ฉันกลายเป็น “คุณแม่มือใหม่” มาได้ 5 เดือนแล้วนะ เชื่อไหมหลายเดือนที่ผ่านมา ฉันออกเดินทางเที่ยวข้ามทวีป กระเตงเจ้าตัวเล็กเที่ยว 4 เมือง 2 ประเทศ มันไม่ใช่เพียงเป็นประสบการณ์ยิ่งใหญ่ และท้าทายเท่านั้น การเดินทางนี้ สอนให้มนุษย์แม่อย่างฉันรู้จักจับจ่ายใช้เงินอย่างคุ้มค่ามากขึ้น และขอคอนเฟิร์มเลยว่า เลือกรถเข็นเด็ก เจ๋งๆ ไว้สักคัน มันช่วยให้ทริปของเรา "พ่อแม่ลูก" ราบรื่น และคล่องตัวอย่างไม่น่าเชื่อ
บอกไว้ก่อนเดี๋ยวจะหาว่ามนุษย์แม่ไม่เตือน... การ เลือกรถเข็นเด็ก สักคัน มันจะคิดแล้ว คิดอีก ตัดสินใจยากไม่ต่างจากซื้อรถยนต์สักคันเลยล่ะ เพราะอะไร? เพราะว่ามีตัวเลือกเพียบเลยยังไงล่ะ!
ไม่ว่าจะเป็นแบบสามล้อ สี่ล้อ คันใหญ่ ดูหรูหราหน่อย หรือหากอยากจะจำกัดงบลงมาหน่อย เป็นรถเข็นเด็กแบบ small zippy เหมือนที่ฉันกับคุณสามีเลือกใช้ หรือจะเป็นรถเข็นเด็ก ที่ปรับแต่งชิ้นส่วนได้ตามใจชอบ เปลี่ยนไซส์ได้จนกระทั่งลูกโต ก็มีนะขอบอก!
เอาจริง ๆ มันก็เป็นเรื่องปกติแหละ ที่คนเป็นพ่อแม่ย่อมคิดโน่นนี่นั่น กว่าจะได้รถเข็นเด็กสมรรถนะยอดเยี่ยมสักคันให้ลูกคนแรก มีคำถาม ข้อสงสัยเยอะแยะไปหมด ซึ่งการตัดสินใจที่ถูกต้องนั้น คุณจะต้องประเมินความต้องการของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก เอางี้...ในฐานะเป็นมนุษย์แม่ที่มีความเยอะอยู่ในตัว ขอแบ่งปันประสบการณ์ตรง เกี่ยวกับการหาซื้อรถเข็นเด็กกันสักหน่อย
9 ข้อต้องแม่น! ก่อนตัดสินใจเลือกรถเข็นเด็ก
1. น้ำหนัก
แม่ ๆ อย่าเพิ่งตกใจ ถ้าเพิ่งรู้ว่า รถเข็นเด็กที่ขายกันในท้องตลาดส่วนใหญ่น้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัม โอ้โห! นี่ยังไม่รวมน้ำหนักของเจ้าตัวเล็ก ที่จะต้องเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ กลายเป็นเจ้าตัวใหญ่ในอนาคตอีกนะ แค่คิดก็กล้ามขึ้นแล้วเนี่ย
น้ำหนักของรถเข็น จึงเป็นสิ่งแรกที่แม่ ๆ ต้องเช็กให้ดี สำหรับคุณแม่คนนี้ บอกเลยว่าปลาบปลื้ม Bugaboo Bee5 มาก เป็นรุ่นที่ผลิตขึ้นมาให้มีน้ำหนักแค่ 9 กิโลกรัม ตอบโจทย์คุณแม่ไซส์มินิ เพราะมันทำให้มีพลังเหลือเฟือ ที่จะแบกกระเป๋าสัมภาระอื่น ๆ ของเบบี๋ได้อีก
2. พับเก็บได้ง่าย
จริง ๆ แล้ว วิธีการพับเก็บรถเข็นไม่ได้ซับซ้อน เหมือนผลิตอาวุธนิวเคลียร์แต่ประการใด แต่มันก็ต้องมี “สติ” นิดนึง เพื่อจะได้พับให้ถูกขั้นตอน ตอนพนักงานสาธิตให้ดูเมื่อสักครู่นี้ มันช่างรวดเร็ว เรียบร้อย เหมือนดีดนิ้วปุ๊บ เก็บปั๊บฉบับออโต้ แต่พอกลับมาถึงบ้านนี่แหละ หมุนแล้วหมุนอีก ดูคู่มือก็แล้ว ดูเผิน ๆ เหมือนกำลังโดนทดสอบไอคิว ยังไงอย่างงั้น ใครก็ได้ช่วยมนุษย์แม่ที!
