ตกขาวปนเลือด ผิดปกติหรือไม่ สาเหตุเกิดจากอะไร เมื่อไหร่ต้องไปหาหมอ ?

อาการ ตกขาวปนเลือด เกิดจากสาเหตุอะไร อาการไหนบ่งบอกว่าผิดปกติ แล้วทำไม ตกขาวปนเลือด ถึงเสี่ยงอันตรายต่อร่างกาย วันนี้เรามาดูคำตอบกันค่ะ

 

อาการตกขาว ตกขาวปนเลือด

ตกขาวเป็นอาการที่เมือกไหลออกมาจากช่องคลอด ไม่ใช่ประจำเดือน ตกขาวจะถูกขับออกมาเพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ช่องคลอด และช่วยป้องกันการติดเชื้อภายในช่องคลอด ปกติจะมีสีขาวหรือใส และไม่มีกลิ่นเหม็น ส่วนตกขาวที่มีสีเทา สีเขียว สีเหลือง สีชมพู หรือมีเลือดปน และส่งกลิ่นเหม็นคล้ายเนื้อเน่า จะเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นภายใน

บทความที่เกี่ยวข้อง : 100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 25 หลังคลอดแล้ว ประจำเดือนยังไม่มา ผิดปกติหรือไม่ ?

 

ตกขาวปกติ กับ ตกขาวผิดปกติ แตกต่างกันอย่างไร

ตกขาวปกติ : มีสีขาวหรือใส ไม่มีกลิ่นเหม็น ตกขาวจะมีปริมาณมากในช่วงวันที่มีการตกไข่ ส่วนในช่วงที่มีประจำเดือนตกขาวจะหนา และ เหนียวข้น หลังวัยหมดประจำเดือน ตกขาวก็จะลดลง

ตกขาวผิดปกติ : มีสีต่างไปจากเดิม เช่น เทา เขียว เหลือง ชมพู หรือตกขาวมีเลือดปน มีกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ คล้ายกลิ่นเนื้อเน่าหรือปลาเน่า ตกขาวเป็นก้อนหนา หรือตกขาวมากกผิดปกติ มีอาการคัน เจ็บบริเวณปากช่องคลอด เจ็บปวดตอนปัสสาวะ มีเลือดที่ไม่ใช่ประจำเดือนไหลออกมาจากช่องคลอด

 

หากคุณแม่ยังพบปัญหาเกี่ยวกับอาการตกขาวที่ผิดปกติอื่น ๆ สามารถเลือกอ่านบทความในหัวข้อนี้ได้ คลิก

 

สีของตกขาวบ่งบอกอะไร ?

  • ตกขาวสีชมพู : เป็นลักษณะสีชมพูอ่อน ๆ เพราะเป็นตกขาวที่มีเลือดผสมอยู่เล็กน้อย เกิดจากการลอกของเยื่อบุโพรงมดลูก ส่วนใหญ่ตกขาวสีชมพูจะเกิดขึ้นกับคนที่กำลังตั้งท้อง หรือเพิ่งคลอดลูก ถ้ามีอาการแสบ ๆ คัน ๆ ร่วมด้วยให้รีบพบแพทย์ด่วนเลยค่ะ เพราะอาจเกิดจากการติดเชื้อที่มดลูกอยู่ อันตรายมาก ๆ
  • ตกขาวสีน้ำตาล : ใครมีอาการนี้ก็จะรู้สึกเหวอ ๆ หน่อย เพราะเป็นตกขาวที่มีสภาพน่ากลัวพอสมควร สาเหตุมาจากการตกค้างของประจำเดือน ที่ช่องคลอดขับออกมาหลังหมดประจำเดือนไประยะนึง แต่ถ้าเป็นสีน้ำตาลที่มีเลือดสดปนด้วย แล้วมากะปริบกะปรอย อาจเกิดการติดเชื้อภายในช่องคลอด หรือร้ายแรงสุดคือมะเร็งปากมดลูกค่ะ
  • ตกขาวสีเหลือง : เป็นอาการตกขาวที่เกิดขึ้นง่ายมากในกลุ่มสาว ๆ วัยเจริญพันธุ์ อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหลังมีเพศสัมพันธ์ ติดเชื้อรา ติดเชื้อพยาธิในช่องคลอด หรือติดเชื้อไวรัส ลักษณะเป็นตกขาวเหลวสีเหลืองใส หรือสีเหลืองเข้ม ไม่อันตรายมากนักแต่ส่งผลเสียต่อชีวิตประจำวันแน่นอน เพราะมักจะมีอาการคัน มีกลิ่น และแสบตอนปัสสาวะร่วมด้วย แต่อาการตกขาวแบบนี้สามารถใช้ยาเหน็บ หรือกินยารักษาตามแพทย์แนะนำได้ค่ะ
  • ตกขาวสีเขียว : อีกหนึ่งอาการตกขาวที่พบได้บ่อย อาการจะหนักกว่าตกขาวสีเหลือง สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ หรือมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไป ลักษณะเป็นสีเขียวขุ่น หรือสีเหลืองปนเขียว ทำให้รู้สึกคันช่องคลอด มีกลิ่นคล้ายคาวปลาหรืออาจไม่มี ถ้าสาว ๆ เจออาการนี้เมื่อไหร่แนะนำให้ปรึกษาคุณหมอเพื่อหาวิธีรักษาที่เหมาะสมจะดีที่สุด
  • ตกขาวสีเทา : อันนี้ก็เป็นอาการตกขาวที่เกิดจากการติดเชื้อเหมือนกันค่ะ มักมีกลิ่นอับหรือกลิ่นคาวร่วมด้วย เกิดขึ้นได้บ่อย เริ่มจากเป็นสีขาวขุ่นเข้ม ๆ ก่อนแล้วกลายเป็นสีเทา นอกจากการติดเชื้อแล้วก็อาจเกิดจากการใช้ยาปฏิชีวนะนาน ๆ การสวนล้างช่องคลอดที่ทำให้จุดซ่อนเร้นเสียสมดุลนั่นเอง
  • ตกขาวมีเลือดปน : เกิดจากการติดเชื้อที่ปากมดลูก หรือช่องคลอดเป็นแผล ต้องสังเกตดี ๆ ค่ะ ถ้าเป็นเลือดสีน้ำตาลก็อาจมาจากประจำเดือนที่ค้างอยู่ข้างใน แต่ถ้าเป็นสีแดงสดแล้วเป็นมาหลายวัน แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนดีกว่าค่ะ
  • ตกขาวมีฟอง : อาการตกขาวมีฟอง ไม่เยอะ มีสีใสอาจเกิดจากฟองอากาศ แต่ถ้ามีสีเหลือง หรือสีเขียวพร้อมอาการแสบตอนปัสสาวะนั้นเกิดจากการติดเชื้อหลังมีเพศสัมพันธ์ ให้งดการมีเพศสัมพันธ์และทานยารักษาตามที่คุณหมอแนะนำค่ะ ทั้งน้ีอาจไม่หายขาด เพราะเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้ตกขาวมีฟองมักจะเกิดจากฝ่ายชาย ยังไงก็อย่าลืมป้องกันด้วยการใช้ถุงยางอนามัยกันด้วยนะคะ

