กระบวนการสร้างน้ำนม เริ่มต้นขึ้นในช่วงอายุครรภ์ประมาณ 16-22 สัปดาห์ ภายในร่างกายของคุณแม่จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมหัศจรรย์และซับซ้อนมาก โดยแบ่งเป็น 3 ช่วงด้วยกัน
ช่วงที่ 1 สร้างฐานกำลังการผลิต
ช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ ร่างกายจะกระตุ้นฮอร์โมน Estrogen, Progesterone, Prolactin, HPL และอื่นๆ ส่งผลให้เต้านมสร้าง “ท่อนม” ขึ้นมา และแตกแขนงส่วนปลายกลายเป็น “ต่อมน้ำนม” เมื่อเข้าสู่ไตรมาส 2 ฮอร์โมน HPL จะทำให้มีการสร้างน้ำนมขึ้นแต่ยังไม่มีน้ำนมไหลออกมานะคะ จนกระทั่งไตรมาส 3 ต่อมน้ำนมจะเพิ่มขึ้นอีกจนหน้าอกของคุณแม่ขยาย ร่างกายเริ่มผลิต Colostrum หรือหัวน้ำนม และเริ่มมีน้ำนมซึมออกมาบ้างเล็กน้อย
ช่วงที่ 2 น้ำนมมาเอง! หลังคลอดเบบี๋
หลังจากคลอดทารกแล้วราว 30-40 ชม. ฮอร์โมน Prolactin จะกระตุ้นให้เกิดการสร้างน้ำนม ต่อมน้ำนมทำงานอย่างขยันขันแข็ง สังเกตได้ว่าเต้านมจะตึงๆ มีเลือดไหลเวียนมากขึ้น ผ่านไป 2-3 วันร่างกายก็ยังผลิตน้ำนมและไหลออกมาเองแบบอัตโนมัติ
ช่วงที่ 3 ไหลหรือหยุด สั่งได้ตามใจลูก
น้ำนมของคุณแม่จะไม่ได้ถูกควบคุมด้วยฮอร์โมนเพียงอย่างเดียวแล้วนะคะ แต่จะไหลออกมาก็ต่อเมื่อได้รับการกระตุ้น ไม่ว่าจะเป็นการดูด การบีบด้วยมือ การปั๊มด้วยเครื่องปั๊มนม ซึ่งแม่ควรผลิตน้ำนมตุนไว้อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของลูก
แม้ว่ากระบวนการสร้างน้ำนมจะทำงานปกติดี แต่ก็มีคุณแม่จำนวนไม่น้อย ไม่สามารถให้นมลูกได้ตลอดเวลาที่ลูกต้องการ เนื่องจากติดปัญหาสุขภาพหรือจำเป็นต้องออกไปทำงานนอกบ้านทุกวัน จึงพยายามสรรหาอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ซึ่งนมที่ได้รับความนิยมมานานในหลายประเทศทั่วโลกก็คือ นมแพะ
นมแพะ คุณประโยชน์ที่เพียบพร้อมสำหรับลูกน้อย
มีการศึกษาพบว่าระบบการให้น้ำนมของแพะเป็นแบบอะโพไครน์¹ (Apocrine Secretion) ซึ่งเป็นแบบเดียวกับนมแม่ ทำให้ในน้ำนมของแพะมี Bioactive Components² สารอาหารตามธรรมชาติในปริมาณสูงอันประกอบไปด้วย นิวคลีโอไทด์ ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ทอรีน ช่วยพัฒนาเซลล์สมองและจอประสาทตาให้ทำงานประสานกันอย่างสมบูรณ์แบบ โพลีเอมีนส์ เพิ่มภูมิต้านทานต่อระบบทางเดินอาหาร และส่งเสริมระบบการย่อยอาหารให้สมบูรณ์ รวมถึงมี โกรทแฟคเตอร์ ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโต
ลูกน้อยจะฉลาดสมวัย จดจำได้ดีขึ้นเพราะได้รับสารอาหารสำคัญคือ กรดไขมัน โอเมก้า 3 โอเมก้า 6 และโอเมก้า 9 ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของ DHA ARA และวิตามินบี 12 ช่วยสร้างเครือข่ายใยประสาทให้เชื่อมต่อกันได้ดี ในนมแพะยังอุดมไปด้วยโปรตีน CPP (Casein Phosphopepetides) หรือโปรตีนนุ่ม ที่ย่อยและดูดซึมง่าย คุณสมบัติย่อยง่ายนี้เอง จึงลดลดอาการท้องอืดได้ โปรตีนชนิดนี้ยังช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก สังกะสี แมกนีเซียม โดยเฉพาะแคลเซียมกับฟอสฟอรัส ที่มีบทบาทสำคัญต่อการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง นอกจากนี้ยังเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายด้วย
รู้อย่างนี้แล้วก็สบายใจได้เลยนะคะ แม้จะลูกรักจะไม่ได้กินนมแม่ทุกช่วงเวลา แต่ก็ยังได้รับคุณค่าสารอาหารสูงเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการที่ดีทั้งทางร่างกายและสมอง ลูกจะเติบโตพร้อมเรียนรู้โลกกว้างอย่างมีความสุขในทุกๆ วัน
ข้อมูลอ้างอิง
¹Boutinaud M,et :133-47
²Silanikove N,et al. Small Rumin Res 2010;89:110-24