อุทาหรณ์ เครื่องเล่นชำรุดในโรงเรียนคร่าชีวิตเด็ก 3 ขวบ

เครื่องเล่นชำรุดในโรงเรียนคร่าชีวิตเด็ก ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ล่าสุด เกิดขึ้นกับเด็กวัยเพียง 3 ขวบ ที่โรงเรียนในพัทลุง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เครื่องเล่นชำรุดในโรงเรียนคร่าชีวิตเด็ก อีกแล้ว!

ทุก ๆ ปี เรามักจะเห็นข่าว เครื่องเล่นชำรุดในโรงเรียนคร่าชีวิตเด็ก ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และล่าสุด ก็เกิดเหตุน่าเศร้าอีกครั้ง เมื่อเด็กชายวัยเพียง 3 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล 1 ออกไปเล่นเครื่องเล่นเด็กตรงใต้ต้นมะขาม บริเวณสนามเด็กเล่นของโรงเรียนช่วงพักเที่ยง แล้วถูกเชือกไนล่อนพันคอ จากตอนแรกที่ขาดอากาศจนหมดสติ ตอนนี้น้องเสียชีวิตแล้วค่ะ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องเล่นดังกล่าวชำรุดเสียหายมานานแล้ว โดยเหลือเพียงเชือกไนล่อนที่ผูกติดไว้กับต้นมะขาม แต่ก็ไม่มีใครเอาเชือกออก จนน้องวัย 3 ขวบ ไปห้อยโหนเล่นแล้วเชือกเกิดพันคอจนขาดอากาศหายใจ

ด้านเพื่อนนักเรียนบอกว่า เชือกไนล่อนนั้นผูกไว้ให้เด็กเล่นลูกล้อ แต่ตอนนี้ไม่เหลือล้อแล้ว มีเพียงเชือกไนล่อนที่ผูกติดไว้กับต้นไม้ เมื่อน้องเข้าไปเล่นเชือกเกิดพันคอ ตอนนั้นเพื่อนวิ่งไปแจ้งคุณครู แต่ก็ไม่ทันกาลเสียแล้ว

สำหรับญาติของน้องวัย 3 ขวบ ก็แสดงความไม่พอใจที่ครูไม่รีบนำน้องส่งโรงพยาบาลทันทีที่เกิดเรื่อง ผู้สื่อข่าวบอกเพิ่มเติมว่า พอเกิดเรื่องขึ้น พ่อของเด็กต้องมานวด มาปั๊มหัวใจน้อง พอน้องฟื้นลืมตาขึ้นมาชั่วขณะหนึ่ง ก็มีการร้องขอให้ครูที่่มีรถยนต์นำตัวน้องส่งโรงพยาบาล แต่ไม่มีใครไปส่ง ญาติต้องไปตามรถกระบะเพื่อไปส่งน้องที่โรงพยาบาล แต่ไม่ทัน คุณหมอบอกว่า ถ้าน้องมาถึงโรงพยาบาลเร็วกว่านี้น้องน่าจะรอด

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เหตุการณ์น่าเศร้าอย่างนี้ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ทางทีมงานดิเอเชี่ยนพาเร้นท์ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวน้องที่เสียชีวิต และได้แต่หวังว่า เราจะไม่ต้องมาเจอข่าวเครื่องเล่นชำรุดในโรงเรียนคร่าชีวิตเด็กอีก

ที่มา : morning-news.bectero.com

เตือนภัยพ่อแม่ กับเครื่องเล่นเด้งดึ๋ง

ของเล่นสุดเสี่ยง 9 ประเภท ที่พ่อแม่ต้องระวังก่อนให้ลูกเล่น

พ่อช็อค! เครื่องเล่นชำรุดตกกระแทกพื้น ลูกสาวเจ็บสาหัสสมองบวม (มีคลิป)

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

theAsianparent Editorial Team