ของมันต้องมี!! 10 ของใช้จำเป็นสำหรับเบบี๋ จัดให้เป๊ะ เช็กให้พร้อม มีครบไว้สบายใจกว่า

สำหรับคุณแม่มือใหม่ สิ่งสำคัญที่ควรทำในระหว่างเตรียมของใช้ให้ลูก คือ การจดเช็กลิสต์ของใช้ทุกอย่างเอาไว้ให้พร้อมสรรพ เพราะถึงแม้จะเป็นคุณแม่ที่มีประสบการณ์การเลี้ยงลูกมาแล้วก็ตาม ก็อาจมีบางอย่างที่อาจหลงลืมไป หรือไม่แน่ใจว่าจะให้คนน้องรับมรดกจากคนพี่ หรือลงทุนซื้อใหม่ดีกว่ากัน?

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

การทำเช็กลิสต์ ของใช้จำเป็นสำหรับเบบี๋ เป็นวิธีที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถตรวจสอบได้ว่าของสิ่งไหนต้องซื้อก่อน ซื้อหลัง ของชิ้นไหนต้องซื้อทุกเดือน หรือซื้อครั้งเดียวก็สามารถใช้ได้จนลูกโต theAsianparent ได้รวบรวม 10 ของใช้สำหรับลูกรักวัยแรกเกิด – 1 ปี ที่คุณแม่ควรมี แบ่งเป็น 2 หมวดหมู่ คือ ของใช้ที่ต้องซื้อเป็นประจำ และของใช้ที่ซื้อครั้งเดียวจบ มาให้แล้วดังนี้

 

ของมันต้องมี!! 10 ของใช้จำเป็นสำหรับเบบี๋ จัดให้เป๊ะ เช็กให้พร้อม มีครบไว้สบายใจกว่า

  • หมวดของใช้ประจำวัน ต้องซื้อเป็นประจำทุกเดือน

 

1.ผ้าอ้อมผ้า ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ผ้าอ้อมทั้ง 2 ชนิดต่างมีข้อดีเช่นเดียวกัน สำหรับผ้าอ้อมผ้า เป็นผ้าอ้อมที่ซักทำความสะอาดและนำกลับมาใช้ใหม่ได้ จึงค่อนข้างช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มาก คุณแม่ควรเลือกชนิดที่ทำจาก ผ้าฝ้าย หรือผ้าสาลู ที่มีผิวสัมผัสนุ่ม ระบายอากาศดี ซักง่าย และแห้งไว เหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทย ส่วนผ้าอ้อมสำเร็จรูป ช่วยในเรื่องความสะดวกสบาย และประหยัดเวลาในการซักผ้า โดยคุณแม่ควรเลือกผ้าอ้อมที่มีขนาดพอดีตัว เหมาะกับช่วงวัย ขณะสวมใส่ต้องไม่รัดแน่น หรือหลวมเกินไป ข้อสำคัญคือ ต้องผลิตจากวัสดุที่อ่อนโยนต่อผิวลูก ซึมซับได้ดีทั้งเวลานอนและเคลื่อนไหว เพราะจะช่วยให้ลูกพักผ่อนได้เต็มที่ และมีพัฒนาการที่ดีสมวัย

2.ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเส้นผมสำหรับเด็กเล็ก เนื่องจากทารกเป็นวัยที่มีผิวบอบบางและแพ้ง่าย การเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวให้ลูกจึงต้องเจาะจงลงไปถึงคุณสมบัติที่สามารถช่วยปกป้องผิวอย่างอ่อนโยน ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นให้ผิวและหนังศีรษะที่สูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย ไม่ระคายเคือง ไม่มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อผิวและดวงตาของเด็ก ๆ อย่าง แอลกอฮอล์ พาราเบน มิเนอรัลออยล์ สี และน้ำหอม

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังจำนวนมาก แนะนำให้คุณแม่เลือกใช้ คือ เซตาฟิล เบบี้ (Cetaphil Baby) มีครบครัน ทั้งผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเส้นผม รวมถึงผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ไม่ว่าจะเป็น