 

ตกขาวปนเลือด

ตกขาวปนเลือด

 

อาการตกขาวสีน้ำตาลปนเลือด อาจเกิดจากเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ความไม่สมดุลของฮอร์โมนเพศ พบได้ในภาวะ การใช้ยาคุมกำเนิดแบบฉีด การรับประทานยาหรืออาหารบางชนิดที่อาจมีฮอร์โมนเพศหญิงผสมอยู่ ความผิดปกติของการตกไข่ (ovarian dysfunction) ที่เกิดได้จากภาวะเครียด การทำงานของไทรอยด์มากหรือน้อยกว่าปกติ มีการติดเชื้ออักเสบของอวัยวะสืบพันธ์ ได้แก่ ภาวะอักเสบในอุ้งเชิงกราน ซึ่งอาจเกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือ โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ต่าง ๆ ก็อาจทำให้มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดได้ รวมถึง มีก้อนเนื้องอกธรรมดา ติ่งเนื้อ หรือเนื้อร้ายในมดลูกหรือปากมดลูก

 

ตกขาวปนเลือดบ่งบอกอะไร

  • เลือดประจำเดือนที่กำลังจะเริ่มมา ซึ่งหากหลังจากนี้ 1-2 วัน ได้มีเลือดออกมานาน 2-7 วัน ก็น่าจะเป็นประจำเดือนได้
  • เป็นเลือดออกช่วงไข่ตก ซึ่งรังไข่อาจเริ่มกลับมาทำงานและมีไข่ตกเกิดขึ้น ซึ่งเลือดที่ออกในช่วงไข่ตก จะมีปริมาณไม่มาก และออกเพียง 1-2 วัน
  • ตกขาวผิดปกติที่เกิดจาก การติดเชื้อในช่องคลอด หรือมีมดลูกอักเสบติดเชื้อ แต่มักมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย ตกขาวจะมีกลิ่นเหม็นรุนแรง หรือมีอากรแสบหรือคันช่องคลอดร่วมด้วย
  • เป็นเลือดที่เป็นผลข้างเคียงจากการใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาสตรี สมุนไพร อาหารเสริมต่างๆ

 

theAsianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น theAsianparent Thailand ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งาน เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก theAsianparent Thailand เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”

 

ที่มา : (pobpad),(wongnai)

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง : 

ตกขาวมีกลิ่นทำไงดี ? วิธีแก้ปัญหากลิ่นเหม็นจากตกขาว

ตกขาวสีเขียว คืออะไร ? แล้วเป็นอันตรายต่อร่างกายหรือไม่ ?

คนท้องมีตกขาวไหม ตกขาวคนท้องสีอะไร ตกขาวแบบไหนผิดปกติ

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!