บ้านไหนที่มีลูกวัยทารก และวัยเด็กเล็ก ต้องระวังสุขภาพให้ดี เพราะอาจถูกจู่โจมจากไวรัสร้ายที่เป็นมหัตภัยเงียบคุกคามชีวิต ซึ่งไวรัสร้ายตัวนี้ก็คือ ไวรัส RSV เป็นเชื้อโรคที่ทำให้ระบบทางเดินหายใจมีปัญหา หลอดลมฝอยอักเสบ ในเด็กเล็กและทารกหากได้รับเชื้อ RSV เข้าสู่ร่างกายจะมีอาการรุนแรงมากกว่าผู้ใหญ่หลายเท่า RSV ในเด็กอันตรายมากคุณพ่อคุณแม่จะปกป้องลูกน้อยจาก RSV ได้อย่างไร เพื่อลดโอกาสในการป่วยหนักให้กับลูกน้อย theAsianparent มีคำแนะนำมาให้ได้ทราบกันค่ะ
สำหรับลักษณะของ RSV หรือ Respiratory Syncytial Virus จะเป็นไวรัสที่มีเปลือกหุ้ม ความอันตรายของ RSV ไวรัสก็คือทำให้เกิดการติดเชื้อต่อระบบทางเดินหายใจทั้งระบบทางเดินหายใจส่วนบนและส่วนล่าง ซึ่งในเด็กเล็กที่มีอายุน้อยกว่า 1 ปี เด็กคลอดก่อนกำหนด เด็กที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด และโรคปอดเรื้อรัง อาจมีอาการป่วยที่รุนแรงมากกว่าปกติ
RSV ในเด็ก – กลไกการติดต่อและแพร่กระจายของเชื้อ
คุณพ่อคุณแม่อาจสงสัย ลูกพึ่งคลอดได้เดือนสองเดือนอยู่บ้านไม่ได้ออกไปไหนจะติดเชื้อโรค เชื้อไวรัสก่อโรคอย่าง RSV ได้ยังไง ลูกสามารถติดได้จากคุณพ่อคุณแม่ พี่เลี้ยง เพื่อน ญาติพี่น้องที่แวะเวียนมาเยี่ยมลูกค่ะ เรา หรือคนรอบข้างเป็นปัจจัยแวดล้อมที่สามารถนำเชื้อไวรัสก่อโรคมาให้กับลูกน้อยได้ค่ะ และในเด็กเล็กที่ต้องออกนอกบ้านไปโรงเรียน เนอสเซอรี่ หรือสนามเด็กเล่น เป็นต้น ก็สามารถไปรับเชื้อก่อโรคมาจากสถานที่เหล่านี้ได้เช่นกันค่ะ
สำหรับเด็กที่ป่วยเป็น RSV จะแพร่กระจายเชื้อไปสู่คนรอบข้างได้ 3-8 วันเลยนะคะ ไวรัส RSV สามารถติดต่อกันได้จากการไอ จาม โดยที่เด็กๆ ไปสัมผัสโดนกับน้ำลายหรือน้ำมูกของผู้ป่วย ซึ่งเชื้อ RSV จะผ่านเข้าสู่ร่างกายมาทางเยื่อบุตา จมูกและปาก ยังไม่หมดนะคะเพราะการรับเชื้อไวรัสร้ายตัวนี้เข้าสู่ร่างกายยังได้จากการสัมผัส ถ้าเด็กๆ ไปสัมผัสกับของเล่น ของใช้ ลูกบิดประตู ราวบันได ฯลฯ ที่มีการปนเปื้อนจากเชื้อไวรัส RSV แล้วเด็กๆ เอามือมาขยี้ตา หยิบจับอาหารเข้าปากโดยที่ไม่ได้ล้างมือให้สะอาดเสียก่อน ก็ทำให้เชื้อเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายๆ เลยค่ะ
อาการของ RSV ในเด็ก
อาการของ RSV ในเด็ก กับ โรคไข้หวัดธรรมดา อาการค่อนข้างที่จะคล้ายกัน แต่จะมีจุดสังเกตว่าไม่น่าใช่แค่ป่วยไข้หวัดธรรมดานั่นก็คือ
ไข้หวัดธรรมดา จะมีไข้ไม่สูงมาก และ 2-3 วัน อาการป่วยก็จะค่อยๆ ดีขึ้น แต่ถ้าเป็นไวรัส RSV เด็กๆ จะมีไข้สูง (39-40 องศา) ป่วยนานติดต่อกัน 5-10 วัน และนี่คืออาการ RSV ในเด็ก
อาการทั่วไปของ RSV ในเด็กเล็ก
- น้ำมูกไหล
- ไอ
- จมูกอุดตัน
- เจ็บคอ
- ไข้
- เบื่ออาหาร
- เหนื่อยง่าย
อาการที่บ่งบอกว่าเด็กอาจป่วยหนัก
- หายใจเร็ว หายใจลำบาก
- หายใจเสียงดัง (wheezing)
- ซี่โครงบุ๋ม
- ริมฝีปากเขียวหรือซีด
- ไม่ยอมกินนมหรือดูดนมอ่อนแอ
- ซึม ไม่ร่าเริง
ระดับความรุนแรงของ RSV ในเด็ก
