แม่วัยใส ใจสลาย ลูกน้อยวัย 5 เดือนป่วย เสียชีวิตปริศนา

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เช้าวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ทางรองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ลพบุรี ว่ามีเด็กเสียชีวิตภายในบ้านพัก ที่ อ.เมือง จ.ลพบุรี หลังถึงพื้นที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตเป็นทารกเพศหญิง อายุ 5 เดือน นอนเสียชีวิตอยู่บนรถเข็นเด็ก ผลตรวจสอบเบื้องต้นตามตัวเด็กไม่มีร่องรอยหรือบาดแผลอะไร

จากการสอบถาม ผู้เป็นแม่อายุ 15 ปี ที่นั่งร้องไห้เสียใจ โดยได้เล่าว่าก่อนหน้านี้ลูกสาวมีอาการเหมือนจะเป็นไข้ แม่จึงได้พาไปหาหมอที่โรงพยาบาล หลังจากตรวจพบว่าป่วยเป็นไข้ จึงให้ยากลับมากินที่บ้าน หลังให้ลูกกินยาเข้านอนตามปกติ พอตื่นเช้ามาดูลูกเห็นนอนนิ่งเงียบผิดปกติ ตรวจสอบพบว่าลูกสาวได้เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ ตนรู้สึกตกใจและเสียใจเป็นอย่างมาก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรอผลการชันสูตรจากแพทย์นิติเวช เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป

ขอขอบคุณที่มา : news.ch7.com

 

ลูกป่วย ควรทำยังไง

เมื่อทารกป่วย สิ่งสำคัญที่ควรทำคือ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

1. สังเกตอาการ

  • วัดอุณหภูมิร่างกาย
  • สังเกตว่ามีอาการอะไรผิดปกติ เช่น ซึม อาเจียน ท้องเสีย ไอ จาม น้ำมูกไหล หายใจเร็ว ชัก
  • จดบันทึกอาการและเวลาที่เกิดขึ้น

2. ดูแลเบื้องต้น

  • เช็ดตัวเพื่อลดไข้
  • ให้ยาลดไข้ตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร
  • ให้ทารกดื่มน้ำหรือนมแม่มาก ๆ
  • พักผ่อนให้เพียงพอ

3. พาไปพบแพทย์ทันที หากมีอาการเหล่านี้

  • กรณีทารกมีไข้สูง (38 องศาเซลเซียสขึ้นไป)
  • ทารกมีอาการซึม ไม่ยอมกินนม
  • ทารกมีอาการหายใจเร็ว หายใจลำบาก
  • ทารกมีอาการชัก
  • ทารกมีอาการอื่นๆ ที่ผิดปกติ

4. แจ้งข้อมูลให้แพทย์ทราบ

  • อาการของทารก
  • ยาที่ทารกทานอยู่
  • โรคประจำตัวของทารก (ถ้ามี)
  • ประวัติการแพ้ยา (ถ้ามี)

5. ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

  • ทานยาตามแพทย์สั่ง
  • พาไปพบแพทย์ตามนัด
  • ดูแลทารกอย่างใกล้ชิด

สิ่งที่ควรใส่ใจเป็นพิเศษช่วงทารก 5 เดือนแรก

ช่วง 5 เดือนแรก เป็นช่วงเวลาที่สำคัญต่อพัฒนาการของทารกทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ และสติปัญญา ดังนั้น ผู้ปกครองควรใส่ใจดูแลทารกอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในเรื่องดังต่อไปนี้

