Insight การซื้อของออนไลน์ของแม่ไทย ถึงคุณภาพแน่น ราคาได้ แต่ถ้า “บริการ” ไม่เวิร์ก ก็พร้อมคอนเวิร์สทันที!

Digital Mom Survey 2024 โดย theAsianparent เจาะลึก การซื้อของออนไลน์ของแม่ไทย แบบ insight ถอดพฤติกรรมจับจ่ายของคุณแม่ผ่านช่องทางออนไลน์ คุณภาพ ราคา และการบริการ ต้องมาพร้อมกัน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

คุณภาพของสินค้าและราคาคงที่ นับเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้คุณแม่ชาวไทยพร้อมพลีใจเป็น Brand Loyalty ได้มากถึง 79% ก็จริง แต่ความจริงในอีกด้านหนึ่งกลับพบว่า “การบริการ” กลายเป็นตัวแปรที่น่ายำเกรงในแง่ของการทำให้ลูกค้าที่เป็นคุณแม่ “แปรพักตร์” ไปจากแบรนด์ได้ โดยมีลูกค้าขาประจำเพียง 36% เท่านั้นที่จะไปต่อกับแบรนด์หากได้รับการบริการที่ดี แต่คุณแม่ Brand Loyalty มากถึง 43% พร้อมจะสวมคอนเวิร์สหนีไปทันทีเมื่อได้รับการบริการอันไม่น่าพึงพอใจ

 

จากข้อมูล Digital Mom Survey 2024 ของ theAsianparent Thailand ซึ่งเชื่อมโยงเชิงลึกถึงการจับจ่ายใช้สอยผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ของคุณแม่ยุคดิจิทัล พบว่า สินค้าที่คุณแม่นิยมซื้อผ่านช่องทางออนไลน์มากที่สุดคือ ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก 48% โดยเฉพาะสินค้าที่มีส่วนสำคัญในการดูแลสุขอนามัยของลูกน้อย รองลงมาคือของใช้และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน 24% เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย 14% สินค้าสุขภาพและความงาม 9% ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วคุณแม่จะใช้จ่ายเงินไปกับสินค้าออนไลน์ประมาณ 1,500-3,000 บาทต่อเดือน

อย่างไรก็ตาม คุณแม่ยุคนี้มักซื้อของออนไลน์ด้วยความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการจัดส่ง ดังนั้น บริการส่งฟรีของสินค้าคุณภาพดี ที่มาพร้อมโปรโมชั่น ส่วนลด จึงยังคงมีผลสูงสุดต่อการตัดสินใจที่จะจับจ่ายใช้สอยอย่างคุ้มค่า

 

โดยคุณแม่ส่วนใหญ่จะเลือกซื้อสินค้าออนไลน์จากโปรโมชั่น ส่วนลด และราคา 54% มากกว่าคุณภาพของสินค้า ที่อยู่ที่ 14% รีวิวจากผู้ใช้จริง 14% และบริการส่งฟรี 14% ซึ่งสิ่งที่มีอิทธิพลต่อการพิจารณา “เลือก” ผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์ต่าง ๆ ก่อนจ่ายเงินซื้อสินค้า คือ ความเห็นและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ 87% รองลงมาคือการบอกต่อจากครอบครัว ญาติหรือเพื่อน 83% การสาธิตผลิตภัณฑ์ 70% ประสบการณ์จากคุณแม่ที่ใช้จริงในคอมมูนิตี้ออนไลน์ต่างๆ 69% นอกจากนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าอินฟลูเอนเซอร์และการประชาสัมพันธ์แบบ KOL กลับมีผลต่อการตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์ของคุณแม่น้อยที่สุดที่ 47%

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ทั้งนี้ กุญแจสำคัญที่เป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดการซื้อสินค้าของคุณแม่ คือ คุณภาพของสินค้า 87% รองลงมาเป็นเรื่องของราคา 67% การมี impact กับครอบครัว 34% ขณะที่การรีวิวทางออนไลน์มีผลเพียง 25%

ขณะเดียวกัน หากมองในมุมของความภักดีในแบรนด์ (Brand Loyalty) กลับพบว่า “การบริการ” ได้กลายมาเป็นปัจจัยที่สร้างความอ่อนไหวให้กับการ “เลือก” ใช้จ่ายเงินของคุณแม่ค่อนข้างมาก คือ 36% หากพอใจในการบริการจะยังคงซื้อสินค้าต่อเนื่อง แต่เมื่อไรก็ตามที่คุณแม่ได้รับการบริการที่ไม่น่าประทับใจ เปอร์เซ็นต์ตัวเลขที่มีส่วนต่อการตัดสินใจหันหลังให้กับแบรนด์ก็มีสูงมากกว่าถึง 43% ยิ่งในกรณีที่สินค้ามีการปรับขึ้นราคาด้วยแล้ว มีความเป็นไปได้สูงมากว่าคุณแม่จะเลือกแปรพักตร์ไปซบแบรนด์ใหม่ที่คุณภาพใกล้เคียง แต่ราคามีความเสถียรและคงที่มากกว่า รวมถึงการบริการที่ดีกว่าด้วย

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

นอกจากนี้ พฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าออนไลน์ของคุณแม่ในปัจจุบันนั้น ได้ให้ความสำคัญกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก โดยยังคงมีการมองหาผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก รวมถึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งนอกจากเรื่องคุณภาพสินค้า ราคา และการบริการแล้ว ปัจจัยเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมข้างต้นก็นับว่ามีส่วนสำคัญในการสร้างความภักดีต่อแบรนด์ได้เช่นกัน หากสามารถตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ ก็จะเป็นการสร้างความประทับใจให้คุณแม่กลับมาซื้อซ้ำได้แน่นอน

