จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคนรุ่นใหม่อยาก “ ย้ายประเทศ ” กับ 8 ประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลก

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลฯ กันอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา จากกระแสของการ “ย้ายประเทศ กันเถอะ” ซึ่งก็มีทั้งคนที่เห็นด้วย และต่อต้านต่างๆ นาๆ จนกลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ จนเกิดการตั้งกลุ่มปิดบน FB ่ที่ว่าด้วยเรื่องของการ ย้ายประเทศ ซึ่งก็มีผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศนั้นๆ มาแนะนำ กันอย่างเนืองแน่น 

อย่างไรก็ตาม การ ย้ายประเทศ ไม่ใช่เรื่องใหม่ในสังคมไทย เพราะตลอดเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา มีคนไทยที่ได้ไปขายแรงงาน และใช้ชีวิตในต่างประเทศจำนวนมาก การตัดสินใจเดินทางออกจากประเทศไทย เพื่อไปทำงาน เรียนต่อ ใช้ชีวิต หรือมีชีวิตคู่ ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องส่วนบุคคล และเราคงไม่สามารถเหนี่ยวรั้งให้ใครอยู่ในประเทศต่อไปได้ หากเขาคนนั้นมีความตั้งใจจะย้ายประเทศจริงๆ 

 

แต่หากเราลองมองให้ลึกลงไปมากกว่าเรื่องของปัจเจก เราจะพบว่ามี “ปัญหาทางสังคม” มากมายที่เป็นตัวกระตุ้นให้คนตัดสินใจทิ้งบ้านเกิดเมืองนอน ไปเสาะแสวงหา “ชีวิตที่ดีกว่า” ในต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่กำลังเผชิญหน้ากับความบีบคั้นทางสังคมที่รุนแรงในปัจจุบัน 

 

#ย้ายประเทศกันเถอะ จึงเป็นอีกแฮทแท็กร้อนบนโลกโซเชียลในขณะนี้

 

ผศ.ดร.กนกรัตน์ เลิศชูสกุล อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้เขียนหนังสือเรื่อง “สงครามเย็น (ใน) ระหว่างโบว์ขาว” ตั้งข้อสังเกตว่า ความต้องการย้ายประเทศของคนรุ่นใหม่กำลังสะท้อน 3 เรื่องด้วยกัน นั่นคือ การออกไปใช้ชีวิตในต่างประเทศเป็นไปได้จริง ความรู้สึกสิ้นหวังและมองไม่เห็นโอกาสว่าประเทศไทยจะปรับตัวได้ต่อโลกที่ยากขึ้น และปัญหาเฉพาะหน้าที่คนรุ่นใหม่ต้องเผชิญในช่วงหลายปีที่ผ่านมา 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

“ปัญหาเศรษฐกิจของโควิด-19 รอบที่ 3 ซึ่งครั้งนี้เป็นการบอกจริง ๆ ว่าความหวังของเศรษฐกิจไทยที่จะโงหัวขึ้น ที่คิดภาพกันไว้ มันเป็นไปไม่ได้ ความหวังที่ว่าหลายอย่างจะดีขึ้น หรือรัฐบาลจะทำได้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นหลังโควิด-19 แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยในช่วง 1-2 ปีนี้ แล้วยังซ้ำเติมด้วยอีก 2 เรื่อง ก็คือมาตรการแก้ปัญหาโควิด-19 และเรื่องวัคซีน เหล่านี้คือปัจจัยเฉพาะหน้าที่ทำให้เขาตกใจมากว่าไม่มีความหวังแล้ว” ผศ.ดร.กนกรัตน์กล่าว

สอดคล้องกับอาจารย์ติณณภพจ์ สินสมบูรณ์ทอง อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่มองว่าปัจจัยหลักที่ทำให้คนรุ่นใหม่รู้สึกสิ้นหวังและอยากย้ายออกจากประเทศคือ ระดับเสรีภาพของสังคมไทย ปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำ และวัคซีนโควิด-19 

แม้ในแง่หนึ่ง การย้ายประเทศจะเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่คงจะดีไม่น้อยหากสังคมไทยจะตระหนักรู้ถึงปัญหารุนแรงที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า และหาทางรับมือกับสถานการณ์เหล่านั้นก่อนที่จะสายเกินไป

 

อย่างไรก็ตามจากกระแสดังกล่าว เรามาดูกันดีกว่าว่า มีประเทศไหนบนในโลกใบนี้ ที่น่าย้ายไปอยู่มากที่สุด กับ 8 ประเทศที่น่าย้ายไปอยู่มากที่สุดในโลก

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

แคนาดา 

แคนาดา

ประเทศแคนาดา เป็นประเทศที่มีประชากรประมาณ 37.6 ล้านคน มี GDP ประมาณ 15.9 ล้านล้านบาท หรือ เฉลี่ย 1.44 ล้านบาทต่อคน มีอุตสาหกรรมสำคัญ คือ อสังหาริมทรัพย์, ภาคการผลิต, เหมืองแร่โดยเฉพาะเหล็ก, การเงิน และประกัน และภาคก่อสร้าง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ข้อมูลสำคัญ ที่ต้องรู้หากจะย้ายไปอยู่ที่แคนาดา