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • Cetaphil Baby Gentle Wash & Shampoo ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดตั้งแต่เส้นผม หนังศีรษะ และผิวกาย ดูแลลูกน้อยตั้งแต่ Head-to-Toe อย่างอ่อนโยน ไม่ระคายเคืองดวงตา ด้วยส่วนผสมของ Glycerin และ Panthenol ที่มีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื้น เสริมสร้างปราการผิวให้แข็งแรง ช่วยให้ผิวไม่แห้งตึง เส้นผมและหนังศีรษะสะอาดนุ่ม เหมาะกับทุกสภาพผิว และทุกช่วงวัย
  • Cetaphil Baby Shampoo ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะสูตรอ่อนโยน มีส่วนผสมของ Natural Chamomile ช่วยให้หนังศีรษะมีความชุ่มชื้น แข็งแรง มีสุขภาพดี ดูแลเส้นผมให้นุ่มลื่น ช่วยให้เบบี๋รู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์ดีตลอดวัน
  • Cetaphil Baby Moisturising Bath & Wash ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ดูแลและปกป้องผิวบอบบางของเบบี๋อย่างอ่อนโยน ด้วยคุณค่ามอยส์เจอไรเซอร์ถึง 1 ใน 3 พร้อมด้วย Aloe Vera, Glycerin และ Almond Oil ช่วยคืนสมดุลให้กับผิวตามธรรมชาติ ช่วยให้ผิวลูกชุ่มชื้น มีความแข็งแรง
  • Cetaphil Baby Daily Lotion ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวลูกรัก เสริมสร้างปราการผิวอย่างอ่อนโยนด้วยส่วนผสมของน้ำมันสกัดจากธรรมชาติ ปกป้องผิวบอบบางจากสิ่งแปลกปลอมภายนอก เช่น ฝุ่นละออง ควัน สารเคมีบางอย่าง ช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ ด้วย 3 ส่วนผสมสำคัญ อย่าง น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน (Helianthus Annuus Sunflower Oil) น้ำมันจากเมล็ดถั่วเหลือง และ Shea Butter เนื้อโลชั่นซึมซาบไว ไม่เหนียวเหนอะตัว ปราศจากส่วนผสมที่เป็นอันตราย เหมาะกับผิวบอบบางและแพ้ง่ายอย่างแท้จริง

 

สนใจผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเส้นผมสำหรับเด็ก Cetaphil Baby คลิกที่นี่

 

3.ผลิตภัณฑ์ซักล้างสำหรับเด็ก เพราะผิวเด็กทารกบอบบางและแพ้ง่ายมาก จึงจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ซักล้าง ที่มีความอ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว โดยคุณแม่สามารถเจาะจงเลือกผลิตภัณฑ์ซักล้างสูตรออร์แกนิค ที่ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ 100% ก็จะยิ่งมั่นใจได้ว่า นอกจากจะทำความสะอาดเสื้อผ้าหรือขวดนมลูกได้หมดจดแล้ว ยังไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายของลูกน้อยอีกด้วย

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • หมวดของใช้ประจำวัน ซื้อครั้งเดียวจบ

สำหรับของใช้ในหมวดนี้ คุณพ่อคุณแม่ลงทุนซื้อเพียงครั้งเดียวก็สามารถใช้ไปได้นาน ดังนั้น เคล็ดลับในการซื้อของใช้ทารกในหมวดนี้ ควรเน้นซื้อของที่มีอายุการใช้งานยาวนาน มีความทนทาน แม้บางอย่างอาจราคาสูงไปบ้าง แต่ถ้าเทียบถึงระยะเวลาการใช้งาน ก็ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคา โดยสิ่งของในหมวดของใช้ประจำวัน ซื้อครั้งเดียวจบ มีดังนี้

 

1.เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม และผ้าห่อตัว ควรเลือกเนื้อผ้าให้เหมาะกับสภาพอากาศประเทศไทย อาจเป็นผ้าฝ้าย ผ้าใยไผ่ หรือผ้าป่าน ที่ให้สัมผัสนุ่มสบาย ระบายอากาศได้ดี ซักง่าย แห้งไว ปราศจากสารเคมีที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง มีรูปแบบการตัดเย็บพิถีพิถัน เก็บตะเข็บ กระดุม และสายผูกอย่างดี มีสีอ่อน ๆ เพื่อสังเกตรอยเปื้อน หรือมดแมลงที่เกาะอยู่บนเนื้อผ้าได้ง่าย โดยอาจเลือกชุดที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวสักเล็กน้อย เนื่องจากช่วง 1 ปีแรก เด็กเล็กจะโตไวมาก

2.ชุดเครื่องนอน เตียงนอน คอกเด็ก เด็กเล็กไม่ควรนอนร่วมเตียงกับพ่อแม่ เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันขณะนอนหลับได้ ดังนั้นหากต้องเลือกเครื่องนอนให้ลูกรัก ควรดูในเรื่องวัสดุ เช่น เตียงหรือเบาะนอนไม่ควรนิ่มเกินไป ผ้าคลุมควรมีสัมผัสที่นุ่มสบาย ถอดซักได้ง่าย ไม่ก่อให้เกิดการสะสมของไรฝุ่นและสิ่งสกปรก ส่วนประกอบของเตียงต้องไม่ทำให้เกิดอันตราย ไม่สูงเกินไป หากเป็นคอกเด็กต้องไม่มีมุมแหลมคม ซี่ลูกกรงต้องหุ้มนวม และไม่เว้นระยะห่างจนศีรษะเด็กเข้าไปติดได้ เป็นต้น

