คุณแม่ยุคใหม่กับ เทคนิคซื้อบ้าน อย่างไรไม่ให้ผิดหวัง ไปติดตามกันเลยค่า !!

หากคุณกำลังมองบ้านหลังใหม่เพื่อรองรับการขยายครอบครัวในอนาคต (right sizing) เราได้รวบรวมเทคนิคซื้อบ้านมาให้แล้ว แม้จะเป็นผู้ซื้อมือใหม่ แต่รับรองว่า ไม่เสียรู้โครงการแน่นอน  

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

คุณแม่ยุคใหม่กับ เทคนิคซื้อบ้าน อย่างไรไม่ให้ผิดหวัง ไปติดตามกันเลยค่า !!

เทคนิคซื้อบ้าน : ก่อนอื่น เรามาดูก่อนว่าการซื้อบ้านที่ใหม่จริงๆ หรือเป็นเราเจ้าแรกที่ได้เข้าไปอยู่นั้นมีข้อดีอย่างไรบ้าง

 

  • ใครๆ ก็อยากเข้าไปประเดิมอยู่อาศัยในบ้าน / คอนโดฯ เป็นเจ้าแรก เพราะบ้าน / คอนโดฯ ใหม่ คุณไม่ต้องกังวลกับการซ่อมแซม หรือ บำรุงรักษาอะไรมากมาย อย่างน้อยคุณก็สามารถเลี่ยงค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไปได้อย่างน้อย 2 – 3 ปี
  • การซื้อบ้านใหม่คุณจะเป็นผู้เลือกของตกแต่งเองได้ตามใจชอบ นั่นเพราะ คุณเป็นเจ้าของคนแรก คุณไม่ต้องถูกบังคับรับมอบงานตกแต่งบางงานจากเจ้าของเดิม
  • บ้านมือหนึ่งส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับประกัน ( เรื่องรอยร้าว, น้ำซึม , โครงสร้างเสาเข็ม , กระเบื้องหลุด ) ดังนั้น คุณสามารถมั่นใจเรื่องการเข้าอยู่ได้ โดยไม่ต้องกังวล หากเกิดขึ้นคุณสามารถเคลมได้ (อย่างน้อยก็ 2 ปี warranty)

คราวนี้มาดูเทคนิคซื้อบ้านมือหนึ่ง ที่ต้องคำนึงถึง :

บริการหลังการขายที่คุณจะได้รับอาจจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับข้อเสนอหรือโปรโมชั่นที่คุณได้รับจากแต่ละโครงการ แน่นอนใครๆ ก็อยากได้บริการหลังการขายแบบจัดเต็มหลังจากจ่ายค่าจองหลักหมื่น หรือ บางรายอาจจะหลักแสน กับการเป็นหนี้ไปอีกหลายสิบปี โชคร้ายที่บรรดาดีเวลลอปเปอร์ไม่ได้แข่งขันกันเรื่องคุณภาพบริการหลังการขาย ดังนั้น มันคือสิ่งที่คุณต้องทำรีเสิร์ชด้วยตัวเอง หาข้อมูลจากหลายๆแหล่ง และต่อไปนี้คือข้อแนะนำ

ศึกษาเจ้าของโครงการที่คุณจะซื้อให้ดี :

ในยุคที่ข้อมูลเปิดกว้างผ่านช่องทางโลกออนไลน์ จึงไม่ใช่เรื่องยากหากคุณจะลองใช้เวลาในการนั่งหาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทผู้ประกอบการซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการที่คุณกำลังสนใจ เก็บข้อมูล ความคิดเห็นผ่านกระทู้ เว็บบอร์ดต่างๆ รวมทั้งข่าวสารที่เกี่ยวกับโครงการหรือเจ้าของโครงการนั้นๆ รวมไปถึงการเก็บข้อมูลอัพเดทว่ากระแส ณ ปัจจุบันเป็นอย่างไร กำลังจะมีโครงการสำคัญอะไรเกิดขึ้นบริเวณนั้นหรือเปล่าเผื่อเวลาการขายต่อ (resale) ภายใน 5-10 ปีข้างหน้าจะอัพให้มูลค่าอสังหาฯสูงขึ้น

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

คุยกับเพื่อนบ้าน :

การไปสำรวจพื้นที่ รวมถึงภายในโครงการโดยเฉพาะอสังหาฯ ที่คุณกำลังเล็งไว้ ถือเป็นสิ่งจำเป็น เพราะ เป็นโอกาสที่ดีที่คุณจะได้พบกับว่าที่เพื่อนบ้านใหม่ ทำความรู้จัก และ พูดคุย คุณอาจจะลองถามพวกเขาถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาของพวกเขาเมื่อย้ายเข้ามาอยู่ รวมไปถึงว่ามีความล่าช้าในการก่อสร้างหรือไม่ หรือมีปัญหาหลังจากย้ายเข้ามาอยู่หรือไม่ เป็นต้น

ลองไปสำรวจโครงการอื่นจากดีเวลลอปเปอร์เจ้าเดียวกัน :

ความเห็นจากผู้ที่ซื้อก่อนหน้าในโครงการอื่นๆ ว่าพวกเขามีความคิดเห็นต่อตัวโครงการและดีเวลลอปเปอร์อย่างไร

อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาทั้งหมดจากดีเวลลอปเปอร์ :

