อาหารต้านโรค! สุดยอด 10 อาหารต้านไวรัส ยิ่งกิน ยิ่งแข็งแรง
ในยุคที่ไวรัสแพร่กระจายได้เร็วแบบนี้ แถม อากาศยังเป็นมลพิษ การทำให้ร่างกายแข็งแรงอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ง่าย แต่วันนี้เรามีข้อมูลดีๆ มาให้ หลายคนอ่านกับ อาหารต้านโรค! สุดยอด 10 อาหารต้านไวรัส ยิ่งกิน ยิ่งแข็งแรง กินอาหารเป็นยา ดีกว่าจะต้องกินยาเป็นอาหารนะคะ!
10 อาหาร ต้านไวรัส ยิ่งกิน ยิ่งแข็งแรง
1.อาหารต้านไวรัสคือ ชาดำ (Black Tea)
ชาดำ อุดมไปด้วยกลุ่มของสารต่อสู้เชื้อโรค และ สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสได้หลายชนิด และ ชาดำยังอุดมไปด้วยกลุ่มของสารต่อสู้เชื้อโรค โดย ใบชามีสารประกอบที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ได้แก่ โพลีฟีนอล (Polyphenols), คาเทชิน (Catechins) และ อัลคาลอยด์ (Akaloids) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยป้องกันการลุกลามขอ แบคทีเรีย เชื้อรา และ ไวรัส โดยงานวิจัยแสดงให้เห็นว่าชาดำ สามารถยับยั้งการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้เกือบทั้งหมด และ ในการศึกษาอีกหนึ่งตัวพบว่าชาดำอุดมไปด้วยสารประกอบ ฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ที่ช่วยยับยั้งการติดเชื้อเริมจากไวรัสชนิดที่ 1 (HSV-1) ด้วยอีก
2.อาหารต้านไวรัสคือ ขมิ้น (Turmeric)
เครื่องเทศที่อุดมไปด้วยรสชาติที่เข้มข้น ซึ่งถูกใช้ส่วนหนึ่งในการผลิตยา และ ยาจีนโบราณ มานานหลายศตวรรษ นั้นก็คือ “ขมิ้น” เพราะในขมิ้นมี โพลีฟีนอล (Polyphenol) ซึ่งมีคุณสมบัติเย็น และ ช่วยต่อสู้กับไข้หวัดใหญ่ โดยในการศึกษาในปี 2008 มีการวิจัยทางชีวเคมี ที่ออกมาบอกว่าขมิ้นมีการช่วยป้องกันเซลล์ภูมิคุ้มกันบางชนิด และ สามารถช่วยการปรับและต้านการอักเสบ การศึกษาอื่นๆ ยังแสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติของการส่งเสริมภูมิคุ้มกัน โดยบางประเทศนั้นใช้ ขมิ้นบดกับราก ให้กลายเป็นผง โดย ตัวผงขมิ้นนั้นมี คุณสมบัติเป็นยาฆ่าเชื้อ ที่ช่วยทาในตอนผิวไหม้ หรือ มีรอยฟกช้ำ
3.อาหารต้านไวรัสคือ โหระพา (Basil)
โหระพา เป็นหนึ่งในอาหารที่ต้านไวรัส จากการศึกษาพบว่าสารสกัดจากใบโหระพามีสารประกอบที่ต่อสู้กับไวรัสตักอักเสบ B นั้นก็คือ อะพิจีนีน (Apigenin) และ กรดยูโซลิก (Ursolic Acid) โดยใบโหระพานั้นสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันซึ่งต่อสู้กับการติดเชื้อไวรัสได้ดีมากๆ
4.อาหารต้านไวรัสคือ อบเชย (Cinnamon)
สุดยอด 10 อาหาร ต้าน ไวรัส ยิ่งกิน ยิ่ง แข็งแรง
อบเชย ถูกนำไปใช้ในยาสมุนไพรมาหลายร้อยปี และ จากวิจัยพบว่าอบเชยมีสารประกอบที่ใช้ในการต้านไวรัสเยอะมาก ทั้งช่วยเรื่องภูมิคุ้มกัน และ รักษาการอักเสบ โดย อบเชย ช่วยในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ และ ยังสามารถช่วยยับยั้งเชื้อร้าต่างๆ โดย สารประกอบที่มีในอบเชยที่ช่วยในเรื่องไวรัสคือ ซินนามาลดีไฮด์ (Cinnamaldehyde) ที่ช่วยยับยั้ง ลิสเทอเรีย (Listeria) และ เอสเชอริเชีย โคไล (E. coli)
