หาคนเลี้ยงลูก สักคนไม่ใช่เรื่องง่ายเลย การจ้างพี่เลี้ยงจึงเป็นทางออกที่ดีที่จะช่วยแบ่งเบาภาระของคุณได้ อยู่บ้านอยากรับจ้างเลี้ยงลูก เรามี 10 ข้อชวนคิดก่อน หาคนเลี้ยงลูก หาคนเลี้ยงเด็ก หรือหา พี่เลี้ยงรายวัน มาฝาก
10 ข้อก่อนคิดมีพี่เลี้ยงเด็ก พี่เลี้ยงรายวัน
1) งานที่คุณต้องการให้พี่เลี้ยงทำ
คุณควรจะกำหนด พี่เลี้ยงรายวัน ให้ชัดเจนว่าคุณต้องการให้พี่เลี้ยงของคุณมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบอะไรบ้างเพื่อให้ชัดเจนทั้งสองฝ่าย และเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจว่าจะจ้างพี่เลี้ยงแบบเช้าไปเย็นกลับ พี่เลี้ยงรายวัน หรือประจำเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว? จะเลี้ยงเด็กอย่างเดียว หรือว่าพ่วงงานบ้านต่าง ๆ ด้วย?
2) ความพร้อมทางการเงิน
เงินเดือนพี่เลี้ยงเด็กคุณต้องตรวจสอบว่ารายรับของครอบครัวคุณพร้อมจะจ้างพี่เลี้ยงหรือไม่? พร้อมจะจ้างแบบไหน? เงินเดือนเท่าไร? มีสวัสดิการอะไรบ้าง? ถ้าคุณจะให้พี่เลี้ยงอยู่ประจำแปลว่าครอบครัวคุณมีอีกหนึ่งท้องที่ต้องเลี้ยงให้ครบสามมื้อ
3) ความเป็นส่วนตัวของครอบครัวคุณ
การหา พี่เลี้ยงรายวัน ไม่ว่าคุณจะจ้างพี่เลี้ยงให้มาอยู่แบบไหน ผลคือครอบครัวคุณต้องต้อนรับคนแปลกหน้าเข้ามา คุณพร้อมหรือไม่ที่จะต้องสูญเสียความเป็นส่วนตัวไประดับหนึ่งเพื่อให้พี่เลี้ยงเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระของคุณ ถ้าจ้างให้อยู่ประจำคุณต้องจัดหาห้องนอน ห้องน้ำให้พี่เลี้ยงด้วย
4) ที่มาของพี่เลี้ยง
คุณจะจ้างพี่เลี้ยงจากศูนย์พี่เลี้ยง หาพี่เลี้ยงรายวัน หรือจะหาเอาจากคนรู้จัก? การพูดคุยกับคนรอบตัว และศูนย์พี่เลี้ยงอาจช่วยคุณประมาณได้ว่าควรจ้างพี่เลี้ยงด้วยอัตราเงินเดือนเท่าไร คุณจะรับพี่เลี้ยงที่เป็นคนไทย หรือว่าประเทศเพื่อนบ้านที่ค่าจ้างถูกกว่า?