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

อยากจะเห็นต้องพิสูจน์ด้วยตาตัวเอง เช่น หากทางโครงการโฆษณาว่าโครงการของตนอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า หรือ รถประจำทาง นั่นหมายความว่าไม่ควรจะอยู่ห่างเกิน 500 เมตร หรือจะเป็นสถานที่ต่างๆ อย่างเช่นห้างสรรพสินค้าก็ควรจะอยู่ในระยะที่ใกล้จริงๆ ตามคำโฆษณาที่เคลมไว้

มูลค่าหลังจากซื้อ :

ลองเปรียบเทียบโครงการเก่าในลักษณะเดียวกันว่ามูลค่าเพิ่มขึ้นหรือน้อยลง อาจจะเป็นอีกโครงการบริเวณใกล้เคียง หรือ แม้กระทั่งดีเวลลอปเปอร์คนละเจ้ากัน ถ้าจะลงละเอียดกว่านี้คุณอาจจะเปรียบเทียบราคาต่อตารางเมตรกับโครงการอื่น

คิดเผื่อ :

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ลองคิดถึงระยะเวลาที่จะอยู่กับบ้านหลังที่จะซื้อ คิดถึงเรื่องการขยายครอบครัว กรณีคู่รักเข้ามาอยู่ด้วยหรือหากมีทายาทตัวน้อย เมื่อลูกโตขึ้นก็ยังสามารถอยู่ในบ้านนี้ได้ เพื่อที่ว่าคุณจะได้ไม่ต้องตัดสินใจการซื้อครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งซึ่งมูลค่าภายภาคหน้าก็จะสูงขึ้นอีก

คิดเพิ่มมูลค่าให้กับอสังหาฯ :

ลองศึกษาว่าบริเวณส่วนไหนของบ้านของคุณที่สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับบ้านได้ อาจจะเป็นด้วยการตกแต่งเพิ่มเติม เช่น สวนหลังบ้าน ห้องครัว หรือก ารตกแต่งภายในบ้านให้เป็นสไตล์ Loft ที่กำลังนิยมกันในตอนนี้ การเพิ่มมูลค่าให้กับอสังหาฯ ของคุณทำให้เมื่อปล่อยขายต่อผู้ซื้อคนต่อไปจะทำให้ขายได้ในราคาที่สูงขึ้น

ศึกษากรณีโครงการเสร็จล่าช้า :

ถามถึงสัญญาให้ดีหากการดำเนินการก่อสร้างเสร็จล่าช้ากว่ากำหนดเป็นเวลานานทางเจ้าของโครงการจะมีการชดเชยอย่างไรต่อความล่าช้าที่เกิดขึ้น

ศึกษาระยะเวลาเอาประกันให้ดี :

หากทางโครงการยืนยันจะให้คุณเซ็นรับมอบทั้งที่การก่อสร้างยังไม่เสร็จหรืองานเก็บรายละเอียดยังไม่เสร็จ อย่าเซ็น!!! เพราะ ถ้าคุณเซ็นนั่นหมายถึงเวลาช่วงรับประกันจะเริ่มขึ้นทันที ไม่มีใครอยากได้บ้านสภาพไม่พร้อม และ ประกันที่โดนบังคับเซ็นหรอก จริงไหม? ดังนั้น สภาพทุกอย่างภายในบ้านต้องบรรลุความพอใจของคุณให้ดีที่สุดถึงจะเซ็นรับมอบได้

เลือกซื้อบ้านคล้ายอย่างไรกับการเลือกซื้อหุ้น? :

การซื้อหุ้นก็เช่นเดียวกันควรจะมีการศึกษาพื้นฐานของบริษัท (fundamentals) เช่นงบการเงิน และ ผลประกอบการที่ผ่านมาเพื่อตรวจสอบสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนนั้น หากบริษัทไหนเป็นหนี้เยอะก็ควรหลีกเลี่ยง เพราะ เราไม่ทราบว่าบริษัทนั้นจะผิดชำระหนี้ (default) จนทำให้เสียเครดิตส่งผลไปยังมูลค่าต่อหุ้นที่จะลดลงหรือไม่ และ ที่สำคัญหากไม่มีเวลานั่งหน้าจอคอยเช็ค เพื่อ ขายเอากำไรตลอดเวลาอย่าเลือกซื้อหุ้นที่เป็นเทรนด์แค่ช่วงใดช่วงหนึ่ง (momentums) เพียงเพราะคุณเห็นมี volumes การเข้าซื้อเป็นจำนวนมากเพราะนั่นอาจเป็นการ “ปั่นหุ้น” (spoofing)

ในขณะที่หากต้องซื้อบ้าน คุณควรจะต้องดูประวัติโครงการในลักษณะเดียวกันจากดีเวลลอปเปอร์เจ้านั้นว่ามีผลตอบรับจากสังคมเป็นอย่างไร หากความคิดเห็นที่ได้ออกมาไม่ดี และ มีสัดส่วนมากกว่าความคิดเห็นในแง่ดี คุณควรอาจจะต้องคิดพิจารณาให้ดี หรือ หากต้องการจะ play safe ก็อย่าซื้อ!!!

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ทีม TheAsianparent หวังว่า ข้อมูลดังกล่าวนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณพ่อ และ คุณแม่ที่กำลังหาซื้อบ้านอยู่นะคะ

ขอบคุณข่าวอสังหาฯ-บทความจาก DDproperty.com เว็บไซต์สื่อกลางอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย

บทความที่น่าสนใจอื่นๆ

อ่านก่อนซื้อบ้าน “โบรชัวร์” ใบเล็กๆ สำคัญแค่ไหน

ระวัง! 9 ของใช้ในบ้าน ตัวการก่อมะเร็ง

จัดบ้านสร้างบรรยากาศใหม่ให้ลูกน้อยมีสมาธิ