เด็กหญิงวัย 12 พลัดตกคลอง จมน้ำดับต่อหน้าเพื่อน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ทาง พ.ต.ต.พิทักษ์ จันทร์ศรี สว.(สอบสวน)สน.ธรรมศาลา รับแจ้งเหตุเด็กสูญหายในน้ำ บริเวณคลองทวีวัฒนา ใกล้เคียงกับประตูน้ำทวีวัฒนา ถนนเลียบคลองทวีวัฒนา แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ จึงเร่งไปตรวจสอบพร้อมนักประดาน้ำ
จากการตรวจสอบ พื้นที่เกิดเหตุเป็นคลองกว้างประมาณ 30 เมตร ลึกประมาณ 3 เมตร นักประดาน้ำใช้เวลาในการค้นหาประมาณ 30 นาที จึงพบร่าง ด.ญ. วัย 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 ลักษณะนอนคว่ำหน้าอยู่ในชุดพละสีฟ้า
จากการสอบถามเพิ่มเติมจากเพื่อนผู้ตาย เล่าว่า หลังเลิกเรียนได้ชวนกันเดินเลาะตามทางรถไฟศาลาธรรมสพน์เพื่อกลับบ้านย่านศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ขณะเดินมาถึงสะพานข้ามคลองทวีวัฒนา ได้ชักชวนกันลงเล่นน้ำ ซึ่งช่วงนั้นประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนาเปิด น้ำไหลแรงมาก จึงยังไม่มีใครกล้าเล่น แต่ ผู้เสียชีวิตเดินลงไปที่สะพานไม้ไผ่ที่ยื่นไปในคลอง แล้วพลัดตกสะพาน เพื่อนพยายามดึงมือไว้ แต่ก็สู้แรงน้ำไม่ไหว ไหลไปตามกระแสน้ำไปทางประตูน้ำ ตนวิ่งไปบอกให้เจ้าหน้าที่ปิดประตูน้ำ ศพจึงไหลไปไม่ไกล ห่างจากจุดที่ตกประมาณ 50 เมตร
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : thairath.co.th, ch7.com, komchadluek.net, dailynews.co.th
เด็ก พลัดตกคลอง ตกน้ำ จะช่วยเหลืออย่างไร ?
เหตุการณ์คนพลัดตกน้ำเป็นเหตุฉุกเฉินที่ต้องรีบให้ความช่วยเหลืออย่างรวดเร็วและถูกต้อง เพื่อเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตของผู้ประสบเหตุ
หลักการช่วยเหลือเบื้องต้น: ตะโกน โยน ยื่น
- ตะโกน: เรียกขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง และตะโกนบอกให้ผู้ที่ตกน้ำสงบสติอารมณ์
- โยน: โยนอุปกรณ์ที่ลอยน้ำได้ให้ผู้ประสบเหตุเกาะ เช่น ห่วงชูชีพ, ถังพลาสติก, หรือสิ่งของที่ลอยน้ำได้
- ยื่น: หากไม่มีอุปกรณ์ลอยน้ำ ให้ยื่นไม้ ท่อนไม้ หรือสิ่งของยาวๆ ให้ผู้ประสบเหตุจับ
ข้อควรระวังขณะช่วยเหลือ
- ความปลอดภัยของผู้ช่วย: อย่ากระโดดลงไปช่วยเหลือด้วยตัวเอง หากไม่แน่ใจในความสามารถในการว่ายน้ำ เพราะอาจเป็นอันตรายต่อทั้งผู้ช่วยและผู้ประสบเหตุ
- การให้กำลังใจ: พูดคุยปลอบใจผู้ประสบเหตุให้สงบสติอารมณ์
- แจ้งหน่วยกู้ภัย: โทรแจ้งหน่วยกู้ภัย 1669 ทันที เพื่อขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อนำผู้ประสบเหตุขึ้นมาจากน้ำ
- ตรวจสอบการหายใจและชีพจร: หากผู้ประสบเหตุไม่หายใจ ให้ทำการปั๊มหัวใจและเป่าปากทันที
- นำส่งโรงพยาบาล: รีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
สิ่งที่สำคัญคือการปฏิบัติตัวอย่างรวดเร็วและถูกต้องตามขั้นตอน เพื่อเพิ่มโอกาสในการช่วยชีวิตผู้ประสบเหตุ
จะป้องกันอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เด็กจมน้ำ
เหตุการณ์เด็กจมน้ำเป็นเรื่องที่น่าเศร้าและสามารถป้องกันได้ หากเรามีความระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้:
การดูแลใกล้ชิด
- ไม่ปล่อยให้เด็กอยู่ใกล้แหล่งน้ำโดยลำพัง: ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ บ่อ บึง คลอง หรือทะเล ควรมีผู้ใหญ่คอยดูแลอย่างใกล้ชิดเสมอ
- กำหนดกฎ: กำหนดกฎระเบียบในการเล่นน้ำให้ชัดเจน เช่น ห้ามเล่นน้ำคนเดียว ห้ามกระโดดน้ำในที่ที่ไม่ลึกพอ เป็นต้น
- สอนให้เด็กกลัวน้ำ: สอนให้เด็กมีความระมัดระวังและรู้จักอันตรายของน้ำ
สร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย
- รั้วรอบสระว่ายน้ำ: สร้างรั้วรอบสระว่ายน้ำให้สูงและมีประตูที่ล็อกได้
- ปิดภาชนะใส่น้ำ: ปิดฝาภาชนะใส่น้ำทุกชนิดให้มิดชิด
- ตรวจสอบบ่อน้ำ: ตรวจสอบและซ่อมแซมบ่อน้ำหรือหลุมที่อาจกักเก็บน้ำได้
- สอนให้เด็กว่ายน้ำ: การเรียนว่ายน้ำเป็นทักษะสำคัญที่ช่วยให้เด็กเอาชีวิตรอดได้เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
ความรู้และทักษะ
- เรียนรู้การช่วยชีวิตเบื้องต้น: ผู้ปกครองควรเรียนรู้วิธีการปฐมพยาบาลและช่วยชีวิตเบื้องต้น
- สอนให้เด็กรู้จักขอความช่วยเหลือ: สอนให้เด็กรู้ว่าควรทำอย่างไรเมื่อตกน้ำ เช่น เรียกขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่
ข้อควรปฏิบัติอื่นๆ
- หลีกเลี่ยงการเล่นน้ำในที่ที่ไม่ปลอดภัย: เลือกเล่นน้ำในสถานที่ที่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแล
- สวมเสื้อชูชีพ: เมื่อเล่นน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ ควรสวมเสื้อชูชีพเสมอ
- ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขณะเล่นน้ำ: แอลกอฮอล์จะลดความสามารถในการตัดสินใจและทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
ควรสอนลูกว่ายน้ำตอนอายุเท่าไร ?
