วางแผนลาคลอด ตอนกี่สัปดาห์? รวมคำแนะนำจากประสบการณ์คุณแม่

undefined

รวบรวมคำแนะนำดี ๆ จากประสบการณ์ วางแผนลาคลอด ของเหล่าคุณแม่ รวมถึงข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ สิทธิลาคลอดตามกฎหมายแรงงาน

สำหรับคุณแม่ท้อง สิ่งสำคัญที่ต้องวางแผนให้ดีคือ วางแผนลาคลอด จะลาคลอดเมื่อไหร่ดี? ลาคลอดก่อนคลอดได้ไหม? ลาก่อนคลอดกี่สัปดาห์ถึงจะพอดี หรือจะลาไปเลย 3 เดือนเต็มเพื่อดูแลลูกน้อยแรกเกิดจะดีไหม? เพื่อช่วยให้คุณแม่คลายความกังวล และ วางแผนลาคลอด ได้อย่างมั่นใจ เราได้รวบรวมคำแนะนำดี ๆ จากประสบการณ์ของคุณแม่ท่านอื่น ๆ รวมถึงข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับกฎหมายแรงงานมาฝาก 

 

ลาคลอดได้กี่วัน สิทธิการลาคลอดตามกฎหมาย ที่คุณแม่ต้องรู้!

ระยะเวลาการลา: คุณแม่มีสิทธิลาคลอดได้ ไม่เกิน 98 วัน โดยนับรวมวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ด้วย หมายความว่าไม่ว่าวันลาจะตรงกับวันหยุดหรือไม่ ก็จะถูกนับรวมอยู่ใน 98 วันนี้

ค่าจ้าง: ในช่วงที่ลาคลอด คุณแม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างจากนายจ้างไม่เกิน 45 วัน นี่คือส่วนที่นายจ้างต้องจ่ายให้ตามกฎหมาย

ค่าทดแทนจากสำนักงานประกันสังคม: นอกเหนือจากค่าจ้างที่ได้รับจากนายจ้าง ผู้ประกันตนยังจะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้จาก สำนักงานประกันสังคมอีก 50% ของค่าจ้างเฉลี่ย เป็นระยะเวลา 90 วัน (สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33, 39, 40) โดยเงินส่วนนี้จะถูกคำนวณจากฐานเงินเดือนเฉลี่ยย้อนหลัง 90 วัน ซึ่งเงินจากประกันสังคมจะจ่ายให้รวม 90 วัน

ตัวอย่างง่าย ๆ: สมมติคุณแม่เงินเดือน 15,000 บาท

  • จะได้รับค่าจ้างจากนายจ้าง 45 วัน (45/30 x 15,000 = 22,500 บาท)
  • จะได้รับเงินจากประกันสังคม 90 วัน (50% ของ 15,000 x 3 เดือน = 22,500 บาท)
  • รวมแล้วคุณแม่จะได้รับค่าจ้างและเงินทดแทนรวม 45,000 บาท สำหรับการลาคลอด 90 วันแรก

บทความที่เกี่ยวข้อง: ข่าวดี!! เพิ่มเงินสงเคราะห์บุตร จาก 800 บาท เป็น 1,000 บาท

วางแผนลาคลอด

วางแผนลาคลอด เมื่อไหร่ดีที่สุด?

การตัดสินใจว่าจะเริ่มลาคลอดเมื่อไหร่ เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คุณแม่หลายคนคิดหนัก ไม่มีคำตอบตายตัวว่าวันไหนคือ “ดีที่สุด” เพราะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยแต่จากประสบการณ์ของคุณแม่หลายท่าน เราพอจะสรุปแนวทางและข้อคิดเห็นมาให้คุณแม่มือใหม่ได้นำไปพิจารณากันค่ะ

 

ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจ วางแผนลาคลอด

ก่อนจะตัดสินใจว่าควรลาคลอดเมื่อไหร่ ลองพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้

  1. สุขภาพของคุณแม่และทารก

สุขภาพคือปัจจัยที่สำคัญที่สุด! หากคุณแม่มีภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ เช่น ครรภ์เสี่ยง คลอดก่อนกำหนด หรือมีอาการเจ็บป่วยที่ทำให้ทำงานลำบาก แพทย์อาจแนะนำให้ลาคลอดเร็วกว่าปกติเพื่อความปลอดภัยของทั้งแม่และลูก รวมถึงหากคุณแม่รู้สึกเหนื่อยล้ามาก ๆ หรือมีอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ทันที