โรคติดเชื้อ RSV มีโอกาสป่วยได้ในทุกช่วงวัยค่ะ แต่กลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายที่สุดจะเป็นในเด็กเล็กที่มีอายุน้อยกว่า 1 ปี หรือ ทารกคลอดก่อนกำหนด รวมถึงในกลุ่มเด็กที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคปอดเรื้อรัง โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด และมีปัญหาในเรื่องภูมิคุมกันบกพร่อง ซึ่งหากเด็กๆ ได้รับเชื้อ RSV อาจมีอาการรุนแรงมากถึงขั้นเป็นหลอดลมฝอยอักเสบ มีภาวะปอดบวม มีไข้สูง ไอมีเสมหะ หายใจแรง หายใจหอบจนหน้าอกบุ๋ม หรือหายใจมีเสียงวี้ดๆ มีอาการซึม และตัวเขียว เป็นต้น
จากข้อมูลทางการแพทย์พบว่าในกลุ่มเด็กเล็กได้รับผลกระทบทางสุขภาพจากเชื้อไวรัส RSV มากที่สุด ซึ่งสถิติจากกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี และศูนย์ความร่วมมือไทย – สหรัฐ ด้านสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 – 8 มิถุนายน 2567 พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส RSV 1,226 ราย จากผู้ป่วยทางเดินหายใจ 19,179 ราย (ร้อยละ 6.39)
- อันดับหนึ่ง เด็กอายุระหว่าง 9 วัน – 87 ปี (อายุเฉลี่ย 2 ปี) ตรวจพบมากที่สุดในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี 573 ราย (ร้อยละ 46.74)
- อันดับสอง เด็กอายุ 2 – 5 ปี 472 ราย (ร้อยละ 38.50)
- อันดับสาม เด็กอายุมากกว่า 5 ปีขึ้นไป 181 ราย (ร้อยละ 14.76)
นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัส RSV จำนวน 3 ราย ซึ่งคิดเป็นอัตราป่วยเสียชีวิต ร้อยละ 0.24 ในเด็กอายุต่ำสุด 1 ปี 8 เดือน
เด็กกลุ่มเสี่ยงที่ควรเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
ข้อมูลอ้างอิงทางการแพทย์ของโรงพยาบาลเด็กแห่งชาติมหาราชินี ที่เตือนให้พ่อแม่ ผู้ปกครองเฝ้าระวัง RSV ในเด็กเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 6 เดือน เด็กที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด โรคปอดเรื้อรัง เด็กที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือภาวะทุพโภชนาการ เนื่องจากหากเด็กๆ กลุ่มนี้ติดเชื้อไวรัส RSV จะมีอาการป่วยที่รุนแรงมาก คุณพ่อคุณแม่จึงควรสังเกตและดูแลลูกอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากสังเกตพบว่ามีอาการผิดปกติขึ้น ได้แก่ ไม่กินนม รับประทานข้าวได้น้อยลง หรือมีอาการพร่องออกซิเจน จำเป็นต้องพาส่งโรงพยาบาลทันที
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
ในเด็กกลุ่มที่มีอายุต่ำกว่า 1-2 ปี เด็กที่มีภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง เด็กที่คลอดก่อนกำหนด และในเด็กที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด โรคปอดเรื้อรัง หากได้รับเชื้อ RSV นอกจากจะส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจส่วนบนคือ จมูก คอหอย และระบบทางเดินหายใจส่วนล่างอย่างหลอดลม ปอด ก็อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น หูชั้นกลางอักเสบ ไซนัสหรือปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อน ซึ่งจะมีอาการรุนแรงมากขึ้น ในผู้ป่วยบางรายที่เกิดการอักเสบขึ้นที่หลอดลมฝอยส่วนปลาย จะทำให้ต่อมน้ำเหลืองและเนื้อเยื่อบวมขึ้น สิ่งที่ตามมาคือเยื่อบุผิวทางเดินหายใจของหลอดลมฝอยส่วนปลายตายและหลุดออกมาปนกับเยื่อเมือก แล้วไปอุดตันระบบทางเดินหายใจ ซึ่งจะทำให้เกิดโรคปอดบวม ปอดอักเสบ และส่งผลทำให้เป็นโรคหอบหืดตามมาได้ค่ะ