คำถามนี้เป็นคำถามที่พ่อแม่หลายท่านสงสัยกัน จริง ๆ แล้ว การเริ่มสอนลูกว่ายน้ำนั้นสามารถทำได้ตั้งแต่ลูกยังเล็ก แต่ก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมของทั้งลูกและพ่อแม่ด้วย
ทำไมต้องสอนลูกว่ายน้ำตั้งแต่เด็ก?
- พัฒนาการที่ดี: การว่ายน้ำช่วยพัฒนากล้ามเนื้อ การทรงตัว และระบบหายใจของเด็ก
- ความมั่นใจ: การเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ช่วยให้เด็กมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น
- ความปลอดภัย: การว่ายน้ำเป็นทักษะสำคัญที่ช่วยให้เด็กเอาชีวิตรอดได้เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
- ความสนุก: การเล่นน้ำเป็นกิจกรรมที่เด็กๆ ส่วนใหญ่ชอบ
อายุที่เหมาะสมในการเริ่มสอน:
- ทารก: สามารถเริ่มให้ลูกทำความคุ้นเคยกับน้ำได้ตั้งแต่แรกเกิด โดยมีผู้ใหญ่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด
- วัยเตาะแตะ: เมื่อลูกอายุประมาณ 1-2 ขวบ สามารถเริ่มสอนให้ลูกเล่นน้ำและลอยตัวได้
- วัยอนุบาล: เมื่อลูกอายุประมาณ 3-5 ขวบ สามารถเริ่มสอนทักษะการว่ายน้ำขั้นพื้นฐานได้
ปัจจัยที่ควรพิจารณา:
- ความพร้อมของลูก: สังเกตว่าลูกกลัวน้ำหรือไม่ มีอาการขัดขืนหรือเปล่า
- สภาพร่างกาย: ลูกต้องแข็งแรงพอที่จะอยู่ในน้ำได้เป็นระยะเวลาหนึ่ง
- สภาพแวดล้อม: เลือกสระว่ายน้ำที่สะอาด มีอุณหภูมิที่เหมาะสม และมีครูสอนที่ได้รับการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี
ข้อควรระวัง:
- ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด: ไม่ควรปล่อยให้ลูกเล่นน้ำโดยลำพังเสมอ
- เลือกครูสอนที่เหมาะสม: ครูสอนควรมีความเชี่ยวชาญในการสอนเด็กเล็ก
- ค่อยๆ เพิ่มระยะเวลาและความยากของการฝึก: ไม่ควรฝืนใจลูกให้ทำในสิ่งที่เขาไม่พร้อม
คำแนะนำเพิ่มเติม:
- ปรึกษาแพทย์: ก่อนจะเริ่มสอนลูกว่ายน้ำ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพของลูก
- เลือกสระว่ายน้ำที่เหมาะสม: เลือกสระว่ายน้ำที่สะอาด มีอุณหภูมิที่เหมาะสม และมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี
- ให้กำลังใจลูกเสมอ: การให้กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ลูกมีความมั่นใจและสนุกกับการเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ
เหตุการณ์เด็กพลัดตกคลองจมน้ำเป็นเรื่องที่น่าเศร้าและเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาความปลอดภัยของเด็กในสังคมไทย การป้องกันเด็กจมน้ำเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องร่วมมือกัน โดยเริ่มจากการดูแลลูกหลานของตนเองให้ดี และร่วมกันสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยให้กับเด็กทุกคน
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
เช็คสถานที่ ตำรวจน้ำ สอนว่ายน้ำ ฟรี! ทั่วประเทศ ปี 2567
ให้ลูกเรียนว่ายน้ำ ที่ไหนดี รวมโรงเรียนสอนว่ายน้ำเด็ก ราคาไม่แพง
ตกน้ำ ตกเรือต้องทำยังไง วิธีเอาตัวรอดเมื่อเกิดอุบัติเหตุทางน้ำ