วันปิยมหาราช 23 ตุลาคม ประวัติและความสำคัญของประวัติศาสตร์ไทย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

วันปิยมหาราช ตรงกับวันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตขององค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งคำว่า “ปิยมหาราช หรือ พระปิยมหาราช” นั้นมาจากความรักใคร่ จงรักภักดี และเชิดชูพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงทำพระราชกรณียกิจสำคัญ จนทำให้เกิดการพัฒนาประเทศอย่างมากมาย

 

วันปิยมหาราช 23 ตุลาคม มีประวัติความเป็นมาอย่างไร?

วันที่ 23 ตุลาคม เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยพระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ต่อประเทศไทยหลายด้าน ท่านได้พลิกหน้าประวัติศาสตร์ไทย ด้วยการเปลี่ยนแปลงระบบต่าง ๆ ที่มีมาแต่ช้านาน เพื่อให้เกิดซึ่งความเท่าเทียมกัน และการทำเทคโนโลยี ความทันสมัยต่าง ๆ ที่ได้ไปเห็นจากต่างประเทศ มาปรับใช้ในบ้านเมืองของตนเอง ทำให้เกิดความพัฒนา เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในยุคสมัยของท่าน เมื่อท่านได้สวรรคต ทางราชการจึงได้ประกาศให้ในวันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปี เป็นเสมือนวันระลึกถึงคุณงามความดี ของท่าน โดยให้เรียกวันนี้ว่า “วันปิยมหาราช” พร้อมทั้งกำหนดให้เป็นวันหยุดราชการอย่างเป็นทางการ

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เหตุการณ์สำคัญในสมัย ร.5 สู่ความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน

สมเด็จพระปิยมหาราช หรือพระนามเต็มว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ และสมเด็จพระเทพศิริน-ทราบรมราชินี ประสูติเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2396 พระนามเดิมว่า “สมเด็จเจ้าฟ้าชายจุฬาลงกรณ์” เมื่อท่านได้ขึ้นครองราชย์ จึงได้ทำการเปลี่ยนแปลงระบบต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความเสมอภาค เท่าเทียมกัน โดยผลงานของท่านมีมากมาย โดยเรารวบรวมเหตุการณ์สำคัญ ๆ ออกมาได้ดังนี้

  • การเลิกทาส : ได้มีการประกาศเด็ดขาด ออกมาเป็นพระราชบัญญัติเลิกทาส โดยเรียกว่า “พระราชบัญญิตทาส ร.ศ.124” ในปีพ.ศ.2448 เป็นการประกาศเพื่อให้มีการเลิกระบบทาสในเรือนเบี้ยอย่างเด็ดขาด และเด็กที่เกิดจากทาส จะไม่เป็นทาสอีกต่อไป หากผู้ใดคิดจะซื้อขายทาสเหมือนเช่นในอดีต ก็จะมีโทษทางอาญา
  • การปฏิรูประเบียบบริหารราชการ : ได้ทรงปรับปรุงหน้าที่ของกรมต่าง ๆ ที่มีอยู่แต่เดิมให้เป็นระเบียบเรียบร้อยโดยรวมกรมต่าง ๆ ที่มีอยู่มากมายเวลานั้นเข้าเป็นกระทรวง กระทรวงหนึ่ง ๆ ก็มีหน้าที่อย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างพอเหมาะสม
  • การศึกษา : ทรงโปรดให้จัดตั้งโรงเรียนหลวงขึ้นในพระบรมมหาราชวัง แล้วมีหมายประกาศชักชวนพระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการให้ส่งบุตรหลานเข้า เรียน โรงเรียนภาษาไทยนี้
  • การศาล : ทรงตั้งกระทรวงยุติธรรมขึ้น เพื่อรวบรวมศาลต่าง ๆ ให้มาขึ้นอยู่ในกระทรวงเดียวกัน
  • การคมนาคม : ได้โปรดเกล้าฯ ให้ขยายถนนบำรุงเมือง ถนนที่ทรงสร้างใหม่ คือ ถนนเยาวราช ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนดินสอ ถนนบูรพา ถนนอุณากรรณ เป็นต้น
  • การสุขาภิบาล : ได้ทรงตั้งกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อดูแลจัดตั้งโรงพยาบาลขึ้นหลายแห่ง เช่น ศิริราชพยาบาล โรงพยาบาลบางรัก โรงพยาบาลโรคจิต และโรงเลี้ยงเด็ก
  • การสงครามและการเสียดินแดน : ท่านทรวงควบคุมการเสียดินแดนของไทย หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็พยายามทำให้ได้ประโยชน์จากการเสียดินแดนให้มากที่สุด
  • การเสด็จประพาส : ระหว่างที่ยังมีผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ก็ได้เสด็จประพาสต่างประเทศหลายที่ เพื่อดูแบบอย่างการปกครอง และนำมาแก้ไขดัดแปลงใช้ในประเทศของเราบ้าง
  • การศาสนา : ทรงเป็นองค์ศาสนูปถัมภกโดยแท้จริงในด้านพระพุทธศาสนา
  • การวรรณคดี : ทรงเป็นนักประพันธ์ ซึ่งมีความชำนาญทั้งทางร้อยแก้วและร้อยกรอง เช่น ไกลบ้าน ลิลิตนิทราชาคริต เงาะป่า พระราชพิธีสิบสองเดือน เป็นต้น