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการป่วยโรค RSV
การเจ็บป่วยไม่สบายเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาค่ะ โดยเฉพาะโรคจากการติดเชื้อ RSV ในเด็กสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งปี และที่แพร่ระบาดหนักๆ จะเป็นช่วงหน้าฝนและหน้าหนาว สำหรับเด็กที่ป่วย RSV ต้องใช้เวลารักษาในโรงพยาบาลนานเป็นสัปดาห์ หรือหากเกิดภาวะแทรกซ้อนร่วมด้วย เช่น ภาวะปอดอักเสบ ปอดติดเชื้อ อาจต้องใช้เวลาในการอยู่โรงพยาบาลนานมากกว่าหนึ่งสัปดาห์ ถ้าเด็กในวัยเรียนจำเป็นต้องหยุดเรียนเพื่อพักรักษาให้หายจาก RSV เสียก่อน การป่วย RSV นอกจากจะกระทบต่อสุขภาพร่างกาย และการเรียนของลูกแล้ว ยังส่งผลกระทบไปยังคุณพ่อคุณแม่ ที่ต้องหยุดงาน ลางานสลับกันมาดูแลลูกที่โรงพยาบาล รวมถึงมีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่ค่อนข้างสูงอีกด้วยค่ะ
ปัจจุบันนี้ยังไม่มียาสำหรับใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อ RSV การรักษาทางการแพทย์ทำได้เพียงแค่การรักษาตามอาการของเด็กที่ป่วย ซึ่งในเด็กกลุ่มเสี่ยงอาจมีอาการป่วยจาก RSV ที่รุนแรงจนไม่สามารถประคองอาการให้ดีขึ้นได้ และอาจตามมาด้วยการเสียชีวิตได้ค่ะ ดังนั้นการปกป้องลูกน้อยเบื้องต้นที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้คือ ให้ลูกกินนมแม่ตั้งแต่แรกเกิด เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้นที่แข็งแรงให้กับร่างกายของลูกน้อย จากนั้นให้ลูกได้รับการฉีดวัคซีนตามวัย รวมถึงการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หมั่นออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ และรักษาความสะอาดของร่างกาย อาบน้ำสระผม และล้างมือทุกครั้งหลังเข้าห้องน้ำ และก่อนหยิบอาหารเข้าปาก ฝึกลูกให้เป็นนิสัย ก็สามารถช่วยให้ปลอดภัยจากไวรัสร้าย RSV ได้ในระดับหนึ่งค่ะ
และหากคุณพ่อคุณแม่มือใหม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคติดเชื้อ RSV ในเด็ก สามารถปรึกษาแพทย์ที่โรงพยาบาล หรือคลินิกใกล้บ้าน หรือ เช็ก อาการเบื้องต้น พร้อมคำแนะนำในการดูแลสุขภาพให้กับลูกน้อย ได้ที่ https://www.oaziscare.com/
#RSV
#TH-19437
#ปอดจิ๋วปลอดภัยห่างไกลRSV
#ProtectTinyLungs
Reference:
RSV ไวรัสร้ายใกล้เจ้าตัวน้อย, โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์
เตือนภัย ไวรัส RSV โรคระบาดที่อาจคร่าชีวิตลูกน้อย, โรงพยาบาลนครธน
แพทย์แนะไวรัส RSV มักระบาดในช่วงหน้าฝน, โรงพยาบาลเด็กแห่งชาติมหาราชินี
กรมควบคุมโรค เตือนเข้าสู่ฤดูฝนหวั่นเด็กเล็กป่วยโรคติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV), กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
ไวรัส อาร์เอสวี (RSV), คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดล
RSV กับโรคหืด, โรงพยาบาลบีเอ็นเอช