5) ประสบการณ์ของพี่เลี้ยง
พี่เลี้ยงที่คุณกำลังจะจ้างพร้อมจะรับมือลูกของคุณหรือไม่ คุณอาจจะจำเป็นต้องตรวจสอบว่าพี่เลี้ยงของคุณเคยเลี้ยงเด็กมาแล้วกี่คน พี่เลี้ยงที่มีประสบการณ์ หรือได้รับการฝึกฝนมาดีอาจจะเป็นครูที่ดีให้กับคุณได้ด้วยซ้ำ
บทความที่น่าสนใจ : 15 บริษัทหาพี่เลี้ยงให้ลูก สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่มีเวลา
6) ลักษณะนิสัยของพี่เลี้ยง
ช่วงแรกที่คุณจ้างพี่เลี้ยง หรือ พี่เลี้ยงรายวัน มาคุณไม่อาจปล่อยให้พี่เลี้ยงอยู่ตามลำพังกับลูกของคุณได้ พี่เลี้ยงอาจจะพูดจาดีเวลาสัมภาษณ์กับคุณ แต่คุณต้องแอบสังเกตด้วยว่า พี่เลี้ยงทำงานเป็นอย่างไร
7) พี่เลี้ยงตามใจลูก
คุณอาจจะไม่อยากให้พ่อแม่ของคุณเลี้ยงลูกของคุณ เพราะเกรงว่าปู่ย่าตายายจะตามใจหลาน แล้วพี่เลี้ยงของคุณมีแนวโน้มตามใจลูกของคุณมากจนเกินไปหรือเปล่า? คุณต้องคุยกับพี่เลี้ยงว่าอะไรทำได้ หรือไม่ได้ เพื่อไม่ให้พี่เลี้ยงตามใจลูกของคุณเกินไป
8) ลูกติดพี่เลี้ยง
ลูกติดพ่อ หรือติดแม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากกว่าอาจจะน่าปวดหัวพอแล้ว คุณคงไม่อยากให้ลูกติดพี่เลี้ยงมากกว่าคุณเอง ดังนั้นคุณต้องแบ่งเวลาให้กับลูกด้วย และหากิจกรรมทำกับลูกให้มาก
9) ครอบครัว และการให้เกียรติพี่เลี้ยง
คนในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เป็นพ่อแม่ต้องเห็นด้วยก่อนจ้างพี่เลี้ยง และตกลงกันว่าจะปฏิบัติต่อพี่เลี้ยงอย่างไร เพราะอย่างไรก็ดีคุณก็ต้องให้เกียรติพี่เลี้ยง หากลูกของคุณพอจะรู้ความแล้วคุณต้องสอนลูกให้เข้าใจมารยาทข้อนี้ด้วย
10) ลูกของคุณเอง
เมื่อพี่เลี้ยงอยู่กับคุณไปสักพัก คุณต้องดูปฏิกิริยาลูกคุณด้วยว่าลูกของคุณและพี่เลี้ยงเข้ากันได้หรือไม่ มีปัญหาติดพี่เลี้ยงหรือไม่ นิสัยเปลี่ยนหรือไม่ ถ้ามีปัญหาคุณอาจจะจำเป็นต้องพูดคุยกับพี่เลี้ยงของคุณแล้วล่ะ
พ่อแม่ต้องพิจารณาให้ดี ก่อนจะจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูก ข้อชวนคิดก่อนจ้างพี่เลี้ยง
ในยุคนี้ การทำงานหาเงินเข้าบ้านไม่ได้เป็นหน้าที่ของฝ่ายชายเพียงฝ่ายเดียวอีกต่อไป เพราะผู้หญิงก็ต้องลุกขึ้นมาช่วยทำงานเช่นเดียวกัน “การจ้างพี่เลี้ยงเด็ก” จึงเป็นคำที่ผุดขึ้นมาในความคิด ว่า คุณแม่หลายคนก็ยังคงเป็นกังวลอยู่ว่า หากลูกอยู่ภายใต้การดูแลของพี่เลี้ยงนั้นจะดีจริงหรือไม่ เราจึงขอรวบรวมเอาข้อที่คุณแม่ควรคิดคำนึงเมื่อจะเลือกจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาฝากค่ะ มาดูกันค่ะว่า หากจะเลือกพี่เลี้ยงสักคน คุณแม่ควรคำนึงถึงอะไรบ้าง หากเป็นสมัยก่อน คุณแม่อาจลาออกจากงานมาเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้าน แต่ในยุคนี้คงไม่สามารถทำแบบนั้นได้ทุกครอบครัว คุณแม่เองก็ไม่สามารถทำงานและเลี้ยงลูกในเวลาเดียวกันได้ เราจึงอาจต้องการพี่เลี้ยงมาเป็นตัวช่วยดูแลลูกน้อยของเรา…