ดังนั้น ก่อนจะพาเจ้าตัวเล็กไปลั้นลานอกบ้าน ต้องแน่ใจว่า สุดยอดรถเข็นของเรา สามารถพับเก็บได้ง่าย รวดเร็ว และกางออกพร้อมใช้งานได้ทันใจ อย่าลืมซ้อมพับเก็บบ่อย ซ้อมกางบ่อย ๆ จะได้ชินนะคุณแม่
3. ปรับเอนเบาะได้
อย่าลืมนะว่า ทารกแรกเกิดยังไม่สามารถชันคอตั้งได้ด้วยตัวเอง รถเข็นของเบบี๋ จึงต้องมีเบาะที่สามารถปรับระดับให้เอนตัวนอน และปรับเอนได้หลายระดับ และต้องมีความปลอดภัย มั่นคง ขณะเคลื่อนที่ด้วย แต่ก็นั่นแหละ ลูกโตเร็ว เหมือนโกหก พอลูกวิ่งได้แล้ว รถเข็นก็จะหมดความหมาย แม่ ๆ เลยต้องลงทุนครั้งเดียวให้คุ้มค่า เลือกที่มีความทนทาน แข็งแรงพอที่ลูกจะใช้งานได้ตั้งแต่แรกเกิด ไปจนถึงวัยเตาะแตะเลยยิ่งดี
4. หมุนเบาะได้
รถเข็นเด็กหลายยี่ห้อ สามารถปรับเบาะกลับหลังหันได้ นั่นหมายความว่า เจ้าตัวเล็กสามารถส่งสายตาใสซื่อ เรียกหาหม่ามี๊ได้ตลอดเวลา ใครว่าไม่สำคัญ เพราะทารกต้องการความอบอุ่น ความสนใจ การตอบสนองที่รวดเร็ว ถ้าเขาเห็นแม่อยู่ในสายตา ก็จะรู้สึกปลอดภัย ไม่ร้องงอแงบ่อย ๆ แม่เองก็มั่นใจว่า ลูกยังไม่หายไปไหน สามารถตอบสนองอย่างรวดเร็ว สื่อสาร อ้อแอ้กับลูกน้อยได้ตลอด พอลูกเริ่มมีพัฒนาการ เริ่มสนใจสิ่งต่าง ๆ รอบตัวมากขึ้น ก็ค่อยปรับหันกลับไปด้านหน้า แล้วเผชิญโลกกว้างไปพร้อม ๆ กัน เอ้า ลุยเลยลูก!
5. งบประมาณ
ไม่มีพ่อแม่คนไหน กล้าเอาชีวิตลูกไปเสี่ยงกับรถเข็นที่ไม่มีคุณภาพอย่างแน่นอน แต่ก็นั่นแหละ เรื่องราคาก็สำคัญ การที่เราได้ของถูก และดี มีเงินเหลือสำหรับซื้อของใช้จำเป็นอื่น ๆ ให้แก้วตาดวงใจ มันก็น่าจะดีกว่า ไหนจะผ้ากันฝน หลังคากันแดด ของเล่นกระจุกกระจิกอีกล่ะ เมื่อเลือกรถเข็นเด็กในฝันได้แล้ว อย่าเพิ่งรีบควักกระเป๋า ลองต่อรองราคากับทางร้าน หรือค้นหาสินค้าแบบเดียวกันจากเว็บขายของออนไลน์ แล้วจะเห็นโปรโมชั่นล่อตาล่อใจอีกเพียบ เชื่อแม่ แม่ลองแล้ว!
