เสริมพัฒนาการด้าน IQ+EQ เจ้าตัวน้อยด้วย ‘แสงแดด’

เจ้าตัวน้อยจะมีพัฒนาการครบพร้อมทั้งทางด้านอารมณ์และความคิดได้ง่ายๆ เพียงแค่คุณแม่พาเขาออกมาปลดปล่อยความซุกซน สูดอากาศบริสุทธิ์นอกบ้าน ออกกำลังกายกลางแจ้ง สัปดาห์ละ 10-15 นาที เช่น วิ่งเหยาะๆ ปั่นจักรยาน ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน รับรองว่าลูกจะมีพัฒนาการที่ดีสมวัยยิ่งขึ้น

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ลูกออกไปข้างนอก เรียนรู้โลกกว้าง แล้วดียังไง?

GOOD 1: หนูฉลาดสมวัย

โลกข้างนอกบ้านนั้นกว้างใหญ่ พอได้เห็น สัมผัส เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ด้วยตัวพวกหนูเอง มันน่าสนใจและสนุกกว่าที่คิด จากที่เคยฟังคุณแม่เคยเล่า หรืออ่านจากหนังสือ พอได้รู้ด้วยตัวเองแบบนี้ดีกว่าเดิมซะอีก

โอ้โห เป็นแบบนี้นี่เอง แล้วนั้นคืออะไร นี่ล่ะไว้ใช้ทำอะไรนะ น่าสงสัยจัง? พอมีคุณแม่คอยบอก คอยสอนอยู่ข้างๆ ก็เยี่ยมสุดๆ ไปเลย!

  • ได้สัมผัสธรรมชาติ เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ รอบตัวด้วยตัวเอง
  • กลายเป็นเด็กช่างสังเกต ช่างคิด ชอบตั้งคำถามและหาคำตอบ
  • กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ พัฒนาสมอง

GOOD 2: หนูอารมณ์แจ่มใส สมองปลอดโปร่ง

ได้ออกไปสัมผัสธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์ เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจด้วยตัวเอง ทำให้หนูอารมณ์ดีขึ้นเยอะเลย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • ได้สูดอากาศบริสุทธิ์
  • ได้พบประสบการณ์ใหม่ๆ น่าตื่นตาตื่นใจ พาอารมณ์ดี

GOOD 3: กล้ามเนื้อของหนูได้ออกกำลัง ร่างกายก็แข็งแรง

ถ้านั่งๆ นอนๆ อยู่ที่บ้าน อ่านหนังสือ ดูการ์ตูนเฉยๆ กล้ามเนื้อของพวกหนูก็ไม่ได้ยืดหยุ่น จากนั้นก็จะอ่อนแอ ไร้กำลัง แถมน่าเบื่ออีกต่างหาก! แต่ถ้าได้ออกไปปีนป่าย โหนบาร์ วิ่งเล่นข้างนอก กล้ามเนื้อของหนูก็จะแข็งแรงขึ้น พอกล้ามเนื้อได้ออกกำลัง ร่างกายก็แข็งแรงมากขึ้น หนูก็จะมีภูมิต้านทานโรค ภูมิแพ้ คัดจมูกน่ะ…อย่ามาแหยม ไม่กลัวหรอกเจ้าฝุ่น!

  • กล้ามเนื้อได้รับการยืดหยุ่น ร่างกายแข็งแรง เติบโตสมวัย
  • มีภูมิต้านทานโรค

GOOD 4: สังเคราะห์วิตามิน D เพียงพอต่อร่างกาย ฟันผุไม่มีสักซี่ กระดูกแข็งแรง

การที่ร่างกายได้รับแสงอ่อนๆ ยามเช้าในช่วง 7.00-9.00 น. จะทำให้ร่างกายกระตุ้นการสังเคราะห์วิตามิน D และกระตุ้นการผลิตโปรตีนในสมองที่ชื่อ Period 2 ทำให้ร่างกายลูกน้อย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • ฟันไม่ผุ
  • กระดูกแข็งแรง
  • หัวใจเผาผลาญพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ได้รับออกซิเจนมากขึ้น
  • เสี่ยงเกิดภาวะหัวใจวายน้อยลง

GOOD 5: หนูมีเพื่อนๆ มากมาย ร่วมสนุกเฮฮา

พอออกไปข้างนอกบ้าน หนูได้เจอคนแปลกหน้ามากมาย ได้รู้จักคนอื่นๆ นอกจากคุณพ่อคุณแม่ และคนในครอบครัวของเรา ข้างนอกนั่นยังมีทั้งคุณตา คุณยาย พี่ชาย พี่สาว น้องๆ เต็มไปหมดเลย ทุกคนเล่นสนุกไปกับหนู บางคนจากที่เป็นคนแปลกหน้า เราก็กลายเป็นเพื่อนที่แสนดีต่อกัน

  • เจอสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ผู้คนมากมายแปลกตา
  • ได้เพื่อนใหม่ รู้จักการผูกมิตร มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ เรียนรู้การสร้างความสัมพันธ์ได้ดีขึ้น

พร้อมจะพาเจ้าหนูน้อยออกไปซนแล้ว!…แต่ผิวอ่อนๆ ของเขาพร้อมแล้วหรือยัง? >>

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

พร้อมจะพาเจ้าหนูน้อยออกไปซนแล้ว!…แต่ผิวอ่อนๆ ของเขาพร้อมแล้วหรือยัง?