1. ความรู้ของผู้เลี้ยง
แน่นอนว่าการเลี้ยงเด็กเล็กนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คนที่เราเลือกมาเลี้ยงลูกของเราจึงควรเป็นคนที่มีความรู้ด้านการดูแลเด็กๆ ทั้งในเรื่องจิตวิทยา และการดูแลใส่ใจอาหาร ความสะอาดทั่วไปด้วย แม้ว่าการจ้างพี่เลี้ยงเด็กที่มีความรู้อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะกว่าการจ้างคนทั่วไป แต่ก็ถือว่าคุ้มค่านะคะ เพราะหากเด็กได้รับการดูแลที่ไม่ดี ผู้เลี้ยงขาดความรู้แล้ว อาจส่งผลต่อสุขภาพกายและใจของลูกในอนาคตได้ นอกจากนี้ คุณแม่เองก็ควรหาความรู้เรื่องการดูแลเด็กเอาไว้ด้วย เพื่อคอยตรวจสอบว่า พี่เลี้ยงเลี้ยงลูกของเราได้ถูกต้องจริงหรือไม่
บทความที่เกี่ยวข้อง : 15 บริษัทหาพี่เลี้ยงให้ลูก สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่มีเวลา
2. ความน่าใจไว้ใจ
จ้างพี่เลี้ยงเด็กให้ลูกนั้น เท่ากับว่าพี่เลี้ยงคนนั้นจะต้องเข้ามาอยู่ในบ้าน รู้ที่เก็บของต่างๆ รู้ตารางชีวิตประจำวันของคุณพ่อคุณแม่ และอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องยอมรับก็คือ ลูกอาจจะติดพี่เลี้ยง และมองพี่เลี้ยงเป็นแม่อีกคนได้เช่นกัน พี่เลี้ยงจึงต้องเป็นคนที่คุณพ่อคุณแม่ไว้ใจได้ มีประวัติที่ดี และมีทัศนคติที่ดีด้วยค่ะ
3. สุขภาพของผู้เลี้ยง
คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจในสุขภาพของคนที่จะมาเป็นพี่เลี้ยงลูกของเราด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเรื่องโรคติดต่อต่างๆ ที่อาจจะแพร่มาสู่ลูกน้อยได้ พี่เลี้ยงจึงควรมีสุขภาพแข็งแรง มีกำลังกายมากพอที่จะดูแลลูกของเรา (อย่าลืมนะคะว่า การดูแลเด็กเป็นงานที่เหนื่อยมากทีเดียว) นอกจากนี้หากพี่เลี้ยงป่วยไข้ คุณพ่อคุณแม่ควรอนุญาตให้พี่เลี้ยงพักงาน เพื่อลดปัญหาการแพร่เชื้อสู่ลูกน้อยด้วยค่ะ
4. อายุของผู้เลี้ยง
การเลี้ยงเด็กเล็กนั้น ผู้เลี้ยงต้องมีสติและความคิด อายุของผู้เลี้ยงดที่ดี คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกจ้างพี่เลี้ยงเด็กที่เป็นผู้ใหญ่ อายุบรรลุนิติภาวะ คืออายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถคิด ตัดสินใจอย่างมีเหตุผล มีวุฒิภาวะที่ดีด้วยค่ะ
5. นิสัยใจคอของผู้เลี้ยง
เด็กเล็กมักซึมซับนิสัยจากผู้ใหญ่ใกล้ตัว พี่เลี้ยงจึงต้องเป็นที่สามารถเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกน้อยของเราได้ คุณพ่อคุณแม่ควรพิจารณานิสัยส่วนตัวของพี่เลี้ยงให้ดี ในด้านความเป็นระเบียบ มีวินัยหรือไม่ อารมณ์ฉุนเฉียวง่ายหรือไม่ ชอบดื่มเหล้าสูบบุหรี่ พูดจากหยาบคายหรือไม่ ข้อนี้สำคัญมากจริงๆ ค่ะ
6. ค่าใช้จ่ายและกฎหมายแรงงาน
