว ใครว่าเป็นแม่ท้องจะต้องดูโทรม เพราะแม่ท้องก็สวยได้เหมือนกันนะ วันนี้เราเลยจะมาแชร์ วิธีดูแลตัวเองตอนท้อง ให้ดูสวยและสุขภาพดีอยู่เสมอ ให้แม่ท้องเตรียมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นกัน ทั้งในด้านร่างกาย และฮอร์โมนที่เปลี่ยนไป

  • เตรียมพร้อมรับมือไตรมาสแรก

ในขณะที่คุณแม่ตั้งหน้าตั้งตารอวันพิเศษที่ลูกน้อยของคุณจะลืมตาดูโลก ระหว่างนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงที่คุณไม่คาดฝัน หน้าท้องจะค่อย ๆ ขยายขึ้น ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ ฮอร์โมนทำให้เต้านมรู้สึกเต็มและนุ่มนวล การเปลี่ยนแปลงด้านฮอร์โมนอาจทำให้เกิดอาการแพ้ท้อง โดยเฉพาะในไตรมาสแรก คุณแม่อาจรู้สึกเหนื่อยและต้องงีบหลับบ่อย ๆ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว จะรู้สึกดีขึ้นในไตรมาสที่สอง

  • ทาครีมบำรุงอยู่เสมอ

เนื่องจากคุณแม่ตั้งครรภ์จะมีการไหลเวียนเลือด และการผลิตน้ำมันในผิวหนังมากขึ้น เลยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของผิวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสิว คันผิว รอยแตกลาย ดังนั้นคุณแม่ตั้งครรภ์ควรหาออยล์ หรือครีมบำรุงผิว มาทาช่วยบรรเทาอาการคัน และรอยแตกลาย ส่วนยาสิวนั้น ควรปรึกษาแพทย์ หรือดูส่วนผสมให้ดีก่อนใช้นะคะ

  • ออกกำลังกายเบา ๆ ระหว่างตั้งครรภ์

การออกกำลังกายในระหว่างตั้งครรภ์ จะช่วยให้คุณแม่มีพลังงานมากขึ้น และเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการคลอดบุตร โดยให้เลือกการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกต่ำ เช่น เดิน ว่ายน้ำ โดยควรดื่มน้ำเยอะ ๆ และหยุดออกกำลังกายทันที ถ้าหากรู้สึกวิงเวียนคล้ายจะเป็นลม

  • นวดสปา

คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถไปนวดหรือเข้าสปา เพื่อบรรเทาตึงเครียด และบรรเทาอาการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อได้ โดยต้องหาหมอนวดที่สามารถนวดคนท้องได้ หรือสอบถามแพทย์ของคุณแม่ก่อนเสมอ หลีกเลี่ยงการเพิ่มอุณหภูมิร่างกาย เช่น ออนเซ็น ห้องซาวน่า

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

  • โยคะ

โยคะสามารถผ่อนคลายร่างกายและจิตใจของคุณแม่ตั้งครรภ์ได้ คุณแม่จะมีสมดุลที่ดีขึ้น ลองหาคลิปสอนโยคะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ หรือหาชั้นเรียนโยคะก่อนคลอด เพื่อดูว่าท่าไหนที่คุณแม่สามารถทำได้อย่างปลอดภัย ถ้ามีครูฝึกจะดีที่สุด จะได้มีคนช่วยปรับท่าด้วยค่ะ

  • อารมณ์แปรปรวนเป็นปกติ

ด้วยฮอร์โมนที่เปลี่ยนไป แม่ท้องเลยมักจะรู้สึกเหมือนอยู่บนรถไฟเหาะอารมณ์ตลอดเวลาตั้งครรภ์ จะมีทั้งความตื่นเต้นที่จะได้เห็นหน้าลูก แต่ก็จะกังวลเรื่องการคลอด และการต้องเลี้ยงเด็กด้วย ด้วยฮอร์โมนแม่ท้อง ก็จะทำให้มีหลากหลายความรู้สึกตีเข้ามา จนบางครั้งอาจรุนแรงถึงขั้นเป็นซึมเศร้าได้ ให้คุณแม่พักผ่อนให้เต็มที่ ออกกำลังกาย คุยกับเพื่อน หากิจกรรมคลายเครียดดูค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • การดูแลผม

ช่วงที่ตั้งครรภ์ ผมของแม่ท้องอาจจะหนาฟูเป็นปกติ แต่ช่วงหลังคลอด มักจะผมร่วงได้ง่ายจนผมบาง แต่อย่าตกใจไป โดยปกติแล้ว หลังคลอดภายใน 6 เดือน เส้นผมจะกลับมาเป็นปกติ ทั้งนี้พวกการทำทรีตเมนต์ ทำสี ช่วงไตรแมสแรกอาจจะต้องงดไปก่อน ไม่ควรทำเคมีต่าง ๆ

  • เรื่องผิวและการแต่งหน้า

แม่ท้องมักจะมีสภาพผิวที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะเรื่องของอาการคันจากผิวแห้ง รวมไปถึงผิวบอบบาง แพ้ง่ายกว่าเดิม ดังนั้นเวลาใช้ครีมบำรุงผิว ควรตรวจสอบอาการแพ้และส่วนผสมก่อน ส่วนเรื่องการแต่งหน้า แม่ท้องสามารถแต่งหน้าได้นะ แต่อย่างไรก็ตาม อย่าลืมอ่านฉลากบนเครื่องสำอาง และหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารปรอทด้วย