  1. ลักษณะงานและความยืดหยุ่นของบริษัท

งานบางประเภทต้องใช้แรงกายมาก หรือต้องเดินทางบ่อย อาจไม่เหมาะกับการทำจนถึงโค้งสุดท้ายของการตั้งครรภ์ ในขณะที่งานออฟฟิศบางตำแหน่งอาจมีความยืดหยุ่นมากกว่า นอกจากนี้ นโยบายของบริษัทก็มีผลเช่นกัน บางบริษัทอาจยืดหยุ่นให้ลาได้ง่ายกว่า หรือมีสวัสดิการที่เอื้อต่อการลาคลอด

  1. ความพร้อมทางจิตใจและร่างกาย

คุณแม่บางท่านอาจรู้สึกว่าต้องการพักผ่อนเตรียมตัวก่อนคลอดอย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องการจัดของใช้เด็ก เตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อมรับมือกับการเป็นแม่คน ในขณะที่คุณแม่บางท่านอาจรู้สึกอยากทำงานไปจนถึงนาทีสุดท้ายเพื่อไม่ให้วันลาหมดเร็ว

วางแผนลาคลอด

ประสบการณ์คุณแม่:  ลาคลอดเมื่อไหร่ดี?

วางแผนลาคลอด จากประสบการณ์จริง คุณแม่แต่ละท่านก็มีความเห็นและเหตุผลในการลาคลอดที่แตกต่างกันไป ดังนี้

กลุ่มที่ 1: วางแผนลาคลอด ก่อนกำหนด 1-2 สัปดาห์ พักให้เต็มที่ก่อนเจอหน้าลูก!

สำหรับแม่ ๆ ที่อยากใช้ช่วงโค้งสุดท้ายของการตั้งครรภ์ให้คุ้มค่าที่สุด การลาคลอดก่อนกำหนดซัก 1-2 สัปดาห์นี่แหละค่ะคือทางเลือกที่ใช่เลย! ช่วงนี้เราจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่จริงๆ ทั้งกายและใจ จะจัดห้องลูกให้เข้าที่เข้าทาง จะเตรียมกระเป๋าคลอดแบบไม่ต้องรีบร้อน หรือจะจัดการธุระส่วนตัวที่คั่งค้างก็ทำได้สบาย ๆ ที่สำคัญคือเป็นการเผื่อเวลาไว้ในกรณีที่ลูกน้อยอยากจะออกมาทักทายก่อนกำหนดด้วยนะ ปลอดภัยไว้ก่อนค่ะ

ข้อดีที่แม่ ๆ บอกเป็นเสียงเดียวกันคือ ช่วยลดความเครียดและความกังวลจากการทำงานไปได้เยอะมาก! เราได้ผ่อนคลายเต็มที่ เตรียมพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจให้พร้อมรับบทบาทคุณแม่มือใหม่ มีเวลาเยอะแยะเลยค่ะสำหรับการเตรียมของใช้จุกจิกของลูก หรือเคลียร์ธุระส่วนตัวที่อาจต้องใช้เวลา ถ้าท้องแก่แล้วยังวิ่งวุ่นอยู่จะเหนื่อยมากเลยนะคะ

แต่ก็มีข้อที่ต้องพิจารณาเหมือนกัน คือวันลาของเราอาจจะหมดเร็วขึ้นเล็กน้อย ทำให้ช่วงเวลาที่เราได้อยู่กับลูกหลังคลอดอาจจะสั้นลงไปบ้าง ถ้าวางแผนวันลาไม่ดี อาจจะรู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วเกินไปหน่อยค่ะ

วางแผนลาคลอด

กลุ่มที่ 2: วางแผนลาคลอด วันชนวัน! ลุยงานจนถึงนาทีสุดท้าย

สำหรับคุณแม่สายเวิร์คกิ้งมัมแบบเรา ๆ ที่อยากใช้เวลาทำงานให้เต็มที่ที่สุดก่อนเจอหน้าลูก การลาคลอดในวันคลอดหรือใกล้เคียงนี่แหละค่ะคือคำตอบ! บางคนอาจจะทำงานที่สามารถทำได้จนถึงวันคลอด หรือบางทีก็เสียดายวันลาที่มีจำกัด ไม่อยากเอาไปใช้พักผ่อนก่อนคลอดมากนัก อยากเก็บไว้ใช้หลังคลอดดูแลลูกยาว ๆ ค่ะ แถมบางทีก็รู้สึกอยากทำงานต่อเพื่อรักษาความต่อเนื่องของโปรเจกต์ หรือบางทีก็แค่รู้สึกว่า ‘ฉันยังไหว!’ นั่นแหละค่ะ