สุดท้ายคุณพ่อคุณแม่ต้องคำนวนค่าใช้จ่ายและอย่าลืมให้ความสำคัญเรื่องกฎหมายแรงงานด้วยนะคะ โดยหากคุณพ่อคุณแม่เลือกให้พี่เลี้ยงพักอาศัยที่บ้าน ก็ควรมีห้องพักที่แยกเป็นสัดส่วนชัดเจน มีการจัดหาอาหารให้ จ่ายค่าจ้างให้ถูกต้อง ตรงเวลา และมีวันหยุดให้พี่เลี้ยงได้พักผ่อนตามกฎหมายด้วยค่ะ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะจ้างพี่เลี้ยงมาช่วยดูแลลูกน้อยแล้ว แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ยังต้องมีเวลาให้ลูกน้อยให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้นะคะ หากไม่อยากให้ลูกรู้สึกห่างเหินกับคุณพ่อคุณแม่จนกลายเป็นเด็กขาดความอบอุ่น เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ลูกน้อยก็ต้องการความรักจากคุณพ่อคุณแม่มากเป็นที่หนึ่งเสมอค่ะ
ข้อดีในการหาและฝากลูกไว้กับพี่เลี้ยงเด็กที่บ้าน
- เด็กได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดทั้งวัน
- ตัดปัญหาการเดินทางไป รับส่งลูก และลดเวลาการเดินทางไปทำงานของพ่อ และแม่
- ลูกได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด และตามความต้องการเป็นพิเศษที่แม่สามารถแจ้งให้พี่เลี้ยงปฏิบัติกับลูกได้เฉพาะ
- ลูกได้อยู่ใกล้ชิดกับพี่น้องที่บ้าน
- เด็กที่ขี้อาย จะรู้สึกมั่นคงกว่าเมื่ออยู่ที่บ้าน และในสภาพแวดล้อมที่มั่นคง
- ครอบครัวสามารถจัดกิจกรรมให้กับลูกได้ดีกว่า การส่งลูกไปอยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็ก
- ญาติผู้ใหญ่สามารถมาช่วยดูแลลูก(หากลูกป่วย)ได้ง่ายกว่าการฝากลูกไว้ที่สถานรับเลี้ยงเด็ก
- สำหรับคุณแม่ทำงานอยู่กับบ้าน ก็สามารถดูลูกได้ทุกเวลา
ข้อเสียในการหาและฝากลูกไว้กับพี่เลี้ยงเด็กที่บ้าน
- การหาและบริหารพี่เลี้ยงที่ดีและมีคุณภาพ มีความรู้ด้านการดูแลเด็กและพัฒนาการเด็ก สักคนเป็นเรื่องยาก
- มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในการจัดหา และค่าแรงรวมถึงค่าใช้จ่ายจิปาถะที่เกิดขึ้น หากมีสามาชิกเพิ่มขึ้นในครัวเรือน
- การวางแผนในกรณีพี่เลี้ยงป่วย คุณแม่ต้องคุยกับตัวแทนถึงการมีพี่เลี้ยงเด็กมาแทนในกรณีพี่เลี้ยงคนปัจจุบันป่วย เพราะนั่นหมายถึงคุณต้องรีบหาใครที่คุณไว้ใจได้ หรือที่สุดคุณหรือคุณสามี ต้องหยุดงานเพื่อดูแลลูก หากคุณได้วางแผนไว้หรือทาบทามใครไว้ล่วงหน้าเมื่อเกิดสถานะการณ์นี้เกิดขึ้น คุณก็จะได้ดำเนินได้อย่างท่วงที
- ความส่วนตัวหายไป เมื่อคุณแม่มีสมาชิกใหม่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว
- ลูกอาจติดพี่เลี้ยง และจะรู้สึกเสียใจและต้องปรับตัวเมือจำเป็นต้องเปลี่ยนพี่เลี้ยงใหม่
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
พี่เลี้ยงโหดตบตีเด็ก เป็นอุทธาหรณ์พ่อแม่
เครือสารสาสน์ แถลงเตรียมปรับโครงสร้างผู้บริหาร หลังเกิดเหตุ พี่เลี้ยงใช้ความรุนแรง
วิธีการเลือกพี่เลี้ยง ที่จะมาดูแลลูก จะมีขั้นตอนอะไรบ้าง?