พ่อแม่มือใหม่ มักจะมีความวิตกกังวลเรื่องการเลี้ยงดูทารกแรกเกิด เพราะเจ้าตัวเล็กนั้นยังบอบบาง อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายก็ยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะอาการต่าง ๆ ของทารกในช่วง 28 วัน หรือหลังคลอดราว ๆ 1 เดือน ที่จะทำให้คุณพ่อ คุณแม่ ต้องวิตกกังวลอย่างมาก ว่าวิธีการดูแลลูกน้อยของเรานั้น ถูกต้องแล้ว หรือไม่ ทั้งการอาบน้ำทารกแรกเกิด การให้นมแม่ การพาลูกเข้านอน รวมทั้งโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ที่มักเกิดขึ้นกับทารกด้วย และสิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งที่จะบอกได้ว่า ลูกมีสุขภาพที่ดี หรือไม่ นั่นคือ อุณหภูมิร่างกายทารกแรกเกิด
อุณหภูมิร่างกายเด็ก อุณหภูมิร่างกายทารกแรกเกิด กี่องศา ? ทารกมีไข้กี่องศา อุณหภูมิไข้ อุณหภูมิปกติของร่างกาย อุณหภูมิทารก
พญ.วิมล เสกธีระ กุมารแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านทารกแรกเกิด – ปริกำเนิด โรงพยาบาลเวชธานี กล่าวว่า เด็กแรกเกิด หรือทารกแรกเกิด จะมีอุณหภูมิปกติอยู่ที่ 37 องศาเซลเซียส หากลูกแรกเกิดมีร่างกายปกติ อุณหภูมิร่างกายของลูกควรอยู่ในช่วง 36.5 – 37.5 (หรือ ±0.5 องศา) เมื่อลูกแรกเกิดมีอุณหภูมิร่างกายมากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส นั่นคือ ลูกตัวร้อน
การวัดอุณหภูมิร่างกายทารกแรกเกิด อุณหภูมิไข้ อุณหภูมิปกติของร่างกาย
- คุณพ่อ คุณแม่ ต้องใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิ ไม่ควรวัดอุณหภูมิร่างกายทางหน้าผาก เพราะอาจมีการอ่านค่าที่ผิดพลาดได้ง่าย และไม่แนะนำให้ใช้ในเด็กเล็ก
- อย่านำปรอทวัดไข้ เข้าปากลูก เพราะลูกอาจงับ หรือกัด เสี่ยงทำให้ปรอทแตกได้
- การวัดอุณหภูมิร่างกายเด็กแรกเกิด ควรใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิทางรักแร้นาน 3 – 5 นาที แล้วอ่านค่า หากลูกมีไข้ ควรพบแพทย์ ไม่ควรซื้อยาลดไข้มาให้ลูกทานเองเด็ดขาด เนื่องจากอาจเป็นการปิดบังอาการ และเกิดอันตรายต่อเด็กได้
ทารกแรกเกิดตัวเย็น อุณหภูมิปกติของร่างกาย อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม
การสังเกตว่า ลูกแรกเกิดตัวเย็น หรือไม่ จะสามารถใช้มือสัมผัสได้ หากรู้สึกว่าลูกน้อยตัวเย็น ให้สังเกตว่า ปลายมือ ปลายเท้าเขียวคล้ำ หรือไม่ ถ้าลูกมีอาการเขียวคล้ำ ซ้ำยังซึม ๆ ให้รีบพาลูกมาพบแพทย์ทันที เป็นไปได้ว่า เด็กอาจมีภาวะติดเชื้อ