  • ชุดคลุมท้อง

คุณแม่ตั้งครรภ์ก็สามารถแต่งตัวตามแฟชั่นได้เช่นเดียวกัน เดี๋ยวนี้มีชุดคลุมท้องน่ารัก ๆ เพียบ ลงทุนกับเสื้อผ้าสักนิด เอาที่ใส่สบาย และสวยงามด้วย ส่วนรองเท้า แนะนำว่าให้หยุดใส่รองเท้าส้นสูงไปก่อน แล้วเปลี่ยนเป็นรองเท้าส้นเตี้ยที่สวมใส่สบายกว่าแทนดีกว่า

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • กินเผื่อลูกด้วย

คุณแม่ตั้งครรภ์ อาจจะต้องเพิ่ม 100-300 แคลอรี่ต่อวัน เพราะต้องกินเผื่อลูกน้อยในครรภ์ด้วย แต่ถ้าหากไม่อยากน้ำหนักเกิน ให้เลือกกินอย่างชาญฉลาด ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ อย่าอดอาหารเช้า หาของว่างเพื่อสุขภาพระหว่างมื้ออาหารทานได้เมื่อรู้สึกหิว แต่ให้หลีกเลี่ยงของดิบ ของหมักดอง นมที่ไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรส์ เน้นความสะอาดและปรุงสุกไว้ก่อน

  • ทานวิตามินเสริม

สำหรับคุณแม่ที่ทานอาหารได้น้อย หรือทานไม่ครบทุกหมู่ สามารถทานวิตามินเสริมได้เช่นกัน โดยคุณแม่มักต้องการกรดโฟลิก แคลเซียม และธาตุเหล็ก มากขึ้นเป็นพิเศษ แต่แนะนำว่าการทานอาหารเสริม ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์เสมอ

  • ดื่มน้ำเยอะ ๆ

การดื่มน้ำอย่างเพียงพอ จะช่วยให้ระดับพลังงานของคุณแม่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ และลดอาการท้องผูก แนะนำให้ดื่มน้ำให้ได้วันละ 12 แก้วต่อวัน รวมไปถึงพยายามเน้นน้ำเปล่า หลีกเลี่ยงหรือลดพวกเครื่องดื่มผสมคาเฟอีน เช่น น้ำอัดลม กาแฟ

  • นอนหลับให้เพียงพอ

ในช่วงไตรมาสแรก แม่ท้องอาจจะยังหลับง่าย หลับได้เป็นปกติ แต่ช่วงท้องแก่ หรือช่วงไตรมาสที่สาม คุณแม่ตั้งครรภ์มักจะหลับยากขึ้น ปัสสาวะกลางดึกบ่อย และปวดเมื่อยเนื้อตัว ให้ลองใช้หมอนคนท้องช่วยรองหลัง รองขา และอย่ากินอิ่มมากเกินไปก่อนนอน

  • ระวังเรื่องยาเป็นพิเศษ

คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องระวังเรื่องยารักษาโรคมากเป็นพิเศษ ถ้าแพทย์ไม่ได้จัดยาให้ พยายามอย่ากินมั่ว เวลาป่วย สามารถกินพาราเซตามอลได้ ส่วนนอกเหนือจากนั้น ให้ปรึกษาแพทย์ก่อนกินยาทุกครั้ง

  • เซ็กส์ตอนท้อง

แม่ท้องสามารถมีเพศสัมพันธ์ระหว่างตั้งครรภ์ได้ปกติ ไม่ได้เป็นอันตรายต่อลูก แต่อย่าเล่นท่าผาดโผนมากนัก ทำในท่าที่ปลอดภัย และช่วงตั้งครรภ์ หน้าอกและหัวนมจะอ่อนไหวเป็นพิเศษ บอกสามีให้เบามือหน่อย หากมีเพศสัมพันธ์แล้วเป็นตะคริวหรือมีเลือดออก ให้พบแพทย์

  • ทริปก่อนคลอด

แม่ท้องสามารถไปท่องเที่ยวได้ตามปกติ แต่ให้หลีกเลี่ยงช่วงไตรมาสแรก และไตรมาสสุดท้ายก่อนคลอด เพื่อความปลอดภัยของทารกในครรภ์ นอกนั้นก็คือท่องเที่ยวได้ตามสบายเลย แค่ต้องระวังเรื่องความปลอดภัย เดินป่า น้ำตก อะไรที่เสี่ยงลื่นล้มอาจจะไม่เหมาะ วางแผนการเดินทางให้เหมาะกับคนท้อง เท่านี้ก็ไปเที่ยวได้แล้ว จะได้ช่วยคลายเครียดด้วย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

  • มั่นใจในตัวเองเข้าไว้

คุณแม่ตั้งครรภ์อย่ามัวกังวลกับรูปร่าง หรือเครียดกับเรื่องอนาคตมากนัก ให้มั่นใจในตัวเอง มีความสุขกับการเป็นมนุษย์แม่ ดูอย่างดาราหลาย ๆ คน ช่วงตั้งท้องเขาก็ทั้งสวยและใช้ชีวิตแบบแฮปปี้ได้ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องนอยด์ จูนทัศนคติให้คิดบวก ดูแลสุขภาพ ออกกำลังกายเบา ๆ บ้าง จะพบความสุขในการเป็นแม่ท้องได้ไม่ยาก

ที่มา : webmd

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

แม่ท้องอ้วนไปไม่ดี กระทบลูกในครรภ์ ผลวิจัยชี้ แม่อ้วน ลูกเสี่ยงไอคิวต่ำ

32 ไอเดีย ชุดไปทะเล พรางหุ่นหลังคลอด พาลูกไปทะเล แต่งตัวชุดไหนดี

คนท้องแต่งหน้าได้มั๊ย? มีอันตรายอะไรถึงชีวิตตัวเองกับลูกรึเปล่า?

บทความโดย

PP.