5.อาหารต้านไวรัสคือ โยเกิร์ต (Yogurt)
โยเกิร์ตมี โปรไบโอติกส์ แล็กโตบาซิลลัส หรือไบไฟโดแบคทีเรีย ซึ่งจุลินทรีย์เหล่านี้จะไปเพิ่มเม็ดเลือดขาวที่เป็นตัวดักจับเชื้อโรคต่างๆในร่างกายทำให้ไม่เป็นโรคได้ง่าย นอกจากนั้นจากการวิจัยพบว่า โปรไบโอติกส์ สามารถเสริมสร้างภูมิคุ้มกันระบบทางเดินหายใจ การฟื้นตัวเร็ว และ การลดความรุนแรงของการติดเชื้อทางเดินหายใจ ที่เกิดจากไวรัสไข้หวัดใหญ่
6.อาหารต้านไวรัสคือ หอยนางรม (Oyster)
หอยนางรม อุดมไปด้วยสังกะสีที่ช่วยปกป้องเราจากหวัด ไข้หวัดใหญ่ ได้ดีมาก และ ยังช่วยทำให้เม็ดเลือดขาวทำงานได้ดีขึ้น สามารถดักจับและทำลายสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย แต่อย่างไรก็ตาม การกินหอยนางรมก็ควรกินวันละ 1 ตัว เพราะ ถ้าร่างกายรับสังกะสีมากเกินไปก็อาจจะทำให้เป็นพิษได้
7.อาหารต้านไวรัสคือ อัลเดอร์เบอร์รี่ (Elderberry)
อัลเดอร์เบอร์รี่ ถูกใช้มาอย่างยาวนานนับศตวรรษในการลดอาการไข้หวัด โดยจากการวิจัย พบว่า การทาน อัลเดอร์เบอร์รี่ 60 มิลลิลิตร สำหรับผู้ใหญ่ และ 30 มิลลิลิตร สำหรับเด็ก ช่วยในการฟื้นฟูอาการไข้หวัดได้ดี และยิ่งไปกว่านั้นจากการวิจัยพบว่า อัลเดอร์เบอร์รี่ นั้นช่วยดักจับการบุกรุกของเซลล์ของไวรัสที่เข้าไปทำลายสุขภาพ และ อัลเดอร์เบอร์รี่ ยังช่วยยับยั้งไวรัสที่มาจากเริมอีกด้วย
8.อาหารต้านไวรัสคือ เห็ดชิตาเกะ (Shiitake)
เห็ดชิตาเกะ อุดมไปด้วยเบต้ากลูแคน สารต้านไวรัสที่ได้รับการวิจัย โดยตัวเบต้ากลูแคนนั้นเข้าไปเสริมสร้างระบบการทำงานของภูมิคุ้มกัน โดยเบต้ากลูแคนนั้นช่วยลดการอักเสบ และ ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ได้อย่างดี
9.อาหารต้านไวรัสคือ กระเทียม (Garlic)
โดยกระเทียมมีสารประกอบที่มีประสิทธิภาพหลายอย่างเช่น สารอัลลิซิน (Allicin), สารอะโจอิน (Ajoene) เป็นต้น ที่ช่วยต่อสู้กับไวรัสไข้หวัดใหญ่, ไวรัสเริม, ไวรัสปอดอักเสบ และ โรต้าไวรัส
10.อาหารต้านไวรัสคือ บร็อกโคลี่ (Broccoli)
โดยตัวบร็อกโคลี่อุดมไปด้วยสารอาาหรที่มีประโยชน์มากมาย ทั้ง วิตามินเอ ซี อี สารกลูโคไซโนเลต สังกะสี ซีลีเนียม และ สารต้านอนุมูลอิสระมากมาย เพราะฉะนั้นหากกินบร็อกโคลี่ ร่างกายก็มีภูมิต้านทานจากเชื้อโรคต่างๆได้ เพียงแค่ รับประทานบร็อกโคลี่วันละ 1 ถ้วย ก็ปลอดจากไวรัสต่างๆได้แล้ว
Source : betternutrition
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ :
hMPV ไวรัสร้ายคร่าชีวิตทารก โรค hMVP คืออะไร? อันตรายมากแค่ไหน?
ไวรัสโคโรนา เตือนภัย คุณแม่ที่พาลูกออกไปข้างนอกช่วงตรุษจีนต้องระวัง
ค่าฝุ่นละออง กทม. PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน ควรสวมใส่หน้ากากป้องกัน คนท้อง ทารก เลี่ยงการอยู่กลางแจ้ง