ในช่วง 28 วันแรก หรือหลังคลอด 1 เดือน ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม ที่จะพาลูกแรกเกิดออกไปเที่ยวนอกบ้าน (ยกเว้นว่า ลูกต้องไปหาหมอ) เพราะทารกแรกเกิด ยังไม่สามารถปรับตัวเรื่องอุณหภูมิของร่างกายได้
ลูกอายุเท่าไหร่ จึงจะพาออกนอกบ้านได้
ช่วงอายุน้อยที่สุดที่พาลูกออกนอกบ้านได้ คือประมาณ 4 – 6 เดือน เพราะลูกเริ่มมีความพร้อมทางด้านร่างกาย และอารมณ์ สื่อสารรู้เรื่อง และได้รับวัคซีนเสริมภูมิคุ้มกันมาบ้างแล้ว เมื่อมีความจำเป็นที่ต้องพาทารกออกนอกบ้าน ควรหลีกเลี่ยงสถานที่แออัด หรือมีคนมาก หากลูกยังเล็ก ก็ยังไม่ควรพาออกไปนอนบ้านมากนัก
หากมีความจำเป็นต้องพาลูกออกนอกบ้าน ต้องคำนึงถึงเรื่องต่อไปนี้
- เลือกเวลาเดินทาง ควรพิจารณาการเดินทางในเวลาที่เหมาะสม เช่น อาจเลือกเวลาใกล้ ๆ กับเวลานอนของลูกในระหว่างเดินทาง เพื่อให้ลูกได้มีเวลาพักผ่อนได้มากที่สุด เพราะทารกวัยแรกเกิด ยังไม่สามารถรับรู้อะไร นอกจากการนอนเป็นสำคัญ
- อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับลูกน้อย เช่น ของใช้จำเป็นสำหรับลูก คาร์ซีท รถเข็น ของเล่นเด็ก ยาของลูก ฯลฯ จัดเตรียมให้พร้อม
- ความเอาใจใส่ลูกน้อย เพราะร่างกายของเด็กเล็กยังไม่สามารถปรับตัวได้ดี ลูกอาจจะมีงอแง หงุดหงิด อันเกิดจากความไม่สบายตัว หรือหิว คุณแม่ต้องคอยสังเกตอาการของลูกน้อย หรือคอยดูชั่วโมงการให้นม และการนอนของลูกให้เป็นอย่างดี
- การเลือกสถานที่เดินทางต้องคำนึงถึงลูก หากจำเป็นต้องพาลูกเล็กเดินทางไกล หรือไปพักผ่อน การเลือกที่พักโดยมีลูกน้อยไปด้วยควรเป็นโรงแรม หรือห้องพักที่ปลอดภัยพอสำหรับเด็กเล็ก เป็นต้น
อุณหภูมิปกติของร่างกาย รู้ได้อย่างไรว่าลูกตัวร้อน ?
- สัมผัสหน้าผาก หลัง หรือหน้าท้องของลูกแล้วรู้สึกร้อน
- มีเหงื่อออกมาก ตัวเปียกชื้น
- แก้มแดง
การวัดค่าอุณหภูมิร่างกายของลูก อาจจะมีความผิดเพี้ยนไปได้บ้าง สาเหตุจาก
- การที่คุณพ่อ คุณแม่ ห่อตัวลูกด้วยผ้า
- ลูกอยู่ในห้องที่มีอากาศอุ่น
- ลูกมีความร่าเริง หรือขยับเขยื้อนร่างกายมาก
- ลูกจับขวดนมที่มีความอุ่น
- ลูกใส่เสื้อผ้าหลายชั้น
- ลูกเพิ่งอาบน้ำเสร็จ
สาเหตุที่ทำให้ลูกมีอุณหภูมิร่างกายสูง
อุณหภูมิร่างกายของลูกที่สูงขึ้น เป็นสัญญาณที่บอกว่าร่างกายกำลังต่อสู้กับเชื้อโรค เด็กบางคนจะมีอาการไข้ หรืออุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น หลังจากการฉีดวัคซีน หากคุณพ่อคุณแม่รู้สึกเป็นกังวล ควรปรึกษาแพทย์
ทำอย่างไรเมื่อลูกมีอุณหภูมิร่างกายสูง ?