1. การเจริญเติบโตและพัฒนาการ

  • การเจริญเติบโต: ทารกควรมีน้ำหนักและส่วนสูงเพิ่มขึ้นตามเกณฑ์มาตรฐาน ผู้ปกครองควรพาทารกไปชั่งน้ำหนักและวัดส่วนสูงเป็นประจำ
  • พัฒนาการด้านร่างกาย: ทารกควรสามารถควบคุมศีรษะ คอ และลำตัวได้ดีขึ้น เริ่มพลิกคว่ำ พลิกหงาย และนั่งโดยมีการพยุง
  • พัฒนาการด้านการรับรู้: ทารกเริ่มสนใจสิ่งรอบข้าง จดจ่อกับสิ่งของได้นานขึ้น เริ่มจ้องมองใบหน้า ยิ้ม หัวเราะ และส่งเสียงต่าง ๆ
  • พัฒนาการด้านภาษา: ทารกเริ่มเปล่งเสียงต่าง ๆ เช่น อ้อแอ้ เอี๊ยอ๊าย เริ่มตอบสนองต่อเสียงพูด และเริ่มเข้าใจคำศัพท์ง่าย ๆ

2. การให้นมบุตร

  • นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก: นมแม่มีสารอาหารครบถ้วน ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับทารก และป้องกันโรคต่าง ๆ
  • ควรให้นมแม่แก่ทารกเพียงอย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรก: หลังจาก 6 เดือน สามารถเริ่มให้อาหารเสริมควบคู่กับนมแม่ได้
  • ควรให้นมแม่ตามความต้องการของทารก: ทารกควรดูดนมจากอกแม่บ่อย ๆ ประมาณ 8-12 ครั้งต่อวัน
  • หากไม่สามารถให้นมแม่ได้เต็มที่: ควรปรึกษาแพทย์หรือโภชนาการเด็ก เพื่อเลือกนมผงที่เหมาะสมกับทารก

3. การอาบน้ำ

  • ควรอาบน้ำให้ทารกวันละ 1-2 ครั้ง: ใช้น้ำอุ่นที่อุณหภูมิประมาณ 37-38 องศาเซลเซียส
  • ใช้น้ำยาสระผมและสบู่อ่อน ๆ สำหรับทารก: และล้างออกให้สะอาด
  • เช็ดตัวให้ทารกแห้งสนิท: โดยเฉพาะตามซอกพับต่าง ๆ
  • เลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบายให้ทารกหลังจากอาบน้ำ

4. การนอนหลับ

  • ทารกควรนอนหลับประมาณ 14-17 ชั่วโมงต่อวัน: ทารกควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการด้านต่าง ๆ
  • ควรให้นอนหงาย: ท่าหงายเป็นท่าที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับทารก
  • ควรให้นอนในเปลหรือเตียงเด็ก: ไม่ควรให้นอนร่วมกับผู้ใหญ่
  • ควรสร้างบรรยากาศที่เหมาะสำหรับการนอน: เช่น ห้องเงียบ แสงสลัว อุณหภูมิห้องเย็นสบาย

5. การดูแลความสะอาด

  • ควรเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ทารกบ่อย ๆ: ประมาณทุก 2-3 ชั่วโมง หรือเมื่อเปียกหรือชื้น
  • ควรเช็ดตัวทารกให้สะอาดทุกครั้งหลังเปลี่ยนผ้าอ้อม: โดยเฉพาะบริเวณอวัยวะเพศ
  • ควรตัดเล็บให้ทารกเป็นประจำ: เพื่อป้องกันการเกาตัวเองจนเป็นแผล
  • ควรพาทารกไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีนตามกำหนด

เหตุการณ์ข้างต้นนี้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเด็กเล็ก หากเด็กมีอาการป่วยหรือผิดปกติ ควรรีบพาไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด และทางเราขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ขอขอบคุณภาพจากทาง news.ch7.com

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : 

ลูกไม่สบาย 7 สัญญาณเตือนว่าลูกน้อยของคุณกำลังป่วย และวิธีรับมือ

แม่เตือน! ลูกป่วยง่าย เริ่มนอนกรน อย่าปล่อยไว้ เสี่ยงติดเชื้อรุนแรงลงปอด

6 วิธีแก้ปัญหาลูกป่วยบ่อย ลูกไม่สบายบ่อย ป้องกันไม่ให้ลูกป่วยได้อย่างไรบ้าง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

watcharin