พ่อแม่ต้องรู้ การทำ CPR ช่วยชีวิตลูกได้
พ่อแม่ต้องรู้ การทำ CPR ช่วยชีวิตลูกได้ การปฐมพยาบาลเบื้องต้นนั้น นอกจากอาการบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ แล้ว เรื่องที่พ่อแม่ทุกคนควรจะต้องรู้ไว้คือ การทำ CPR นั่นเองค่ะ
CPR คือ ???
Cardiopulmonary resuscitation หรือ CPR เป็นการช่วยชีวิตคนที่ไม่หายใจหรือหัวใจหยุดเต้น ซึ่งเป็นการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนผู้ป่วยจะถึงมือเเพทย์นั้นเองค่ะ
โดยหลักการคือช่วยให้คนที่ไม่หายใจหรือหัวใจหยุดเต้น ให้มีการหายใจหรือหัวใจกลับมาเต้นอีกครั้งนึง เพื่อป้องกันเนื้อเยื่อได้รับอันตรายจากการขาดออกซิเจนอย่างถาวร ซึ่งสามารถทำได้โดยการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน ซึ่งได้แก่ การผายปอดและการนวดหัวใจภายนอก
เมื่อไหร่ที่ต้องทำ CPR
- สำลัก สิ่งแปลกปลอมเข้าหลอดลม เช่น ของเล่นชิ้นเล็ก ๆ เมล็ดถั่ว เป็นต้น
- สูดดมสารพิษ แก็สพิษ ควันพิษ
- ถูกไฟดูด
- จมน้ำ
- การบาดเจ็บที่ทรวงอก ทำให้ทางเดินหายใจได้รับอันตรายและเนื้อเยื่อได้รับบาดเจ็บ
- โรคระบบประสาท เช่น บาดทะยัก ไขสันหลังอักเสบ ทำให้กล้ามเนื้อหายใจเป็นอัมพาต
- แมลงสัตว์กัดต่อย เช่น ผึ้ง ต่อ แตน ต่อยบริเวณคอ หน้า ทำให้มีการบวมของเนื้อเยื่อของทางเดินหายใจและหลอดลมมีการหดเกร็ง
- ได้รับยากดศูนย์ควบคุมการหายใจ เช่น มอร์ฟีน ฝิ่น โคเคน บาร์บิทูเรต ฯลฯ
- โรคหัวใจ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดไปเลี้ยงอย่างเฉียบพลัน
- มีภาวะหายใจวายจากสาเหตุต่างๆ มีการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ
ทำ CPR โดยยึดหลัก ABC
B มาจาก Breathing คือการเป่าลมเข้าไปในปอด หรือที่เรียกว่าการผายปอด
C มาจาก Circulation คือการปั๊มหรือนวดหัวใจให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงยังสมองและส่วนต่างๆ ของร่างกาย
ขั้นตอนการทำ CPR
1.เรียก
เพื่อเด็กให้รู้สึกตัว หากไม่รู้สึกตัวให้คนอื่นช่วยโทรแจ้งศูนย์นเรนทรที่เบอร์ 1669
2.เปิดทางเดินหายใจให้โล่ง
โดยการเชยคางขึ้น มืออีกข้างกดหน้าผากเพื่อให้หัวแหงนไปด้านหลัง และตรวจดูว่ามีสิ่งแปลกปลอมรึเปล่า หากมีหันหัวเด็กตะแคงและล้วงเอาออกก่อน แล้วจึงเชยคางให้แหงนขึ้นอีกครั้ง
ในกรณีที่เด็กไม่หายใจ
- ถ้าเป็นเด็กเล็กต่ำกว่า 1 ขวบ ให้เป่าลมเข้าปากและจมูก ครั้งละ 1 วินาที ติดต่อกัน 2 ครั้ง
