คนเราใช้สมองไม่ถึง 10% จริงหรือ? แพทย์แนะ วิธีกระตุ้นสมอง ตั้งแต่แรกเกิด-3 ขวบ!!

หลายคนเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “เราใช้สมองแค่ 10%”!! ซึ่งคำพูดนี้ยังไม่มีผลทางวิทยาศาสตร์มารองรับ แต่หากจะพูดตามหลักการแล้ว แม้ว่าเซลล์ประสาทในสมองแต่ละส่วนนั้นไม่ได้ทำงานพร้อมๆ กันในทุกเวลา แต่การเชื่อมโยงเซลล์ประสาทเกิดขึ้นตลอดเวลาและทำให้สมองของเราทำงานได้อย่างซับซ้อน[1] สมองเป็นอวัยวะที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วมาก จึงจำเป็นต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง ซึ่งไม่เพียงแต่อาหารที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเท่านั้น ยังต้องอาศัยปัจจัยต่างๆ จากการเลี้ยงดู และการกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อม อาจกล่าวได้ว่าขบวนการเหล่านี้เกิดขึ้นตั้งแต่เป็นทารกอยู่ในครรภ์มารดาจนกระทั่งถึงประมาณ 3 ขวบปีแรก ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาสำคัญ หากเราไม่สามารถส่งเสริมพัฒนาการในช่วงนี้ได้แล้ว อาจส่งผลให้เกิดปัญหาในพัฒนาการด้านการเรียนรู้ สติปัญญา จิตใจ อารมณ์ สังคม และพฤติกรรมต่างๆ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

รศ. นพ.พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรม รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช เปิดเผยว่า “ความฉลาดของทารกมีปัจจัยเกี่ยวข้องอยู่ 2 ปัจจัยหลักคือ โภชนาการ และการเลี้ยงดู

ในช่วง 3 ขวบปีแรกที่สมองมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว หากสมองได้รับสารอาหารที่จำเป็นและพอเพียง สมองของเด็กจะมีการแตกแขนง เชื่อมโยงเครือข่ายการทำงานตลอดเวลา ล่าสุดมีการเปิดเผยทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับสุดยอดสารอาหารสมองตัวใหม่ที่พบในน้ำนมแม่ นั่นคือ MFGM (Milk Fat Globule Membrane) เมื่อกรดไขมันทุกชนิดรวมทั้งดีเอชเอ และเออาร์เอเหล่านี้ถูกผลิตออกมาจากต่อมผลิตน้ำนม จะถูกห่อหุ้มด้วยเยื่อบางๆ นี้ ที่อุดมไปด้วยโปรตีนและไขมันกว่า 150 ชนิด[2] ทำหน้าที่ช่วยสร้างปลอกไขมันหุ้มเส้นใยสมอง (Myelin Sheath) เพิ่มประสิทธิภาพการส่งสัญญาณประสาท และยังช่วยในกระบวนการเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมอง ยิ่งเซลล์สมองมีการเชื่อมต่อมากขึ้นและเร็วขึ้นเท่าไร การพัฒนาสมองของเด็กก็จะเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ การค้นพบล่าสุดของสารอาหารสมองอย่าง MFGM ในนมแม่ จึงเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องสนใจและให้ความสำคัญ เพราะถ้าลูกได้สารอาหารสำคัญครบถ้วนในการพัฒนาสมองในช่วงที่สำคัญอย่างมากนี้ สมองของลูกจะเติบโตและทำงานได้เต็มที่ทั้งระบบ

เมื่อสมองทำงานได้ดี เด็กมีสมาธิจดจำ ประมวลข้อมูลต่างๆได้ดี ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสู่การพัฒนาที่ดีในแง่ทัศนคติและพฤติกรรมของเด็กในอนาคต เราต้องยอมรับว่า ในสังคมปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เด็กที่ทั้งคิดเก่ง และคิดดี มีความก้าวล้ำทั้งความคิดและอารมณ์จะปรับตัวตามสภาพแวดล้อมได้ดี โดยมีคุณพ่อคุณแม่สนับสนุนอย่างเหมาะสมทั้งด้านโภชนาการและการเลี้ยงดู  พ่อแม่ควรให้ลูกเข้าถึงเทคโนโลยีให้ช้าที่สุดเท่าที่ทำได้ ฉะนั้นเด็กต่ำกว่า 2 ขวบ ไม่ควรให้ดูโทรทัศน์หรือไอแพด เพราะจะกีดขวางพัฒนาการทุกๆ ด้าน เราควรตั้งคำถามปลายเปิดเพื่อฝึกการคิดวิเคราะห์ เด็กจะสามารถคิดและกลั่นกรองที่มาที่ไปของสิ่งรอบตัวได้อย่างมีวิจารณญาณ การเปิดโอกาสให้ลูกได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ช่วยเสริมความคิดสร้างสรรค์ ที่สามารถต่อยอดความคิดใหม่ๆ ด้วยการเชื่อมโยงจากประสบการณ์เข้ากับจินตนาการ การปลูกฝังเรื่องการร่วมมือ แบ่งปัน ช่วยเหลือ เพื่อสร้างพื้นฐานความฉลาดทางอารมณ์และสังคมที่ดี เป็นต้น ที่สำคัญที่สุดคุณพ่อคุณแม่ต้องปฏิบัติตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดี จะช่วยให้เด็กประสบความสำเร็จในชีวิต และก้าวไปได้ไกลกว่าในโลกอนาคต”

