เช็กอาการ! โควิด สายพันธุ์ XEC พร้อมเฝ้าระวังลูกน้อยช่วงเปิดเทอม

undefined

เปิดเทอมนี้ เตรียมรับมือ โควิด สายพันธุ์ XEC และไข้หวัดใหญ่ในเด็ก ด้วยมาตรการสุขอนามัยที่ดี และสังเกตอาการลูกน้อยอย่างใกล้ชิด

เปิดเทอมนี้ เตรียมรับมือ โควิด สายพันธุ์ XEC และไข้หวัดใหญ่ในเด็ก ด้วยมาตรการสุขอนามัยที่ดี และสังเกตอาการลูกน้อยอย่างใกล้ชิด

 

สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย: แนวโน้มผู้ป่วยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในเด็กเล็ก

กรมควบคุมโรค รายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 14 พฤษภาคม 2568 ว่าพบผู้ป่วยสะสม 71,067 ราย และมีผู้เสียชีวิต 19 ราย โดยมีแนวโน้มผู้ป่วยสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และพบการระบาดแบบกลุ่มก้อนชัดเจนขึ้นหลังช่วงเทศกาลสงกรานต์

ข้อมูลจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ยังเผยว่า ในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ของปีนี้ สายพันธุ์ XEC มีการระบาดเพิ่มขึ้นในประเทศไทย

ขณะที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 8 พฤษภาคม 2568 มีผู้ป่วยโควิด-19 สะสมในพื้นที่กว่า 41,000 ราย โดยพบว่า กลุ่มเด็กอายุ 0-4 ปี เป็นกลุ่มที่มีอัตราป่วยสูงที่สุด

แม้ว่าปัจจุบันโรคโควิด-19 จะถูกจัดให้เป็นโรคประจำถิ่นที่สามารถพบได้ตลอดทั้งปี แต่การเฝ้าระวังและการเตรียมพร้อมรับมือในกลุ่มเด็กเล็กและนักเรียนในช่วงเปิดเทอมปี 2568 นี้ยังคงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งค่ะ

 

โควิด สายพันธุ์ XEC

อาการของโควิด-19 สายพันธุ์ XEC

โควิด สายพันธุ์ XEC ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอน มีลักษณะเด่นที่ แพร่กระจายได้รวดเร็ว แต่อาการที่แสดงออกมานั้นมัก คล้ายคลึงกับโควิด-19 สายพันธุ์ก่อนหน้าและไข้หวัดทั่วไป ทำให้ยากต่อการแยกแยะ อาการที่พบบ่อยได้แก่:

  • ไข้
  • ไอ
  • เจ็บคอ
  • น้ำมูก

สิ่งที่น่าสังเกตคือ ผู้ป่วยจำนวนมากในสายพันธุ์นี้ อาจไม่มีอาการใดๆ เลย ทำให้มีการแพร่เชื้อโดยไม่รู้ตัว นอกจากนี้ อาการเฉพาะตัวอย่าง “ไม่ได้กลิ่น” หรือ “ไม่รู้รส” ที่เคยเป็นจุดเด่นในอดีต ก็ ไม่พบแล้ว ในสายพันธุ์ XEC นี้ ดังนั้น การวินิจฉัยยืนยันการติดเชื้อจึงต้องพึ่งพาการ ตรวจ ATK (ชุดตรวจ Antigen Test Kit) เป็นหลัก

 

รับมือ โควิด สายพันธุ์ XEC ในช่วงเปิดเทอม

ในช่วงเปิดเทอม เด็กๆ มีโอกาสสูงที่จะสัมผัสใกล้ชิดกันมากขึ้น เนื่องจากต้องอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก ทำกิจกรรมกลุ่ม หรือใช้สิ่งของร่วมกัน ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อโควิด สายพันธุ์ XEC โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเด็กเล็กที่มีภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรงเท่าผู้ใหญ่ และอาจมีการละเลยมาตรการป้องกัน เช่น ไม่ล้างมืออย่างถูกวิธีหรือไม่สวมหน้ากากอนามัย

ดังนั้น โรงเรียนจึงควรเตรียมความพร้อมในการรับมือสถานการณ์นี้อย่างรอบด้าน โดยเน้นการส่งเสริมมาตรการป้องกันโรค เช่น

