แม่ยอมท้องลูกภาวะไร้สมองและกะโหลกศีรษะเพราะต้องการบริจาคอวัยวะให้คนอื่น

สามีภรรยาคู่นี้ พบว่าทารกในครรภ์อยู่ในภาวะไร้สมองและกะโหลกหลังทำอัลตร้าซาวด์ ซึ่งหมอก็บอกเลยว่า โอกาสที่ทารกจะคลอดออกมาแล้วรอดนั้น ริบหรี่เต็มที แต่พวกเขาก็ตัดสินใจทำบางอย่าง แม้ว่าจะเป็นการกระทำที่เจ็บปวดก็ตาม

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

สำหรับหลาย ๆ ครอบครัว การทำอัลตร้าซาวด์แล้วเห็นลูกครั้งแรกนั้น ย่อมเต็มไปด้วยความสุขล้นอยู่ในจริง ยิ่งได้เห็นหน้าลูกในวันที่เขาลืมตาดูโลกด้วยแล้วนั้น ย่อมเป็นช่วงเวลาที่มีค่า และไม่สามารถเอาอะไรมาแลกได้ ซึ่งความรู้สึกที่กล่าวมาแล้วนั้นไม่ได้เกิดขึ้นกับครอบครัวเครี่และรอยส์เลย

“พวกเรารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าพวกเราได้ลูกคนที่สองเป็นลูกสาว ครั้งแรกที่เรารู้นั้น เรารู้สึกดีใจมากและตั้งชื่อให้เธอว่า “เอวา” แต่ไม่นานหมอก็บอกข่าวร้ายที่สุดที่พวกเราไม่อยากได้ยิน นั่นก็คือ ทารกในครรภ์มีภาวะไร้สมองและกะโหลก ซึ่งโอกาสที่เธอจะมีชีวิตรอดสู่โลกภายนอกนั้น แทบเป็นไปไม่ได้เลย” เครี่เล่า

แม้เครี่จะรู้อยู่แล้วว่า เอวาจะต้องตาย แต่เธอก็เลือกที่จะอุ้มท้องไปเรื่อย ๆ เพราะหวังที่จะบริจาคอวัยวะของเอวาให้กับผู้ป่วยคนอื่น ๆ ซึ่งตลอดระยะเวลาในการตั้งครรภ์นั้น เครี่สัมผัสได้ถึงทุกการสัมผัสของเอวา ไม่ว่าจะเป็นการเตะ การดิ้น เธอรับรู้ทุกอย่างเรื่อยมาจนกระทั่งในสัปดาห์ที่ 37 จู่ ๆ เอวาก็หยุดนิ่ง

เครี่รีบไปหาหมอที่โรงพยาบาลทันที หมอบอกว่าเธอต้องเข้ารับการผ่าตัดคลอดทันที “ไม่ฉันรับไม่ได้ ไม่จริงฉันยังรับไม่ได้” นี่คือสิ่งที่เครี่คิดตลอดเวลา เพราะการผ่าตัดคลอดของเธอนั้นไม่ใช่วันให้กำเนิดเอวาแต่เพียงอย่างเดียว หากแต่เป็นวันตายของเธอด้วย และนั่นคือข่าวร้ายที่สุดในชีวิตเธอ และเธอก็ไม่มีวันรับมันได้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ภายหลังที่ผ่าคลอดเสร็จ ทั้งเอวาและรอยส์ไม่มีแม้แต่โอกาสสักวินาทีเดียวในการได้สัมผัสถึงลมหายใจของเอวาเลย ทันทีที่หมอเอาร่างอันไร้วิญญาณของเอวามาให้ พวกเขาทั้งคู่ร้องไห้จนแทบจะขาดใจ และร่วมกันถ่ายภาพครอบครัวสุดท้ายก่อนต้องแยกจากกัน

“ถึงแม้ว่าฉันจะไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้สัมผัสถึงลมหายใจของเอวา แต่ฉันก็ยินดีที่จะบริจาคดวงตาของเธอให้กับเด็กคนอื่น ๆ ที่ต้องการ เพราะอย่างน้อยก็ทำให้อีกครอบครัวนึงมีโอกาสที่จะใช้ชีวิตพร้อมหน้าพร้อมตาอย่างมีความสุขแทนพวกเรา” เครี่ทิ้งท้าย

ภาวะทารกไม่มีกะโหลกศีรษะ

เกิดจากมีความผิดปกติพัฒนาการท่อประสาท ไม่มีการปิดท่อประสาทส่วนบน ส่งผลให้ทารกไม่มีกะโหลก ไม่มีสมองส่วนหน้า สมองส่วนที่เหลือ มีรายงานพบอุบัติการประมาณ 1/1,000 ของทารกที่คลอด

ทารกมักจะตาบอด หูหนวก ไม่รับรู้ความเจ็บปวด ไม่รู้สึกตัว อาจมีตาโปนออกมาจากเบ้าตาได้ ร้อยละ 75 มักจะตายคลอด ที่เหลืออาจมีชีวิตอยู่ได้เป็นชั่วโมง เป็นวัน หรือเป็นสัปดาห์ แล้วเสียชีวิตในระยะเวลาอันสั้น พบในบุตรเพศหญิงมากกว่าเพศชาย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

สาเหตุที่แท้จริงนั้นไม่ทราบ เชื่อว่าเป็นจากการขาดสารอาหารบางชนิด เช่น โฟเลท วิตามินบี 6 บี 12 และธาตุสังกะสีหรือปัจจัยทางพันธุกรรม มารดามีโรคเบาหวาน ยาบางชนิดที่มีผลต่อโฟลิคเช่น ยากันชัก (valproic acid, antimetabolic drugs)

การวินิจฉัยระหว่างตั้งครรภ์

  1. การเจาะตรวจน้ำคร่ำหรือตรวจเลือดมารดาเพื่อวัดระดับ Alpha fetoprotein ซึ่งจะสูงขึ้นในทารกที่เป็นโรคนี้
  2. ตรวจคลื่นเสียงความถี่สูง ตรวจได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 14 สัปดาห์เป็นต้นไป

การป้องกันภาวะทารกไม่มีกะโหลกศีรษะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

สามารถทำได้โดยรับประทานธาตุโฟลิคทดแทน ขนาด 0.4 มิลลิกรัมต่อวันเพื่อป้องกันโรคเกิดใหม่(ลดได้ร้อยละ 58) และในขนาด 4 มิลลิกรัมต่อวันเพื่อป้องกันการเกิดซ้ำในรายที่มีบุตรเป็นโรคในครรภ์ก่อน (ลดได้ ร้อยละ 95)

ที่มา: Mirror และ นพ.เมธาพันธ์ กิจพรธีรานันท์ สูตินรีแพทย์

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:

สิ่งที่แม่ท้องควรหลีกเลี่ยง ถ้าไม่อยากให้ทารกพิการ

ท้องนี้ชวนมากินทุเรียน ป้องกันลูกในครรภ์พิการกันดีกว่า

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

Muninth