ล่าสุด ศาสตราจารย์ เจฟฟรีย์ เคลกฮอร์น ผู้อำนวยการสถาบัน Institute of Health & Biomedical Innovation for Child Health Research Centre of Queensland University of Technology ประเทศออสเตรเลีย ได้เปิดเผยว่า จากการศึกษาในห้องปฏิบัติการพบว่า เมื่อ MFGM ทำงานร่วมกับ DHA จะช่วยเสริมการเชื่อมต่อเซลล์สมองเพิ่มขึ้น[3]  โดยงานวิจัยชี้ว่าทารกที่ทานนมที่มี MFGM และ DHA จะมีพัฒนาการสมองและสติปัญญาใกล้เคียงกับทารกที่ดื่มนมแม่ ดีกว่าทารกที่ดื่มนมที่เพิ่มดีเอชเอเพียงอย่างเดียวถึง 4 จุด*[4] และยังช่วยพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์อีกด้วย เช่นมีสมาธิจดจ่อมากขึ้น ไม่ก้าวร้าว และมีอารมณ์ดี ไม่ห่วงกังวลกับการเข้าสังคม[5] หลากหลายผู้เชี่ยวชาญระดับโลกได้ยอมรับและตื่นตัวกับการเติม MFGM ในผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับทารกและเด็ก

ด้าน รศ.นพ.สรายุทธ สุภาพรรณชาติ หัวหน้าภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า “สมองของเด็กพัฒนาสูงสุดในช่วงตั้งครรภ์ถึง 3 ขวบปีแรก เรียกได้ว่าเป็นโอกาสทองที่มีความสำคัญมากต่อการพัฒนาทางสมองและพัฒนาการในอนาคต ซึ่งเทคโนโลยีในปัจจุบันเอื้อให้สามารถสกัด MFGM เติมในผลิตภัณฑ์นมผงสำหรับเด็กได้ ถือเป็นความก้าวหน้าอีกระดับหนึ่งที่ทำให้ผลิตภัณฑ์นมผงมีความใกล้เคียงกับนมแม่ยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่น่าตื่นเต้นมาก หากคุณแม่มีความจำเป็นที่ไม่สามารถให้นมแม่ได้ เราควรให้นมผสมที่มีคุณภาพดีที่จะช่วยพัฒนาสมองและพัฒนาการ”

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ข้อมูลอ้างอิง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

[1] www.vchakarn.com

[2]Liao, Y. et al. J. Proteome Res., 2011, 10 (8), pp 3530–3541.

 

*Based on cognitive scores in infants (Timby N et al. 2014) and behavior regulation in children (Veereman-Wauters G et al. 2012).

[3] จากการศึกษาในห้องปฏิบัติการ (in vitro) ที่ 21 วัน โดยใช้องค์ประกอบที่มีใน MFGM (NeuroProof report for Mead Johnson Nutrition).

[4] Timby N, Domellof E, Hernell O, Lonnerdal B, Magnus Domellof M. Neurodevelopment, nutrition, and growth until 12 mo of age in infants fed a low-energy, low-protein formula supplemented with bovine milk fat globule membranes: a randomized controlled trial. Am J Clin Nutr. 2014;99:860-868.

[5] Veereman-Wauters  G, Staelens S, Rombaut R, Dewettinck K, Deboutte D, Brummer R, Boone M, Ruyet P. Milk fat globule membrane (INPULSE) enriched formula milk decreases febrile episodes and may improve behavioral regulation in young children. Nutrition. 2012;28:749-752.

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

theAsianparent Editorial Team