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ร่างกายของลูกมีความร้อนขึ้น คือการขาดน้ำ ให้ลูกดื่มน้ำอย่างเพียงพอ หากลูกยังคงดื่มนมแม่ คุณแม่ควรให้ลูกดื่มนมมากขึ้น แต่หากลูกมีอาการดังนี้ ควรพบแพทย์ทันที
- ลูกมีอาการป่วย เช่น กระสับกระส่าย มีผื่นขึ้น เป็นต้น
- ลูกอายุน้อยกว่า 3 เดือน อุณหภูมิสูงกว่า 38 องศา
- ลูกอายุระหว่าง 3 – 6 เดือน อุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 39 องศา
ประเภทของเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกายเด็ก
-
การวัดอุณหภูมิทางทวารหนัก (Rectal thermometers)
เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด จนถึง 3 ขวบ เป็นเครื่องมือวัดอุณหภูมิร่างกายที่ให้ผลลัพธ์แม่นยำที่สุด
-
การวัดอุณหภูมิทางรักแร้ (Axillary thermometers)
เหมาะสำหรับเด็กเล็ก หรือช่วงวัยที่ลูกสามารถจะหนีบ หรือประคับ ประคอง เครื่องมือชนิดนี้เอาไว้ใต้รักแร้ได้ แม้ว่าจะเทอร์โมมิเตอร์ที่ใช้วัดอุณหภูมิทางรักแร้ จะไม่สามารถให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำได้เท่ากับการวัดทางทวารหนัก แต่ถือว่าเป็นประเภทที่ใช้งานได้ง่ายมาก
-
การวัดอุณหภูมิทางหู และหน้าผาก (Ear and forehead thermometers)
ข้อดีคือ ใช้งานง่าย สะดวก และรวดเร็ว จะมีติดบ้านไว้สักอันก็ไม่เสียหาย แต่เครื่องมือชนิดนี้ ไม่ได้ให้ความแม่นยำเท่าไรนัก วิธีการใช้คือ วางไว้บนหน้าผาก หรือรูหูของลูก
-
การวัดอุณหภูมิทางปาก (Oral thermometers)
เหมาะสำหรับเด็กอายุ 3 – 4 ปี ที่พอจะเข้าใจอะไรบ้างแล้ว และสามารถที่จะอมเทอร์โมมิเตอร์เอาไว้ใต้ลิ้นได้ประมาณ 1 นาที เพื่อความแม่นยำ
1 ใน 3 ของเด็กทารกที่เป็นไข้หวัด ควรได้รับการดูแลจากแพทย์ หากแต่ไม่ใช่ทุก ๆ อาการ ที่จะรุนแรง จนต้องเป็นกังวล เพราะระบบภูมิคุ้มกันของทารกก็กำลังก่อร่างสร้างตัวเองให้แข็งแรง พร้อมรับมือกับเชื้อโรคอื่น ๆ ในอนาคต แม้ว่าคุณพ่อ คุณแม่ จะดูแลลูกอย่างดีที่สุดแล้ว ลูกได้ดื่มนมแม่ และมีภูมิคุ้มกันอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ดี ลูกก็อาจต้องมีอาการไข้ หรือเป็นหวัดครั้งแรก ซึ่งอาจทำให้คุณพ่อ คุณแม่ เป็นกังวลไม่น้อย ดังนั้น หากลูกมีอุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้น คุณพ่อคุณแม่ควรตั้งสติ และรีบพาลูกไปพบแพทย์ทันที
แหล่งข้อมูล: whattoexpect , nhs.uk
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
ไม่อยาก ให้ลูกต้องป่วยบ่อย ต้องสอนลูกให้ทำแบบนี้
ผนังหน้าท้องไม่ปิด สาเหตุการเกิด gastroschisis ที่ทำให้ลูกต้องทรมานตั้งแต่แรกเกิด
โรต้าไวรัส สาเหตุโรคอุจจาระร่วง วิจัยเผย ส่งผลต่อ พัฒนา การทารก เสี่ยงไอคิวต่ำ