ข้อดีที่สัมผัสได้ชัด ๆ เลยก็คือ เราจะมี วันลาเหลือเยอะมาก สำหรับดูแลลูกน้อยหลังคลอด ทำให้ได้ใช้เวลากับลูกน้อยได้นานขึ้นเต็มที่เลยค่ะ แถมการได้ทำงานจนถึงวันสุดท้ายก็ทำให้เรารู้สึกมีคุณค่า และได้ทำในสิ่งที่รักจนถึงนาทีสุดท้ายจริง ๆ ค่ะ

แต่ก็มีมุมที่ต้องยอมรับ การทำงานจนถึงโค้งสุดท้ายอาจทำให้เรา เหนื่อยล้าสะสมได้ง่าย เพราะร่างกายไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ก่อนจะไปเจอศึกใหญ่คือการคลอด และที่สำคัญคือ ถ้าลูกน้อยเกิดอยากออกมาทักทายก่อนกำหนด หรือมีเหตุฉุกเฉินอะไรขึ้นมา เราอาจจะต้องรีบไปโรงพยาบาลแบบฉุกละหุกเลยค่ะ บางทีงานที่ยังค้างอยู่ก็อาจจะไม่ได้สะสางเรียบร้อย อันนี้ก็ต้องเตรียมใจไว้เหมือนกัน

 

กลุ่มที่ 3: ลาคลอดตามหมอสั่ง ปลอดภัยไว้ก่อนเพื่อลูก!

คุณแม่บางคนอาจไม่ได้เลือกวันลาคลอดเองค่ะ แต่คุณหมอเป็นคนสั่งให้ลา! เคสนี้มักจะเกิดกับคุณแม่ที่มีภาวะสุขภาพบางอย่าง ที่คุณหมอวินิจฉัยแล้วว่าต้องดูแลเป็นพิเศษ หรือต้องพักผ่อนเยอะๆ ค่ะ เช่น มีภาวะครรภ์เป็นพิษ ครรภ์แฝด ภาวะรกเกาะต่ำ หรือมีความเสี่ยงสูงที่จะคลอดก่อนกำหนด คุณหมอจะประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและให้คำแนะนำวันลาที่เหมาะสมที่สุด เพื่อความปลอดภัยของทั้งคุณแม่และลูกน้อยค่ะ

ข้อดีที่ชัดเจนที่สุดคือ การทำตามที่คุณหมอแนะนำจะช่วยให้ปลอดภัยต่อทั้งแม่และลูกมากที่สุดเลยค่ะ การที่เราได้พักผ่อนและรับการดูแลอย่างใกล้ชิด จะช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ดีเยี่ยมค่ะ สบายใจที่สุดเรื่องความปลอดภัยนี่แหละ!

แต่ก็มีข้อที่ต้องเตรียมใจไว้เหมือนกัน คือเราอาจจะต้องลาเร็วกว่าที่วางแผนไว้ค่ะ ซึ่งอาจทำให้ตารางการทำงานหรือแผนส่วนตัวที่วางไว้ต้องเปลี่ยนไปหมดเลย และบางทีก็อาจจะส่งผลกระทบต่อจำนวนวันลาที่เราจะเหลือไว้ใช้หลังคลอดด้วย แต่เชื่อเถอะค่ะว่าเพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย อะไรก็ยอมได้!

 

ไม่ว่าคุณแม่จะตัดสินใจลาคลอดเมื่อไหร่ สิ่งสำคัญที่สุดคือการ รับฟังร่างกายของตัวเอง ปรึกษาแพทย์อย่างสม่ำเสมอ และสื่อสารกับนายจ้างอย่างเปิดเผย เพื่อให้การลาคลอด เป็นไปอย่างราบรื่นที่สุดค่ะ

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

แม่ท้อง ลาคลอดได้กี่วัน รวมทุกเรื่องที่สงสัยเกี่ยวกับการลาคลอด ปี 2568

โหลดฟรี! Checklist 70 ของใช้เด็กแรกเกิด เตรียมพร้อมต้อนรับเบบี๋

โหลดฟรี! Checklist เตรียมของไปคลอด จัดกระเป๋าเตรียมคลอด ต้องมีอะไรบ้าง

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!