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

การเลิกไพร่ เลิกทาส การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของชาติไทย

แต่ดั้งเดิมนั้นประเทศไทยของเรา มีพลเมืองที่เป็นชนชั้นทาสมากกว่า 30% ของพลเมืองทั้งประเทศ เนื่องจากการได้รับวรรณะทาสนั้นจะถูกสืบจากสายเลือด หากพ่อแม่เป็นทาส ลูกก็จะเป็นทาสด้วย โดยทาสนั้นแบ่งออกเป็น 7 ประเภทใหญ่ๆ

  1. ทาสสินไถ่: เกิดจากการขายตัวเป็นทาส ทาสประเภทนี้มักยากจน
  2. ทาสในเรือนเบี้ย: เกิดจากการที่แม่เป็นทาส พ่อเป็นนายทาส
  3. ทาสมรดก: เกิดจากการส่งต่อมรดกของนายทาสที่เสียชีวิตลง ส่งให้นายทาสคนต่อไป
  4. ทาสท่านให้: ทานที่ได้รับมาจากผู้อื่น
  5. ทาสทัณฑ์โทษ: กรณีที่บุคคลนั้นถูกลงโทษ แต่ไม่สามารถหาเงินมาชดใช้ได้หมด ถ้าหากมีนายทาสมาช่วยเหลือ ถือว่าบุคคลนั้นกลายเป็นทาสของนายทาสคนนั้น
  6. ทาสที่ช่วยไว้จากความอดอยาก: คือการขายตนเองให้นายทาส เพื่อหลีกหนีจากความอดอยากที่เผชิญอยู่
  7. ทาสเชลย: เกิดจากการที่ประเทศหรือพลเมืองนั้นๆ แพ้สงคราม จึงถูกผู้ชนะสงครามนำคนเหล่านั้นไปเป็นทาสรับใช้

การจะหลุดออกจากการเป็นทาสนั้นมี 6 วิธี

  1. การหาเงินมาไถ่ถอนตนเอง
  2. การบวชที่ต้องได้รับการยินยอมจากนายทาส
  3. การหลบหนีจากการเป็นเชลยในสงคราม
  4. การแต่งงานกับชนชั้นสูงกว่า
  5. การแจ้งความนายจ้างว่าเป็นกบฏ และตรวจสอบว่าเป็นจริง
  6. การประกาศจากรัชกาลที่ 5 ให้มีการเลิกทาส

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

พระบรมรูปทรงม้า

ตั้งอยู่ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า สร้างขึ้นในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อ โดยบริษัทซุซ เซอรเฟรส ฟองเดอร์ แล้วเสร็จเมื่อวันพุธที่ 11 พฤศจิกายน 2451 รูปมีขนาดโตเท่าพระองค์จริง ประทำอยู่บนหลังม้าพระที่นั่ง หล่อด้วยโลหะทองบรอนซ์ เป็นรูปม้ายืน สูง 6 เมตร กว้าง 2.5 เมตร และยาว 5 เมตร

ในปัจจุบันมีประชาชนมากมายเข้าไปสักการบูชา ซึ่งดอกไม้ที่ประชาชนนิยมไปถวายคือดอกกุหลาบสีชมพู เนื่องจากเป็นสีเดียวกันวันพระราชสมภพของพระองค์ (วันอังคาร) ที่งดงาม และหนามแหลมคมเปรียบเสมือนอำนาจของพระองค์ เชื่อว่าหากบูชาแล้วจะทำให้ผู้บูชามีอำนาจมากขึ้น

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : 

ของไหว้เสด็จพ่อ ร.5 บูชา ร.5 อย่างไรให้ได้ผล? ชีวิตมีแต่ความสุข ความเจริญ

ร.3 กษัตริย์เจ้าสัว อยากเป็นเศรษฐี ต้องบูชา บูชายังไงให้ปัง

วันหยุดประจำปี ปฏิทินวันหยุด 65 วันหยุด วันสำคัญ มีวันไหนบ้าง เช็คเลย !

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

Arunsri Karnmana