ทำอย่างไรไม่ให้ลูกหัวแบน
ศีรษะของทารกแรกเกิดบางคนที่อาจเกิดมามีรูปทรงที่ไม่ทุยสวย กลัวว่าลูกจะหัวแบน ทำอย่างไรไม่ให้ลูกหัวแบน อยากให้ลูกหัวสวยคุณแม่มีส่วนช่วยได้นะคะ
สาเหตุที่ทำให้ทารกบางคนเกิดมาหัวไม่ทุยหรือหัวแบน
- อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่แรกเกิด จากการถูกกดทับของมดลูกต่อกะโหลกท้ายทอยทารกเป็นเวลานาน และมักเกิดขึ้นกับแม่ทั้งตั้งครรภ์ลูกแฝด
- เกิดจากการใช้อุปกรณ์ช่วยในการคลอด เช่น ใช้คีมหรือเครื่องสูญญากาศ ที่มักใช้กับทารกในกรณีที่คลอดก่อนกำหนดมากกว่าการคลอดตามปกติ เนื่องจากกะโหลกศีรษะจะมีความอ่อนนุ่มมากกว่า
- เกิดจากท่าที่คุณแม่ให้ลูกนอนในตำแหน่งที่ทำให้กะโหลกศรีษะของทารกถูกกดทับจากด้านใดด้านหนึ่งนานเกินไป จะทำให้กะโหลกท้ายทอยแบนหรือเบี้ยว เนื่องมาจากกระดูกของเด็กแรกเกิดเป็นกระดูกที่มีความอ่อน
ทำอย่างไรไม่ให้ลูกน้อยหัวแบน
ในปัจจุบันศีรษะของเด็กบางคนจะมีรูปทรงแบนมากขึ้น เนื่องจากทางการแพทย์แนะนำให้ทารกควรได้นอนหงายมากกว่านอนคว่ำ เพื่อป้องกันภาวะ SIDS (Sudden Death Syndrome) หรือโอกาสที่เด็กจะเสียชีวิตขณะนอนหลับ ซึ่งภาวะหัวแบนนั้นไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใดนะคะ เพียงแต่จะส่งผลกับความสวยงามของรูปศีรษะเท่านั้น แต่ถ้าอยากให้ลูกหัวสวย มีคำแนะนำง่ายๆ ดังนี้ค่ะ
1.จัดท่านอนให้ลูกนอนหงายโดยหัวศีรษะตะแคงข้างสลับไปมาซ้ายบ้าง ขวาบ้าง หรือจัดท่านอนลูกตะแคงสลับซ้าย-ขวา ไม่ปล่อยให้ลูกนอนตำแหน่งเดิมตลอดเวลาหรือนานเกินไป
2.ช่วงที่ลูกตื่นอย่าปล่อยให้ตัวเล็กนอนท่าง่ายเพียงอย่างเดียวนะคะ คุณแม่ลองจัดท่าอื่น ๆ ด้วย เช่น คว่ำชันคอ ตะแคง หรืออุ้มลูกขึ้นซบไหล่มา
3.การอุ้มลูกก็ควรสลับข้างไปมาซ้าย-ขวาเช่นกัน หรือหากอุ้มลูกออกไปเดินเล่น สำหรับทาที่คอแข็งแล้วคุณแม่สามารถใช้เป้อุ้มเด็ก เพื่อให้คอและหัวของลูกเป็นอิสระ
4.ไม่ควรให้ทารกนอนในคาร์ซีทหรือรถเข็นเด็กนานเกินไป
5.แม้ว่าการให้ลูกได้นอนคว่ำ ช่วยทำให้ลูกหัวทุยได้ก็จริง แต่ค่อนข้างอันตรายโดยเฉพาะกับทารกในช่วงสามเดือนแรก เพราะลูกน้อยยังไม่สามารถพลิกตัวเองได้ อาจทำให้เด็กขาดอากาศหายใจได้ ดังนั้นการให้ลูกได้นอนคว่ำพ่อแม่ควรดูแลอย่างใกล้ชิดนะคะ หรืออาจพลิกสลับมานอนท่าตะแคง เมื่อลูกอายุ 4-6 เดือน คอจะเริ่มแข็งขึ้น ก็สามารถจัดให้ลูกนอนคว่ำ เพื่อช่วยปรับศีรษะให้หัวทุยจากการไม่ถูกกดทับในเวลานอนได้อย่างปลอดภัย หลังจาก 7 เดือนหัวลูกจะแข็งขึ้น ก็สามารถปรับท่านอนได้ทั้ง 3 ท่า ไม่ว่าจะนอนคว่ำ นอนหงาย หรือนอนตะแคง
อยากให้ลูกหัวสวย ไม่แบน ลองจัดท่านอนลูกน้อยให้ถูกวิธีดูนะคะ แล้วช่วยกันแชร์บทความนี้ส่งต่อไปให้ถึงคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ท่านอื่น ๆ กันนะคะ
ถ้าหากถามว่านอนท่าไหนถึงจะดีและปลอดภัย ป้องกันอันตรายจากการนอนที่ไม่คาดคิด
เรามีเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆ ให้คุณพ่อคุณแม่คอยสังเกตการณ์ใกล้ๆมาฝากกันค่ะ อันนี้สำหรับเด็กแรกเกิดจนถึงหนึ่งปีนะคะ
ท่านอนทารกแรกเกิด-1 ปี
เด็กแรกเกิด–4 เดือน ควรนอนตะแคงหรือนอนหงาย เป็นท่าที่เหมาะกับพัฒนาการของกล้ามเนื้อคอที่ยังไม่ค่อยแข็งแรง ทำได้เพียงหันซ้ายและขวา สามารถมองเห็นสิ่งแวดล้อมรอบตัวและฝึกการมองได้