6. เบาะพิเศษ
ยินดีด้วยคุณได้ลูกแฝด! หรือถ้ามีลูก 2 คน พี่ น้อง วัยไล่เลี่ยกัน ถ้านั่งด้วยกันได้ ไประหว่างทางก็คงบันเทิงไม่น้อย เคสนี้ถือเป็นตัวเลือกเสริมสำหรับบ้านไหนที่วางแผนว่าจะมีลูกหัวปีท้ายปี บอกเลยว่าซื้อคันเดียวใช้งานคุ้มสุด ๆ หรือลองดูรุ่นที่ออกแบบที่วางเท้าเป็นสเกตบอร์ดก็เจ๋ง หรือที่นั่งใหญ่ ๆ แบบ extra seat ก็น่าสนใจนะ
7. ความคล่องตัว กันสั่น กันสะเทือน
ถ้าใช้ชีวิตในเมือง เดินทางบ่อย ๆ ต้องขึ้นรถไฟฟ้า ต่อแท็กซี่ นั่นอาจเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้คุณเลือกซื้อรถเข็น แบบพับเก็บได้ดี และมีความแข็งแรงทนทาน แต่อย่าลืมคิดถึงสถานที่ที่คุณอยากจะพาลูกน้อยไปเปิดหูเปิดตาด้วย รถเข็นเด็กเจ๋ง ๆ จะทำให้ลูกตื่นเต้น และมีจินตนาการมากขึ้น ในยามที่ต้องโลดแล่นไปบนเส้นทางที่ขรุขระ รถเข็นเด็กที่ดีควรมีระบบกันสะเทือน และล้ออันแข็งแกร่ง และแน่นอนว่า ถ้าหากคุณอาศัยอยู่ในเมือง รถเข็นเด็กต้องมีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย และพร้อมใช้งานได้ทุกรูปแบบ
8. ประเภทของล้อ
รถเข็นเด็กอาจมี 4 ล้อ หรือ 3 ล้อ ขึ้นอยู่กับความต้องการ และการใช้งาน แต่นอกเหนือจากจำนวนล้อแล้ว แนะนำให้เลือกประเภทของล้อด้วย รถเข็นเด็กล้อพลาสติก มีน้ำหนักเบา ราคาประหยัด แต่ถ้าได้ล้อยางหนึบ ๆ เหมือนล้อรถจักรยาน แล้วล่ะก็ ระบบขับเคลื่อนจะนุ่มขึ้น ยกกำลังสิบเลยทีเดียว แถมน้ำหนักเบาหวิว หรือถ้าเป็นคุณแม่สายเปย์ จะเลือกล้อโฟมแข็งราคาสูงขึ้นมาหน่อย ก็มาพร้อมความสะดวกสบายที่แตกต่าง อย่างกับเฟิร์สคลาสเลยแหละ
9. ปรับระดับความสูงได้
รถเข็นเด็กที่ดีต้องใช้ง่าย เหมาะกับทั้งคุณแม่และคุณพ่อ รถเข็นเด็กบางคัน มาพร้อมกับความสูงของตัวรถที่ปรับได้ จะช่วยให้ไม่ต้องเมื่อยหลัง เวลาก้มลงไปอุ้ม หรือวางลูกน้อย นอกจากนี้ ควรตรวจสอบให้ดีว่า รถเข็นเด็กคันนี้สะดวกต่อการขนย้าย ยกขึ้นยกลงในบ้านหลายชั้น หรืออาคารที่ไม่มีลิฟท์หรือไม่
สิ่งหนึ่งที่แม่ ๆ พึงตระหนักก็คือ การซื้อรถเข็นเด็กสักคัน ก็ถือเป็นการลงทุนในเรื่องความสะดวกสบายของคุณแม่ และความปลอดภัยของคุณลูกเช่นกัน ต้องชั่งใจให้ดีก่อน เปรียบเทียบข้อแตกต่าง เลือกลักษณะให้เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ราคาที่สมเหตุสมผล เพื่อให้หนูน้อยนั่งสบาย ปลอดภัย และสนุกกับการเดินทาง และคุณแม่ก็ไม่ต้องเสียใจ และเสียดายเงินในภายหลังด้วย
Source: babylist.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
เตือนภัย! ครอบครัวที่ชอบเอารถเข็นเด็กขึ้น-ลงบันไดเลื่อน!
รถเข็นเด็ก บักกาบู รุ่นบี 5 (Bugaboo Bee5) ไอเท็มสุดเจ๋งที่โดนใจคุณแม่ทั่วโลก
วิธีเลือก 3 อุปกรณ์เลี้ยงลูก ตัวช่วยแม่มือใหม่