  • ส่งเสริมการล้างมือที่ถูกต้อง: เน้นย้ำให้เด็กๆ ล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์อย่างสม่ำเสมอและถูกวิธี
  • ตรวจคัดกรองอาการก่อนเข้าเรียน: มีมาตรการคัดกรองอาการป่วยเบื้องต้น เช่น การวัดไข้ หรือสังเกตอาการผิดปกติก่อนเข้าห้องเรียน
  • สร้างความเข้าใจอย่างสม่ำเสมอ: สื่อสารและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 และมาตรการป้องกันให้กับทั้งผู้ปกครองและนักเรียนอย่างต่อเนื่อง

โควิด สายพันธุ์ XEC

 

คำแนะนำสำหรับป้องกันและดูแลโรคติดเชื้อเฉียบพลันระบบทางเดินหายใจ

เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและแพร่กระจายโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ ทั้งโควิด และไข้หวัดใหญ่ โดยเฉพาะในช่วงที่มีการระบาด ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้

  1. ล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ: ควรล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำ โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหาร หลังเข้าห้องน้ำ หรือหลังจากสัมผัสสิ่งสกปรกต่างๆ
  2. ไม่ใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น: หลีกเลี่ยงการใช้แก้วน้ำ ช้อนส้อม ผ้าเช็ดหน้า หรือของใช้อื่นๆ ร่วมกับผู้อื่น เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ
  3. หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด: พยายามหลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่านในช่วงที่มีการระบาด หากเลี่ยงไม่ได้ ควรสวม หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันตนเอง
  4. เมื่อมีอาการป่วย: หากเริ่มมีอาการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้ ไอ หรือน้ำมูก ควรสวมหน้ากากอนามัยทันที และล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้อื่น โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางอย่างเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว พร้อมทั้งรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษา
  5. พักรักษาตัวจนหายเป็นปกติ: หากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจ ควรหยุดพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านจนกว่าอาการจะหายเป็นปกติ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น

 

สิ่งที่ควรรู้เมื่อหนูๆ ต้องสวมหน้ากาก 

คำแนะนำจาก HAPPINET.CLUB โดยสำนักงานสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว สสส.

การสวมหน้ากากอนามัยสำหรับเด็กนั้นมีข้อควรปฏิบัติเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและปลอดภัยต่อตัวเด็กเอง ดังนี้

  • ปรึกษาแพทย์สำหรับเด็กมีโรคประจำตัว: หากเด็กมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเลือกชนิดหน้ากากอนามัยที่เหมาะสม
  • เด็กร่างกายแข็งแรงสามารถสวมหน้ากากปกติ: สำหรับเด็กที่มีสุขภาพปกติดี สามารถสวมหน้ากากอนามัยทั่วไปได้
  • ล้างมือก่อนสวมหน้ากาก: ควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนสวมหน้ากากอนามัยเพื่อสุขอนามัยที่ดี
  • ขนาดหน้ากากต้องเหมาะสม: เลือกหน้ากากอนามัยที่มีขนาดพอดี ปิดจมูก ปาก และคางได้อย่างมิดชิด
  • หลีกเลี่ยงการสวมหน้ากากระหว่างกิจกรรมหนัก: ไม่ควรสวมหน้ากากอนามัยในขณะที่เล่นกีฬา หรือออกกำลังกายอื่นๆ ที่ต้องใช้แรงมาก
  • ไม่ควรใช้หน้ากากร่วมกับผู้อื่น: หน้ากากอนามัยเป็นของใช้ส่วนตัว ไม่ควรนำไปใช้ร่วมกับผู้อื่นเด็ดขาด
  • เฟซชิลด์สำหรับกรณีจำเป็น: หากจำเป็นต้องใช้เฟซชิลด์ ควรปิดคลุมทั้งใบหน้าเพื่อการป้องกันที่ดีที่สุด

การปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้เด็กๆ สามารถสวมหน้ากากได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคค่ะ

 

สิ่งที่ควรรู้ เมื่อเด็กๆ ต้องสวมหน้ากากอนามัย

ที่มา: ch7.com , thaipbs , คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

หมอห่วง เด็ก 0-4 ขวบป่วยโควิดเยอะ ป่วยช่วงนี้ เสี่ยงโควิดสูงกว่าไข้หวัดใหญ่

วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ ปี 2025 / 2568 ฉีดที่ไหน? ราคาสบายกระเป๋า

100 ไอเดีย เมนูมื้อเช้าให้ลูกไปโรงเรียน อร่อยไม่ซ้ำ ทำง่าย ได้ประโยชน์

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!