- ท่านอนที่เหมาะสมสำหรับเด็กคือ นอนด้วยท่านอนหงาย ไม่ใช่นอนคว่ำ เพราะอาจอุดกลั้นทางเดินหายใจ และอันตรายแบบที่ด้านบนได้กล่าวไว้
- หากต้องการให้เด็กหัวทุย ก็จัดท่านอนตะแคงซ้ายและขวาสลับกันกันไป โดยให้เด็กนอนกอดหมอนข้างเพื่อป้องกันการคว่ำหน้า
- การจัดท่านอนของเด็กต้องดูช่วงอายุ และลองเปลี่ยนท่านอนให้เรื่อย ๆ เพื่อหาท่านอน ที่เด็กนอนแล้วหลับสบายที่สุดค่ะ
เด็กวัย 5–6 เดือน สามารถนอนคว่ำได้ และเด็กยกคอได้แล้วเพราะกระดูกคอเริ่มแข็ง แต่ยังต้องเฝ้าดูอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา เพราะอาจเกิดการอุดกลั้นการหายใจได้ เด็กวัย 7-12 เดือน สามารถนอนได้ทุกท่า เพราะเด็กพลิกตัวด้วยตนเองได้แล้ว
- ทารกแรกเกิดกล้ามเนื้อคอและหลัง ยังไม่แข็งแรง
- นอนหงาย ท่านอนที่ปลอดภัยสำหรับทารก
- อุ้มลูกพาดบ่า ท่าที่คุณแม่มือใหม่ต้องหัดให้เป็น สำหรับท่านี้คุณพ่อคุณแม่อาจจะฝึกอุ้มตุ๊กตาก่อนได้ค่ะ
- ฝึกลูกให้คอแข็งได้ด้วยการให้ลูกนอนคว่ำ อาจจะเริ่มจากวันละ 5 นาทีแล้วค่อยๆเพิ่มเอานะคะ
- เมื่อทารกมีอายุ 7 เดือนขึ้นไป คุณแม่สามารถจัดท่านอนทารกได้ทั้งท่านอนหงาย นอนตะแคง และนอนคว่ำได้หมดทั้ง 3 ท่านอน เพราะทารกสามารถจะพลิกตัวได้เองแล้ว โดยไม่ควรให้ทารกนอนบนที่นอนหรือฟูกที่มีความนุ่มหรือยุบตัวมากจนเกินไป เพื่อให้ทารกสามารถพลิกตัวได้ง่าย ลำตัวและศีรษะไม่จมลงไปกับที่นอน
นอกจากจัดท่านอนที่เหมาะสมแล้วที่นอนก็ต้องปลอดภัยด้วยนะคะ
- แยกที่นอนมาอยู่ด้านข้างผู้ใหญ่ด้วยระยะห่างประมาณเอื้อมมือถึง
- ไม่นอนระหว่างผู้ใหญ่หรือติดชิดกับผู้ใหญ่ เพราะอาจเผลอนอนเบียดหรือทับเด็กจนหายใจไม่ออก หรือโดนผ้าห่ม หมอนของพ่อแม่ทับเด็กโดยไม่รู้ตัว
- ที่นอนเด็กควรสูงประมาณ 2 ฟุต และไม่นิ่มจนเกินไป
- หากจำเป็นต้องนอนด้วยเตียงนอน ควรมีที่กันตก รั้วขอบของเตียงต้องมีระยะห่างของซี่รั้วน้อยกว่า 15 เซนติเมตร
- ขนาดที่นอนต้องที่พอดีกับเตียง เพื่อไม่ให้มีช่อง เพราะศีรษะของลูกอาจไปติดซี่รั้วของขอบเตียงได้
ที่มา : happymom
บทความเกี่ยวข้องที่น่าสนใจ :
ลูกนอนท่าไหนหัวสวย จัดท่านอนให้ทารกแรกเกิดหัวทุย และปลอดภัย
ไม่ตายก็พิการ!! เขย่า เหวี่ยง จับหัวแรง อย่าทำแบบนี้กับทารก เด็ดขาด!!
5 เรื่องความปลอดภัยของเบบี๋ที่แม่ต้องระวัง
The Asianparent Thailand เว็บไซต์และคอมมูนิตี้อันดับหนึ่งที่คุณแม่เลือก นอกจากสาระความรู้ที่เรามอบให้คุณแม่ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ การวางแผนมีลูกแล้ว เรายังมีแอพพลิเคชั่นรวมถึงสื่อมัลติมีเดียหลากหลายที่ช่วยตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณแม่ยุคใหม่ ที่ต้องทำงานและดูแลลูกไปพร้อมกัน ให้มีความมั่นใจและพร้อมในการดูแลลูกทุกช่วงเวลา ตั้งแต่การให้นมบุตร การดูแลตนเองหลังคลอด ท่าออกกำลังกายหลังคลอดเพื่อให้หุ่นของแม่หลังคลอดกลับมาฟิตแอนเฟิร์มอีกครั้ง The Asianparent Thailand ขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะสนับสนุนคุณพ่อคุณแม่ในเรื่องการดูแลลูก ความรู้แม่และเด็กที่เต็มเปี่ยม และตอบทุกข้อสงสัยในแอพพลิเคชั่นที่เป็นสื่อกลาง และกิจกรรมส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัวไทย
The Asian parent Thailand The Asian parent Thailand The Asian parent Thailand The Asian parent