3.เป้อุ้มเด็ก คาร์ซีท รถเข็นเด็ก สิ่งเหล่านี้เป็นอุปกรณ์ที่สามารถใช้ได้นานอย่างน้อย 1 ปี จึงควรเลือกที่ผลิตจากวัสดุที่มีความแข็งแรง ทนทาน มีการรับประกันอย่างน้อย 1 – 2 ปี โดยเฉพาะคาร์ซีท ต้องได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยสากล สามารถติดตั้งได้ในรถหลายประเภท เหมาะกับเด็กทุกช่วงวัย ส่วนรถเข็นเด็ก ควรเป็นวัสดุที่แข็งแรง แต่มีน้ำหนักน้อย พับเก็บได้สะดวก เข็นได้ในทุกสภาพถนน เป็นต้น

4.อุปกรณ์ปั๊มนม ชุดขวดนม เด็ก ๆ ควรทานนมแม่ให้ได้อย่างน้อย 6 เดือนขึ้นไป ดังนั้น คุณแม่จึงควรมองหาอุปกรณ์ปั๊มนม ถุงบรรจุน้ำนม และตู้สำหรับแช่สต๊อกนมแม่ ที่มีอายุการใช้งานยาวนาน มีความปลอดภัย ขวดนมและจุกนม ต้องเหมาะกับช่วงวัย ผลิตจากวัสดุ Food Grade ปราศจากสารอันตราย และทนความร้อนได้ดี

5.อุปกรณ์อาบน้ำ-ซักล้าง กะละมังอาบน้ำลูกควรแยกกับกะละมังซักผ้า โดยอาจเลือกวัสดุที่เป็นพลาสติก หรือซิโคนอย่างดี ไม่มีขอบคม ไม่ลึกจนก่อให้เกิดอันตรายกับลูกรัก ฟองน้ำขัดตัวลูกควรมีสัมผัสนุ่ม อ่อนโยนต่อผิว และเพื่อให้การอาบน้ำเป็นไปอย่างราบรื่น คุณแม่อาจหาของเล่นสีสันสวยงาม อาทิ เป็นเหลือง สมุดนิทานลอยน้ำ เพื่อใช้ในการดึงดูดความสนใจของเบบี๋ได้จะดีมาก ส่วนอุปกรณ์ล้างขวดนมลูก นอกจากจะเลือกที่มีความทนทานแล้ว ยังควรทำความสะอาดง่าย เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค

6.อุปกรณ์ปฐมพยาบาลเด็กเล็ก เพราะเบบี๋วัยขวบปีแรกยังมีภูมิคุ้มกันที่ไม่สมบูรณ์จึงป่วยง่าย ดังนั้นทุกบ้านควรมีปรอทวัดไข้ เจลลดไข้ และยาสามัญประจำบ้าน เช่น ยาลดไข้ น้ำเกลือล้างจมูกลูก ยาแก้ท้องอืด ยาทาผื่นผ้าอ้อม บาล์มแก้แมลงกัดต่อย บาล์มทาบรรเทาหวัด เกลือแร่แก้ท้องเสียสำหรับเด็ก และอุปกรณ์ทำแผล ต้องมีติดบ้านไว้ให้ครบถ้วน

7.ของใช้จิปาถะ เช่น ที่ดูดน้ำมูก กรรไกรตัดเล็บสำหรับเด็ก ควรเลือกที่เป็นของเด็กเล็กโดยเฉพาะ สำลีและทิชชูเปียก ควรผลิตจากวัสดุจากธรรมชาติ ปราศจากสี และสารอันตรายต่อร่างกายลูก นอกจากนี้ เด็ก ๆ ยังจำเป็นต้องมีของเล่นเสริมพัฒนาการ เช่น โมบายล์สีสด ตุ๊กผ้านิ่ม ของเล่นมีเสียงกรุ๊งกริ๊ง หนังสือนิทานภาพ ฯลฯ เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่นำมาใช้กระตุ้นพัฒนาการตามวัย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ของใช้สำหรับเบบี๋ ทั้ง 2 หมวดด้านบนนี้ เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องเตรียมให้พร้อมก่อนที่เบบี๋จะลืมตาดูโลก คุณพ่อคุณแม่อาจเริ่มทยอยซื้อของได้ตั้งแต่ช่วงต้นไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์ หากของชิ้นไหนมีอยู่แล้ว หรือเป็นมรดกตกทอดจากคนพี่ ก่อนนำมาใช้ คุณพ่อคุณแม่ควรตรวจเช็กสภาพว่ามีความแข็งแรง ไม่ชำรุด และพร้อมใช้งานโดยไม่ต้องหาซื้อใหม่หรือไม่ สำหรับผลิตภัณฑ์ในหมวดของใช้ที่ต้องซื้อใหม่ทุกเดือน เมื่อคุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสุขภาพของลูกได้แล้ว แนะนำให้ใช้ต่อเนื่องไปจนลูกโตได้เลย เพราะทุกครั้งที่เราเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ยี่ห้อใหม่ นั่นหมายถึงการนำเอาสุขภาพของลูกมาเสี่ยงสัมผัสกับสารระคายเคืองโดยไม่จำเป็น

 

ชอปผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเส้นผมสำหรับเด็ก Cetaphil Baby คลิกที่นี่

 

 

บทความโดย

theAsianparent Editorial Team