 

ไม่เพียง Brand Loyalty ที่มองข้ามไม่ได้ ข้อมูลเชิงลึกเรื่องการใช้จ่ายบนโลกออนไลน์ของคุณแม่ยุคใหม่ที่ theAsianparent Thailand ไปเจาะมานั้น ยังมีอีกหลากหลายเรื่องราวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะเรื่องของแพลตฟอร์มที่นิยมใช้งาน ที่คุณแม่ส่วนใหญ่จะชื่นชอบการซื้อสินค้าออนไลน์เป็นประจำ และพร้อมจะใช้จ่ายมากขึ้นสำหรับสินค้าที่มีมูลค่าสูง หรือการซื้อจำนวนมาก เฉลี่ยแล้วจะมีการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ประมาณ 2 ครั้งต่อเดือน

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

สำหรับแพลตฟอร์มที่ได้ใจคุณแม่ไปมากที่สุดคือ Shopee ในสัดส่วน 57% ซึ่งแม่ ๆ หลายคนซื้อสินค้าออนไลน์บ่อยขึ้นเรื่อย ๆ ถึงสัปดาห์ละครั้ง ในค่าจ่ายเฉลี่ย 1,500-5,000 บาทต่อเดือน ส่วนแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมรองลงมาคือ TikTok Shop 22% และ Lazada 19% โดยการซื้อของบนช่องทาง TikTok กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และแม้ยอดใช้จ่ายต่อครั้งจะน้อยกว่า Shopee แต่ความถี่ในการซื้อกลับมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งมีคุณแม่หลายบ้านเลยที่ซื้อสินค้าบน TikTok Shop มากถึงสัปดาห์ละครั้ง

ส่วนเรื่องการเลี้ยงลูกนั้น คุณแม่ยุคนี้ยังคงมีความเชื่อมั่นและค้นหาข้อมูลการเลี้ยงลูกจากเว็บไซต์มากที่สุด 65% คอมมูนิตี้ 30% แอปพลิเคชัน 20% โดยเน้นการค้นข้อมูลเกี่ยวกับอาหารและโภชนาการมากที่สุด 53% รองลงมาเป็นการใช้เวลาหน้าจอ 49% ซึ่งใกล้เคียงกับการเข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์ที่ 48% ขณะที่ช่องทางออนไลน์หลักที่คุณแม่ใช้ในการรับข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ คือ Facebook และ TikTok โดยเฉพาะ Facebook ยังคงเป็นช่องทางหลักที่แบรนด์สามารถสื่อสารและสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

โดยมีคุณแม่ 9 ใน 10 คน ยอมรับว่า การสื่อสารในหลากหลายช่องทางหลักของแบรนด์มีความสำคัญต่อการที่ทำให้คุณแม่มีส่วนร่วมกับแบรนด์ และส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ ซึ่งสิ่งที่คุณแม่ต้องการเห็นแบรนด์นำเสนอคือ ความชัดเจนในเรื่องประโยชน์ที่ลูกน้อยจะได้รับ ความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ และความคุ้มค่าที่ได้รับ คิดเป็น 81% ความคุ้มค่า 44% ประสบการณ์ตรงของคุณแม่คนอื่นที่ใช้สินค้า 39% หากแบรนด์สามารถสื่อสารข้อมูลเหล่านี้ได้ตรงจุด จะส่งผลในการกระตุ้นให้คุณแม่ตัดสินใจซื้อได้มากขึ้น

 

นอกจากสิ่งที่แบรนด์สื่อสารแล้ว ความน่าเชื่อถือและคำแนะนำที่มีประโชน์ก็มีส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจซื้อเช่นกัน โดยผู้ที่มีอิทธิพลทำให้คุณแม่ “เชื่อ” จนยอม “ใช้จ่าย” ก็คือ คุณแม่คนอื่น ๆ ที่เคยใช้ผลิตภัณฑ์นั้นมาก่อน มากถึง 63% รองลงมาคือคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ 59% รูปภาพและรายละเอียดของสินค้า 58% และวิดีโอสาธิตการใช้ผลิตภัณฑ์ 34%

 

จะเห็นได้ว่า สิ่งที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อนั้น มีความแตกต่างเล็กน้อยจากปัจจัยที่คุณแม่ใช้เป็นฐานข้อมูลในการพิจารณาก่อนซื้อ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจะมีเปอร์เซ็นต์ที่มีผลต่อการเลือกสินค้าและแบรนด์มากกว่าคุณแม่ที่มีประสบการณ์ใช้งานผลิตภัณฑ์ ที่ 87% และ 69% ตามลำดับ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

โดยในท้ายที่สุดแล้ว ด้วยสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน สิ่งที่คุณแม่ยังคงให้ความสำคัญและนำมาเป็นเหตุผลหลักในการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตามสำหรับลูกน้อย ตนเอง และครอบครัว ยังคงมีเรื่องของ คุณภาพ ราคา และการบริการอันน่าพึงพอใจเข้าวินมาเป็นอันดับแรก ๆ เสมอ และสิ่งเหล่านี้แหละคือโจทย์ที่ทุกแบรนด์ต้องตอบให้ตรงคำถาม

บทความโดย

จันทนา ชัยมี