  • ค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ 45,458 บาทต่อเดือน (มากกว่าไทย 5.6 เท่า)
  • ค่าแรงเฉลี่ย 84,778 บาทต่อเดือน (มากกว่าไทย 4.4 เท่า)
  • มีค่าครองชีพ 56,885 บาทต่อเดือน (มากกว่าไทยเพียง 2.2 เท่า)
  • ส่วนการจ่ายภาษี แคนาดามีอัตราภาษีบุคคลธรรมดาของเท่ากับ 19 – 44.5% และภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อยู่ที่ 5 – 15%

 

ญี่ปุ่น 

ญี่ปุ่น

ประเทศญี่ปุ่น เป็นประทศที่มีประชากรประมาณ 126 ล้านคน มี GDP ประมาณ 158.5 ล้านล้านบาท หรือเฉลี่ย 1.25 ล้านบาทต่อคน มีอุตสาหกรรมสำคัญ คือ ภาคการผลิต, ค้าปลีกค้าส่ง, อสังหาริมทรัพย์, การวิจัยและที่ปรึกษา, สาธารณสุข และก่อสร้าง

 

ข้อมูลสำคัญที่เราต้องรู้ถ้าจะไปอยู่ที่ญี่ปุ่น

  • ค่าแรงขั้นต่ำ 39,187 บาทต่อเดือน (มากกว่าไทย 4.8 เท่า)
  • ค่าแรงเฉลี่ย 85,608 บาทต่อเดือน (มากกว่าไทย 4.4 เท่า)
  • มีค่าครองชีพ 51,005 บาทต่อเดือน (มากกว่าไทยเพียง 2 เท่า)
  • สำหรับการจ่ายภาษี ญี่ปุ่นมีอัตราภาษีบุคคลธรรมดาเท่ากับ 15.1 – 55.9% และภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อยู่ที่ 8 – 10%

 

เยอรมนี

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เยอรมนี

ประเทศเยอรมนี เป็นประเทศที่มีประชากรประมาณ 86.1 ล้านคน มี GDP ประมาณ 120.4 ล้านล้านบาท หรือเฉลี่ย 1.45 ล้านบาทต่อคน มีอุตสาหกรรมสำคัญ คือ ภาคการผลิต, ภาคพลังงาน, ภาคก่อสร้าง, ภาคการค้า และการขนส่ง1.45

 

ข้อมูลสำคัญที่เราต้องรู้ถ้าจะไปอยู่ที่เยอรมนี

  • ค่าแรงขั้นต่ำ 54,382 บาทต่อเดือน (มากกว่าไทย 6.7 เท่า)
  • ค่าแรงเฉลี่ย 91306.14 บาทต่อเดือน (มากกว่าไทย 4.7 เท่า)
  • ค่าครองชีพ 49,448 บาทต่อเดือน (มากกว่าไทยเพียง 1.9 เท่า)
  • สำหรับการจ่ายภาษี เยอรมันมีอัตราภาษีบุคคลธรรมดาเท่ากับ 14 – 47.2% และภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อยู่ที่ 19%

 

สวิตเซอร์แลนด์

สวิตเซอร์แลนด์

ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นประเทศที่มีประชากรประมาณ 8.57 ล้านคน มี GDP ประมาณ 21.9 ล้านล้านบาท หรือเฉลี่ย 2.5 ล้านบาทต่อคน มีอุตสาหกรรมสำคัญคือค้าปลีกค้าส่ง, ภาคราชการ, อสังหาริมทรัพย์, สาธารณสุข, ภาคการผลิต, การเงินและประกัน, ภาคก่อสร้าง

 

ข้อมูลสำคัญที่เราต้องรู้ถ้าจะไปอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์

  • ค่าแรงขั้นต่ำ 136,493 บาทต่อเดือน (มากกว่าไทย 16.7 เท่า)
  • ค่าแรงเฉลี่ย 197,633 บาทต่อเดือน (มากกว่าไทย 10.2 เท่า)
  • ค่าครองชีพ 89,471 บาทต่อเดือน (มากกว่าไทยเพียง 3.4 เท่า)
  • ส่วนการจ่ายภาษี สวิตเซอร์แลนด์มีอัตราภาษีบุคคลธรรมดาเท่ากับ 0 – 48.7% และภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อยู่ที่ 7.7%

 

ออสเตรเลีย

ออสเตรเลีย

ประเทศออสเตรเลีย เป็นประเทศที่มีประชากรประมาณ 25.4 ล้านคน มี GDP ประมาณ 43.7 ล้านล้านบาท หรือเฉลี่ย 1.72 ล้านบาทต่อคน มีอุตสาหกรรมสำคัญคือเหมืองแร่, การเงิน และประกัน, ภาคก่อสร้าง, สาธารณสุข, การวิจัย และที่ปรึกษา, ภาคการผลิต, ภาคการศึกษา และฝึกอบรม, ภาคขนส่ง และการค้าปลีกค้าส่ง

 