- ถ้าเป็นเด็กโตมากกว่า 1 ขวบ ใช้มือบีบจมูกแล้วให้เป่าลมเข้าปาก ครั้งละ 1 วินาที ติดต่อกัน 2 ครั้ง
- สังเกตด้วยว่าเวลาเป่าลมหน้าอกเด็กขยายขึ้นแสดงว่าเป่าลมเข้าปอด เเต่ถ้าเป่าเเล้วอกเด็กไม่ขยายอาจมีสิ่งอุดกั้นทางเดินหายใจอยู่ หรืออาจเชยคางไม่สูงพอ ให้เชยคางใหม่
3.คลำชีพจร
- ในเด็กเล็ก ใช้นิ้วหาชีพจรบริเวณต้นแขนหรือท้องแขนด้านในหรือบริเวณขาหนีบ
- ในเด็กโต ใช้นิ้วหาชีพจรบริเวณคอด้านข้าง
- หากไม่แน่ใจว่ามีชีพจร ให้รีบดำเนินการต่อไป
4.นวดหัวใจ
- เด็กเล็ก ให้ใช้นิ้ว 2 นิ้ว กดลงตรงกลางกระดูกหน้าอกเหนือลิ้นปี่ กดลงลึกประมาณ 1/3-1/2 ของความหนาหน้าอก ด้วยความเร็ว 100 ครั้งต่อนาที
- เด็กโต ให้ใช้ส้นมือ มือเดียวหรือสองมือก็ได้ กดลงตรงกลางกระดูกหน้าอกเหนือลิ้นปี่ กดลงลึกประมาณ 1/3-1/2 ของความหนาหน้าอก ด้วยความเร็ว 100 ครั้งต่อนาที
- หากมีคนช่วย 2 คน ให้ทำ 15 ครั้งตามด้วยการผายปอด 2 ครั้ง
- หากมีคนช่วยคนเดียว ให้ทำ 30 ครั้งตามด้วยการผายปอด 2 ครั้ง
- ทำต่อเนื่องอย่างน้อย 5 รอบ หรือประมาณ 2 นาที หากเด็กยังไม่หายใจ ให้ทำต่อไปจนกว่าความช่วยเหลือจะมา หรือไปถึงโรงพยาบาล
อันตรายถ้าทำ CPR ไม่ถูกวิธี
- พ่อแม่ควรมีการฝึกอบรมในการทำ CPR ก่อน เพื่อที่จะสามารถทำได้ถูกต้อง
- วางมือผิดตำแหน่ง ทำให้ซี่โครงหัก ทิ่มโดนอวัยวะสำคัญ เช่น ตับ ม้าม เกิดการตกเลือดถึงตายได้
- การกดด้วยอัตราเร็วเกินไป เบาไป ถอนแรงหลังกดไม่หมด ทำให้ปริมาณเลือดไปถึงอวัยวะต่างๆ ที่สำคัญได้น้อย ทำให้ขาดออกซิเจน
- การกดแรงและเร็วมากเกินไป ทำให้กระดูกหน้าอกกระดอนขึ้น ลงอย่างรวดเร็ว หัวใจช้ำเลือดหรือกระดูกหักได้
- การกดหน้าอกลึกเกินไป ทำให้หัวใจชอกช้ำได้
- การเปิดทางเดินหายใจไม่เต็มที่ เป่าลมมากเกินไป ทำให้ลมเข้ากระเพาะอาหาร เกิดท้องอืด อาเจียน ลมเข้าปอดไม่สะดวก ปอดขยายตัวไม่เต็มที่
- ถ้ามีอาการอาเจียนเกิดขึ้นก่อน หรือ ระหว่างการทำ CPR ต้องล้วงเอาเศษอาหารออกก่อน มิฉะนั้นจะเป็นสาเหตุของการอุดตันของทางเดินหายใจ
- การช่วยหายใจไม่ได้ผล เกิดการขาดออกซิเจน ถ้ามีอาการท้องอืดขึ้น ระหว่างการทำ CPR ให้จัดท่าเปิดทางเดินหายใจใหม่ และช่วยการหายใจด้วยปริมาณลมที่ไม่มากเกินไป
ที่มา ศูนย์การแพทย์สิริกิติ์ คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี American Heart Association และ วศิน แสงทองพิทักษ์
บทความที่น่าสนใจ
ลูกรอดเพราะ “คาร์ซีท” อุปกรณ์ช่วยชีวิต ไม่ใช่ของฟุ่มเฟือย
นาทีชีวิต ฮีโร่สาว CPR ปั๊มหัวใจ ผายปอด ช่วยเด็กชายจมน้ำให้ฟื้น