เมื่อแสงแดดช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูกได้หลายด้านแบบนี้แล้ว เชื่อว่าพ่อแม่หลายคนคงอยากจะพาเจ้าตัวเล็กออกไปเล่นข้างนอกบ้านใช่ไหม? แต่เดี๋ยวก่อน…แม้ยูวีในแสงแดดจะช่วยกระตุ้นการสร้างวิตามิน D แต่ยูวีปริมาณมหาศาลที่เต็มไปด้วยรังสี UVA UVA1 และ UVB ก็ทำร้ายผิวของลูกน้อยให้เสียหายอย่างถาวรได้อีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งรังสี UVA1 ที่สามารถส่องทะลุลึกได้ถึงผิวชั้นที่สอง ซึ่งสามารถทำลายคอลลาเจนและโครงสร้าง DNA ของผิวได้เลยทีเดียว ถ้าคุณพ่อคุณแม่ยังนึกภาพไม่ออกว่าแสงแดดทำร้ายผิวอย่างไร ลองดูวิดีโอที่ถ่ายด้วย UV Camera กล้องที่ถูกคิดค้นโดยศิลปินชาวอังกฤษ-อเมริกัน Thomas Leveritt ที่จะทำให้เห็นว่าแสงแดดอันตรายขนาดไหน

คุณรู้ไหมว่า?

  • ผิวเด็กบางกว่าผิวผู้ใหญ่ 5 เท่า และมีกลไกการป้องกันแสงแดดที่ยังไม่พัฒนาเต็มที่
  • ชั้นที่สอง (Dermis) คือผิวชั้นต่อจากหนังกำพร้า เป็นศูนย์รวมของเส้นประสาทที่สำคัญต่างๆ มีความหนาถึง 90% ของโครงสร้างผิว

วิธีเลือก “เกราะกันผิว” ที่ดีที่สุดสำหรับลูก >>

วิธีเลือก “เกราะกันผิว” ที่ดีที่สุดสำหรับลูก

  1. เสื้อผ้า
  • แขนยาวและขายาวจะช่วยให้ผิวของลูกไม่สัมผัสกันแดดโดยตรง
  • เสื้อผ้าสีเข้มจะกันรังสียูวีได้ดีกว่าผ้าสีอ่อน
  • สีที่กันรังสียูวีได้ดีที่สุด คือสีกรมท่า
  • ยิ่งลายผ้าทอแน่นเท่าไหร่ ก็จะกันรังสียูวีได้มากยิ่งขึ้นเท่านั้น
  1. หมวก
  • ศีรษะของเด็กอ่อนที่ยังไม่มีผมขึ้นเต็ม ควรสวมหมวกให้ทุกครั้ง
  • เลือกหมวกมีปีกจะช่วยบังแสงให้ใบหน้าและดวงตาได้อีกด้วย
  1. ครีมกันแดด
  • ต้องกันได้ทั้งรังสี UVA, UVA1 และ UVB
  • ครีมแดดชนิด Physical จะมีโอกาสการแพ้น้อยกว่ากันแดดแบบ Chemical มาก โดยสังเกตจากส่วนผสมว่ามี Zinc Oxide เป็นส่วนประกอบหรือไม่
  • ถ้าจำเป็นต้องใช้แบบ Chemical เลือกกันแดดที่มีส่วนผสมของ Avobenzone หรือ Mexoryl จะปลอดภัยกว่า
  • เพื่อความแน่ใจ ลองป้ายครีมกันแดดที่ข้อพับของลูกประมาณ 30 นาที
  • อ่านฉลากครีมกันแดดก่อนว่าควรทาก่อนแดดกี่นาที หรือสามารถออกแดดได้ทันที
  • อย่าลืมทาครีมกันแดดซ้ำตามเวลาที่ระบุไว้ข้างขวด

คุณรู้ไหมว่า?

ครีมกันแดดแบบ Physical และ Chemical คืออะไร?

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • Physical: ใช้หลักการสะท้อนยูวีออกจากผิว มักมีสารสำคัญคือ Zinc Oxide และ Titanium Dioxide ทำหน้าที่ “เคลือบผิว” อยู่ด้านนอก สามารถปกป้องได้ทั้ง UVA และ UVB แต่มักเหนียวเหนอะหนะและขาววอก
  • Chemical: ใช้หลักการดูดซับยูวีแล้วจึงสลายออกเป็นความร้อน ผิวหนังต้อง “ซึมซับ” สารกันแดดก่อนถึงจะป้องกันยูวีได้ จึงมีโอกาสแพ้มากกว่า ส่วนมากมักป้องกันได้แต่ UVB ข้อดีคือ เนื้อครีมบางเบา ไม่ทิ้งคราบขาว

บทความโดย

Napatsakorn .R