ข้อมูลสำคัญที่เราต้องรู้ถ้าจะไปอยู่ที่ออสเตรเลีย

  • ค่าแรงขั้นต่ำ 69,638 บาทต่อเดือน (มากกว่าไทย 8.5 เท่า)
  • ค่าแรงเฉลี่ย 116,017 บาทต่อเดือน (มากกว่าไทย 6 เท่า)
  • ค่าครองชีพ 62,263 บาทต่อเดือน (มากกว่าไทยเพียง 2.4 เท่า)
  • สำหรับการจ่ายภาษี ออสเตรเลียมีอัตราภาษีบุคคลธรรมดาเท่ากับ 0 – 45% และภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อยู่ที่ 10%

 

สหรัฐอเมริกา 

สหรัฐอเมริกา

ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นประเทศที่มีประชากรประมาณ 328 ล้านคน มี GDP ประมาณ 667.7 ล้านล้านบาท หรือเฉลี่ย 2.03 ล้านบาทต่อคน มีอุตสาหกรรมสำคัญ คือ ภาคกรผลิต, อสังหาริมทรัพย์, การวิจัยและที่ปรึกษา, ภาคราชการ, การเงินและประกัน, สาธารณสุข, ค้าปลีกค้าส่ง, ภาคการศึกษาและฝึกอบรม

 

ข้อมูลสำคัญที่เราต้องรู้ถ้าจะไปอยู่ที่ออสเตรเลีย

  • ค่าแรงขั้นต่ำ 39,218 บาทต่อเดือน (มากกว่าไทย 4.8 เท่า)
  • ค่าแรงเฉลี่ย 110,619.13 บาทต่อเดือน (มากกว่าไทย 5.7 เท่า)
  • มีค่าครองชีพ 62,895 บาทต่อเดือน (มากกว่าไทยเพียง 2.4 เท่า)
  • สำหรับการจ่ายภาษี สหรัฐอเมริกมีอัตราภาษีบุคคลธรรมดาเท่ากับ 10 – 51.6% และภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อยู่ที่ 11.7%

 

นิวซีแลนด์

นิวซีแลนด์

ประเทศนิวซีแลนด์ เป็นประเทศที่มีประชากรประมาณ 4.92 ล้านคน มี GDP ประมาณ 6.5 ล้านล้านบาท หรือเฉลี่ย 1.31 ล้านบาทต่อคน มีอุตสาหกรรมสำคัญคือ การวิจัย และที่ปรึกษา, อสังหาริมทรัพย์, ภาคก่อสร้าง, สาธารณสุข, การเงิน และประกัน, ค้าปลีกค้าส่ง และภาคขนส่ง

 

ข้อมูลสำคัญที่เราต้องรู้ถ้าจะไปอยู่ที่นิวซีแลนด์

  • ค่าแรงขั้นต่ำ 63,055 บาทต่อเดือน (มากกว่าไทย 7.7 เท่า)
  • ค่าแรงเฉลี่ย 90,204 บาทต่อเดือน (มากกว่าไทย 4.7 เท่า)
  • ค่าครองชีพ 57,521 บาทต่อเดือน (มากกว่าไทยเพียง 2.2 เท่า)
  • สำหรับการจ่ายภาษีมี นิวซีแลนด์อัตราภาษีบุคคลธรรมดา 10.5 – 33% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 15%

 

อังกฤษ

อังกฤษ

ประเทศอังกฤษ เป็นประทศที่มีประชากรประมาณ 66.8 ล้านคน มี GDP ประมาณ 88.3 ล้านล้านบาท หรือเฉลี่ย 1.32 ล้านบาทต่อคน มีอุตสาหกรรมสำคัญคือภาคราชการ, สาธารณสุข, การศึกษา, ภาคขนส่ง, โรงแรมและร้านอาหาร, ภาคการผลิต,อสังหาริมทรัพย์

 

ข้อมูลสำคัญที่เราต้องรู้ถ้าจะไปอยู่ที่อังกฤษ

  • ค่าแรงขั้นต่ำ 54,163 บาทต่อเดือน (มากกว่าไทย 6.6 เท่า)
  • ค่าแรงเฉลี่ย 84,395 บาทต่อเดือน (มากกว่าไทย 4.4 เท่า)
  • ค่าครองชีพ 54,781 บาทต่อเดือน (มากกว่าไทยเพียง 2.1 เท่า)
  • สำหรับการจ่ายภาษี อังกฤษมีอัตราภาษีบุคคลธรรมดาเท่ากับ 0 – 47% และภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อยู่ที่ 20%

ที่มา : (1) (2)

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ :

ย้ายประเทศกันไหม ! สิทธิแม่และเด็กในต่างแดน มีอะไรบ้าง ประเทศไหนน่าสนใจ

ชวนสาวๆ ย้ายประเทศ!!! สาวอิตาลีอาจมีเฮ ได้หยุดเดือนละ 3 เพราะปวดท้อง ปจด.

7 ประเทศน่าอยู่ ย้ายไปประเทศไหนดี และมีข้อดีต่างกันอย่างไร

บทความโดย

sippanutpick