ท้องแล้วร่างกายเปลี่ยนไปแค่ไหน

ท้องแล้วร่างกายเปลี่ยนไปแค่ไหน กันนะ อยากรู้ไหมว่าเเม่ท้องเเต่ละคน ต้องทนรับกับความเปลี่ยนเเปลงที่ยิ่งใหญ่เเบบนี้ถึง 9 เดือนทีเดียว

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ท้องแล้วร่างกายเปลี่ยนไปแค่ไหน

ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ ท้องแล้วร่างกายเปลี่ยนไปแค่ไหน การตั้งครรภ์สักครั้งนอกจากเเค่น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมา อวัยวะต่างๆ ในร่างกายล้วนมีความเปลี่ยนแปลงไปทั้งสิ้น

ระบบทางเดินหายใจ

  • ขณะที่ตั้งครรภ์ร่างกายของคุณเเม่จะต้องการออกซิเจนเพิ่มขึ้นทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเต้นเร็วขึ้น
  • ปริมาตรอากาศที่เข้าและออกจากปอดเพิ่มขึ้น
  • เกิดภาวะด่างจากระบบหายใจ เนื่องจากหายใจเร็วขึ้น อัตราหายใจเพิ่มขึ้น หายใจเเรงเเละลึกขึ้น
  • ความสามารถในการทำงานของร่างกายลดลง
  • ปริมาณอากาศที่หายใจเข้าออกลดลง
  • คุณเเม่ท้องบางคนอาจจะมีบางช่วงที่รู้สึกหายใจไม่ออกได้

ระบบหัวใจและหลอดเลือด

  • ขณะตั้งครรภ์ระบบหัวใจเเละหลอดเลือดจะมีการปรับการทำงานขึ้นใหม่
  • ปริมาณเลือดจะเพิ่มขึ้น เส้นเลือดต่างๆ ขยายตัว เกิดเเรงดันขึ้นที่มดลูก ทำให้เลือดไปหล่อเลี้ยงหัวใจได้ช้าลง
  • ปริมาตรเลือดส่งออกจากหัวใจต่อนาทีเพิ่มขึ้น
  • ชีพจรขณะพักสูงขึ้น
  • ความต้านทานของหลอดเลือดลดลง
  • ในไตรมาสที่สองความดันเลือดจะลดลง

ระบบทางเดินอาหาร

  • ขนาดของลูกในครรภ์จะไปเบียดอวัยวะภายในอย่างระบบทางเดินอาหารทำให้เกิดอาการต่างๆ
  • การเคลื่อนไหวของทางเดินอาหารลดลง มีการสร้างกรดต่างๆ เพิ่มขึ้น ทำให้อาจเกิดกรดไหลย้อน

ระบบต่อมไร้ท่อ

  • ฮอร์โมนเอสโทรเจนเเละโพรเจสทอโรนเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ 10 - 12 ทำให้เกิดการเปลี่ยนเเปลงขึ้นในร่างกาย
  • คุณแม่อาจมีอาการร้อนๆ หนาวๆ จากการเปลี่ยนเเปลงของฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้น มีการเปลี่ยนเเปลงอัตราการความต้องการเผาผลาญของร่างกายในชีวิตประจำวัน หรือ BMR
  • ร่างกายต้องการเเคลเซียมเพิ่มขึ้น
  • เมื่อใกล้คลอด ต่อมใต้สมองส่วนหลัง จะปล่อยฮอร์โมนออกซิโทซินเพื่อเตรียมพร้อมในการคลอดลูก
  • เมื่อคลอดลูกเเล้วร่างกายจะหลั่งโพรเเลกทินเพื่อกระตุ้นให้มีการสร้างน้ำนม

ระบบกล้ามเนื้อและกระดูก

  • ฮอร์โมนอย่างรีเลซินเเละโพรเจสทอโรนเพิ่มขึ้น ทำให้มีข้อต่อเเละเอ็นต่างๆ ยืดหยุ่นมากขึ้น
  • มดลูกขยายใหญ่ขึ้นทุกสัปดาห์ ร่างกายจึงปรับกระดูกเพื่อช่วยในการทรงตัว เเต่อาจทำให้คุณเเม่ปวดหลังได้
  • อุ้งเชิงกรานขยายเพื่อพร้อมรับมือในการคลอด
  • ร่างกายต้องการเเคลเซียมเพิ่มขึ้นเพื่อทดเเทนการดึงไปใช้ในการสร้างร่างกายของลูก

ผิวหนังเปลี่ยนเเปลง

  • ผิวอาจเเตกลายได้บริเวณที่มีการขยาย เช่น หน้าท้อง หน้าอก ทิ้งรอยเอาไว้ให้ดูต่างหน้า
  • ผิวอาจคล้ำขึ้น บริเวณรอบสะดือ ข้อพับอย่างรักเเร้ เเละใบหน้า(อาจมีฝ้าขึ้น)
  • ผิวนูนขึ้นคล้ายใยเเมงมุม เป็นเหตุมาจากการขยายเส้นเลือดฝอย จากการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนเอสโทรเจน

หน้าท้องเปลี่ยนเเปลง

  • หน้าท้องขยายใหญ่ขึ้นตามสัปดาห์เเละเดือนที่เพิ่มขึ้น

หน้าอกเปลี่ยนแปลง

  • หน้าอกขยายใหญ่ขึ้นเเละมีความอ่อนไหวมากขึ้น เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนเอสโทรเจนเเละโพรเจสทอโรน เเละเพื่อเตรียมพร้อมในการให้นมลูก
  • หัวนมยื่นออกมามากขึ้น
  • เมื่อเข้าสู่ไตรมาสที่ 3 อาจจะมีน้ำนมส่วนเเรกที่เรียกว่าโคลอสทรัมไหนออกมาก่อนคลอดลูกได้ ซึ่งจะมีลักษณะเป็นสีเหลือง

น้ำหนักเปลี่ยนเเปลง

  • ในสัปดาห์แรกถึงสัปดาห์ที่ 15 หรือไตรมาสเเรก น้ำหนักจะขึ้นมาประมาณ 1-1.5 กิโลกรัม
  • ในสัปดาห์ที่ 16 ถึงสัปดาห์ที่ 27 หรือไตรมาสสอง น้ำหนักจะขึ้นมาประมาณ 7.5 กิโลกรัม
  • ในสัปดาห์ที่ 28 ถึงสัปดาห์ที่ 40 หรือไตรมาสสาม น้ำหนักจะขึ้นมาประมาณ 12-17 กิโลกรัม

การเปลี่ยนเเปลงอื่นๆ

  • เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน อาจทำให้ผมเเละเล็บของคุณเเม่มีการเปลี่ยนเเปลง
  • ตะคริวสามารถเกิดได้บ่อยขึ้น จากน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น เเละปริมาณเเคลเซียมหรือเเมกนีเซียมที่ลดลง
  • ข้อเท้าบวมเนื่องจากปริมาณของของเหลวในร่างกายที่เพิ่มขึ้น
  • อุณหภูมิร่างกายเพิ่มขึ้นในไตรมาสเเระ เเละจะกลับมาเป็นปกติหลังจากสัปดาห์ที่ 16

ที่มา Healtline

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา