ให้นมลูกกินน้ำเย็นได้ไหม เครื่องดื่มที่แม่ให้นมควรดื่ม vs ควรเลี่ยง

ให้นมลูกกินน้ำเย็นได้ไหม ให้นมลูกกินน้ำเย็น ทำให้น้ำนมหดจริงไหม? ปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลต่อปริมาณและคุณภาพของน้ำนมแม่

ให้นมลูกกินน้ำเย็นได้ไหม ให้นมลูกกินน้ำเย็น ทำให้น้ำนมหดจริงไหม? เป็นคำถามที่คุณแม่หลายคนสงสัยและกังวลใจ ความเชื่อเหล่านี้ถูกถ่ายทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น แต่ความจริงแล้วเป็นอย่างไร? มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาสนับสนุนหรือไม่?

บทความนี้จะพาคุณแม่ไปไขข้อข้องใจเกี่ยวกับความเชื่อที่ว่า การให้นมลูกกินน้ำเย็นจะส่งผลเสียต่อลูกน้อย โดยเราจะพยายามอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ว่า ให้นมลูกกินน้ำเย็นได้ไหม ปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลต่อปริมาณและคุณภาพของน้ำนมแม่ เพื่อให้คุณแม่มั่นใจและอุ่นใจในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้อย่างเต็มที่ค่ะ

 

แม่ให้นมควรดื่มน้ำวันละกี่แก้ว

คุณแม่มือใหม่มักได้ยินคำแนะนำมากมายเกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังคลอด หนึ่งในนั้นคือเรื่องการดื่มน้ำ โดยทั่วไปแล้ว คุณแม่ควรดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน เพื่อช่วยให้ร่างกายผลิตน้ำนมได้เพียงพอและป้องกันอาการท้องผูก หากอากาศร้อนก็สามารถดื่มน้ำเพิ่มได้อีก ซึ่งจะช่วยให้การหลั่งน้ำนมดีขึ้น หากดื่มน้ำเพียงพอ ปัสสาวะควรเป็นสีเหลืองอ่อน หากเป็นสีเข้ม แสดงว่าคุณแม่ได้รับน้ำไม่เพียงพอและจำเป็นต้องเพิ่มปริมาณน้ำที่ดื่มเข้าไปค่ะ

 

ความเชื่อที่ว่าการดื่มน้ำเย็นจะทำให้น้ำนมหด

ให้นมลูกกินน้ำเย็นได้ไหม แม่ให้นมดื่มน้ำเย็นจะทำให้น้ำนมหด จริงไหม? เรามีความเชื่อที่สืบทอดกันมานานว่า อุณหภูมิของของเหลวส่งผลต่อร่างกาย และถูกนำมาเชื่อมโยงกับการผลิตน้ำนมแม่ คุณแม่หลังคลอดห้ามกินน้ำเย็นจะทำให้น้ำนมหด การดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำร้อนจะทำให้น้ำนมไหลดี ทั้งนี้ ความเชื่อดังกล่าว อาจเกิดจากประสบการณ์ส่วนบุคคล บางครั้งคุณแม่อาจสังเกตเห็นว่าหลังจากดื่มน้ำเย็น ปริมาณน้ำนมในครั้งต่อไปอาจดูน้อยลง ซึ่งอาจเป็นเพียงความบังเอิญ หรืออาจเกิดจากปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 

 

การดื่มน้ำเย็นส่งผลต่อทารกหรือไม่?

ในปัจจุบัน ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนว่าการดื่มน้ำเย็นจะส่งผลเสียต่อการผลิตน้ำนมหรือสุขภาพของทั้งแม่และลูกแต่อย่างใด ทั้งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็ก และองค์กรสุขภาพทั่วโลกต่างยืนยันว่า อุณหภูมิของน้ำที่คุณแม่ดื่มไม่มีผลโดยตรงต่อปริมาณหรือคุณภาพของน้ำนมแม่

คุณแม่สามารถดื่มน้ำเย็น น้ำแข็งได้ตามปกติ  นอกจากนี้ ร่างกายของคุณแม่มีระบบที่ช่วยรักษาอุณหภูมิของน้ำนมให้อุ่นเสมอ และยังคงผลิตสารอาหารและภูมิต้านทานที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของลูกน้อยได้อย่างเพียงพอค่ะ

 

ให้นมลูกกินน้ำเย็นได้ไหม

การดื่มน้ำเย็นหลังคลอดทำให้การฟื้นตัวช้าลงจริงหรือ?

ความเชื่อที่ว่าการดื่มน้ำเย็นหลังคลอดจะทำให้ร่างกายฟื้นตัวช้านั้นเป็นความเชื่อเก่าที่ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สนับสนุน จริงๆ แล้ว การดื่มน้ำเย็นจะไม่ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของคุณหลังคลอดโดยตรง เว้นแต่ว่าคุณแม่จะมีอาการแพ้ความเย็น หรือร่างกายของคุณแม่ไม่แข็งแรงอยู่แล้ว ยิ่งบ้านเราเป็นเมืองร้อนการดื่มน้ำเย็นจะช่วยให้สดชื่นและดับกระหายได้ดีกว่าน้ำอุ่น

ดังนั้น คุณแม่หลังคลอดสามารถดื่มน้ำเย็น น้ำแข็งได้ตามปกติ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องผลกระทบต่อการผลิตน้ำนม เพียงแค่ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อสุขภาพที่ดีของทั้งแม่และลูกค่ะ

 

ดื่มน้ำอุ่นช่วยเพิ่มน้ำนมจริงไหม?

ในเมื่อน้ำเย็นไม่มีผลทำให้น้ำนมหด แล้วน้ำอุ่นมีผลให้น้ำนมเพิ่มหรือไม่? อุณหภูมิของน้ำไม่มีผลต่อการผลิตน้ำนม ดังนั้น การดื่มน้ำอุ่นจึงไม่มีผลในการช่วยเพิ่มน้ำนมเช่นเดียวกัน

 

ปัจจัยที่มีผลต่อกระบวนการผลิตน้ำนมแม่

ผลการศึกษาและงานวิจัยต่างๆ พบว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อปริมาณน้ำนมนั้นมีความซับซ้อนมากกว่าแค่เพียงอุณหภูมิของน้ำที่ดื่ม เช่น

  1. ความถี่ในการให้นมลูก: การให้นมลูกบ่อยๆ และตามความต้องการของลูกน้อย จะช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำนมได้อย่างต่อเนื่อง
  2. การพักผ่อน: การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการผลิตน้ำนมได้ดีขึ้น
  3. โภชนาการ: การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และครบถ้วน จะช่วยให้ร่างกายมีสารอาหารเพียงพอในการผลิตน้ำนม
  4. สุขภาพจิต: ความเครียดและความวิตกกังวลอาจส่งผลต่อการผลิตน้ำนมได้
  5. ยา: ยาบางชนิดอาจมีผลข้างเคียงที่ส่งผลต่อการผลิตน้ำนม

 

คำถามที่พบบ่อยของคุณแม่ให้นมลูก

แม่ให้นมดื่มน้ำผลไม้ได้ไหม 

คุณแม่สามารถดื่มน้ำผลไม้ในช่วงให้นมลูกได้ น้ำผลไม้มีวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย อีกทั้ง น้ำผลไม้มีรสชาติเปรี้ยวหวาน ช่วยให้คุณแม่รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และน้ำผลไม้ยังมีน้ำตาลธรรมชาติ ซึ่งสามารถให้พลังงานแก่ร่างกายอีกด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม การดื่มน้ำผลไม้ในช่วงให้นมลูก ควรเลือกดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ และมีข้อควรระวังดังนี้

  • เลือกน้ำผลไม้ที่คั้นสดใหม่: น้ำผลไม้ที่คั้นสดใหม่จะได้วิตามินและแร่ธาตุที่ครบถ้วนมากกว่าน้ำผลไม้บรรจุขวดหรือกระป๋อง ซึ่งมักจะเติมน้ำตาลเข้าไป
  • เจือจางด้วยน้ำสะอาด: หากน้ำผลไม้รสชาติเข้มข้นเกินไป สามารถเจือจางด้วยน้ำสะอาดเพื่อลดความหวาน
  • หลีกเลี่ยงน้ำผลไม้ที่มีส่วนผสมของน้ำตาล: น้ำผลไม้บางชนิดอาจมีการเติมน้ำตาลหรือสารให้ความหวาน ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อย
  • สังเกตอาการของลูกน้อย: หลังจากดื่มน้ำผลไม้ชนิดใหม่ ควรสังเกตอาการของลูกน้อยอย่างใกล้ชิด หากลูกน้อยมีอาการผิดปกติ เช่น ผื่นคัน ท้องเสีย ควรหยุดดื่มทันทีและปรึกษาแพทย์

 

เครื่องดื่มคุณแม่หลังคลอด แม่ให้นมลูก ดื่มอะไรได้? ดื่มอะไรไม่ได้?

การเลือกเครื่องดื่มในช่วงให้นมลูกเป็นเรื่องสำคัญและมักจะเป็นกังวล เพราะสิ่งที่คุณแม่ดื่มเข้าไปจะส่งผลต่อคุณภาพของน้ำนมและสุขภาพของลูกน้อยด้วย

เครื่องดื่มที่คุณแม่ควรดื่ม

  1. น้ำเปล่า: เป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับร่างกาย เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบหลักของน้ำนม เมื่อร่างกายได้รับน้ำเพียงพอ การผลิตน้ำนมก็จะราบรื่นขึ้น นอกจากนี้ น้ำยังช่วยในการขับถ่ายของเสีย ช่วยให้ร่างกายสดชื่น และควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
  2. น้ำผลไม้คั้นสด: อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ โดยเฉพาะวิตามินซี ซึ่งช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ทั้งคุณแม่และลูกน้อย นอกจากนี้ น้ำผลไม้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์
  3. น้ำมะพร้าว: เป็นเครื่องดื่มธรรมชาติที่มีประโยชน์มากมาย อุดมไปด้วยโพแทสเซียม ช่วยในการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ช่วยให้ร่างกายเย็น ช่วยบำรุงผิวพรรณ และยังช่วยเพิ่มน้ำนมอีกด้วย
  4. น้ำซุป: น้ำซุปจากกระดูกหรือเนื้อสัตว์ มีคอลลาเจนและโปรตีนสูง ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย และช่วยให้ร่างกายอบอุ่น
  5. ชาสมุนไพร: ชาสมุนไพรบางชนิด เช่น ชามะขามป้อม ชาเขียว มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ และยังช่วยให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลาย
  6. นม: นมเป็นแหล่งโปรตีน แคลเซียม และวิตามินดี ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างกระดูกและฟันของทั้งคุณแม่และลูกน้อย หากแพ้นมวัว สามารถเลือกดื่มนมทางเลือกอื่น เช่น นมถั่วเหลือง นมอัลมอนด์

แม่ให้นมลูกควรดื่มนมวันละกี่แก้ว

แม่ให้นมลูกควรดื่มนมให้ได้วันละ 2-3 แก้ว เพราะนมมีส่วนประกอบของน้ำและสารอาหารที่ร่างกายดูดซึมได้ง่ายขึ้น หากไม่สามารถดื่มนมวัได้ อาจจะดื่มนมถั่วเหลืองแทน แต่ควรรับประทานเนื้อสัตว์ ไข่ หรือถั่วเมล็ดแห้งให้มากขึ้น

 

เครื่องดื่มที่แม่ให้นมไม่ควรกิน

เครื่องดื่มที่แม่ให้นมควรหลีกเลี่ยง

  1. เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
  • แอลกอฮอล์ที่คุณแม่ดื่มเข้าไปจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด และสามารถผ่านเข้าสู่เต้านมได้ ทำให้ลูกน้อยที่ดูดนมได้รับแอลกอฮอล์ไปด้วย ซึ่งเป็นอันตรายต่อพัฒนาการของสมองและระบบประสาทของลูกน้อย
  • ผลกระทบต่อลูกน้อย: แอลกอฮอล์อาจทำให้ลูกน้อยง่วงซึม ซึมเศร้า หายใจลำบาก และในระยะยาวอาจส่งผลต่อพัฒนาการทางด้านสติปัญญาและร่างกาย
  1. เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
  • คาเฟอีน (กาแฟ ชา น้ำอัดลม นมช็อกโกแลต) เป็นสารกระตุ้นประสาท ควรหลีกเลี่ยง หรืออย่างน้อยจำกัดการดื่มไม่เกิน 2 แก้วหรือ 1 ถ้วยขนาด 8 ออนซ์ต่อวัน เมื่อคุณแม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน คาเฟอีนจะผ่านเข้าสู่เต้านม และทำให้ลูกน้อยตื่นตัว นอนไม่หลับ เกิดอาการหงุดหงิด และร้องไห้บ่อย
  • ผลกระทบต่อลูกน้อย: คาเฟอีนยังอาจส่งผลต่อการย่อยอาหารและการดูดซึมสารอาหารของลูกน้อยได้อีกด้วย
  1. เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง
  • น้ำตาลในปริมาณมากจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณแม่สูงขึ้น และอาจส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดของลูกน้อยได้ นอกจากนี้ น้ำตาลยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดฟันผุในเด็ก
  • ผลกระทบต่อลูกน้อย: การบริโภคน้ำตาลมากเกินไปในระยะยาวอาจทำให้ลูกน้อยมีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนได้
  1. เครื่องดื่มที่มีสารปรุงแต่ง
  • สารปรุงแต่งต่างๆ เช่น สีผสมอาหาร วัตถุกันเสีย อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ในลูกน้อยได้ โดยเฉพาะในลูกน้อยที่เพิ่งเกิดใหม่ ระบบภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรงพอ
  • ผลกระทบต่อลูกน้อย: อาการแพ้ที่เกิดขึ้นอาจแสดงออกในรูปแบบต่างๆ เช่น ผื่นคัน คันคอ อาเจียน ท้องเสีย หรือหอบหืด

 

เราหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อคุณแม่ในการเลือกเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ในช่วงให้นมลูก เพื่อให้ลูกน้อยได้รับสารอาหารที่เหมาะสมและเติบโตอย่างแข็งแรงนะคะ

ที่มา : คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล , parenting.firstcry.com , uhhospital , โรงพยาบาลนครธน

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

5 เครื่องดื่มคุณแม่หลังคลอด ฟื้นฟูร่างกาย บำรุงน้ำนมเพื่อลูกน้อย

เป็นมั้ย? ให้นมลูกหิวบ่อย เปิดเหตุผลที่คุณแม่หลังคลอดหิวง่าย กินบ่อย

ให้นมลูกกินน้ำอัดลมได้ไหม กระทบต่อการให้นมลูกหรือเปล่า

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!