ท้องผูกตอนท้อง กินยาระบาย ได้ไหม กินยาถ่าย อันตรายกับลูกหรือเปล่า
อาการท้องผูกตอนท้องนั้น สามารถเกิดขึ้นได้เกือบจะตลอดช่วงตั้งครรภ์เลยทีเดียว ส่วนสาเหตุและวิธีรักษานั้น จะมีอะไรบ้าง ไปติดตามกันเลย
แม่ท้องมักจะมีอาการท้องผูกได้ง่าย ซึ่งอาการ ท้องผูกตอนท้อง นั้น มีสาเหตุมาจากในช่วงตั้งครรภ์จะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนโพรเจสเตอโรน ทำให้กระบวนการย่อยอาหารทำได้ช้าลง ประกอบกับการที่มดลูกขยายตัว ทำให้ไปกดทับลำไส้ ส่งผลให้ลำไส้เคลื่อนตัวช้า อุจจาระสะสมอยู่นาน ทำให้อุจจาระจับตัวเป็นก้อนแข็งจนเกิดอาการท้องผูกได้ ยาระบายสำหรับคนท้อง จำเป็นหรือไม่
นอกจากนี้แล้ว สาเหตุที่ทำให้แม่ท้องท้องผูกยังอาจจะมาจากการที่แม่ท้องบางท่านดื่มน้ำน้อยกว่าปกติ หรือไม่ชอบดื่มน้ำ ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ไม่ค่อยดี จนเกิดอาการท้องผูกได้เช่นกัน
ท้องผูกระหว่างตั้งครรภ์ กินยาระบาย กินยาถ่าย ได้ไหม
การเกิดภาวะท้องผูกตอนท้องนั้น ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา การรักษาโดยวิธีการทางธรรมชาติจึงเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด ซึ่งก็ได้แก่
- รับประทานอาหารที่มีกากใยให้มาก เช่น ลูกพรุน แก้วมังกร ส้ม คะน้า ผักหวาน หรือทานธัญพืชที่มีกากใยสูง เช่น ข้าวโพด ถั่วดำ ถั่วเขียว ถั่วเหลือง เป็นต้น
- ดื่มน้ำเปล่าให้ได้วันละ 8-10 แก้ว และนอกจากน้ำเปล่าแล้ว การดื่มน้ำผลไม้ก่อนนอน เช่น น้ำมะเขือเทศ น้ำแอปเปิ้ล หรือน้ำลูกพรุน ก็จะช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดีเช่นกัน
- แม่ท้องมักเกิดอาการหิวบ่อย แนะนำให้เปลี่ยนมื้ออาหารจากที่เคยทานมื้อใหญ่ 3 มื้อ มาเป็นทานมื้อย่อย 5-6 มื้อ โดยมื้อที่เพิ่มมาอาจเป็นอาหารว่างที่มีประโยชน์ เช่น ธัญพืช หรือผลไม้ เพราะนอกจากจะอุดมไปด้วยวิตามิน และเกลือแร่แล้ว ยังมีกากใยสูง ช่วยให้ขับถ่ายได้ดีขึ้น
- เวลาเคี้ยวอาหาร ควรเคี้ยวให้ละเอียด และช้าลงกว่าเดิม เพื่อช่วยให้กระเพาะอาหารไม่ทำงานหนักจนเกินไป และช่วยลดปัญหาอาการแน่นท้องด้วย
- หาเวลาออกกำลังกายเบา ๆ อย่างเช่นการว่ายน้ำ หรือเดินช้า ๆ วันละ 20-30 หรือออกกำลังกายตามที่คุณหมอแนะนำ จะช่วยกระตุ้นให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น
- นอนหลับอย่างเพียงพอ ไม่เครียด ก็จะช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหาเรื่องท้องผูกลงได้
หากแม่ท้องเกิดอาการท้องผูกแล้ว ไม่ควรหาซื้อยามาทานเอง ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของแม่ท้องและทารกในครรภ์ และหากต้องการทานวิตามินต่าง ๆ หรือธาตุเหล็กเสริม ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอว่าสามารถทานได้หรือไม่ เพราะวิตามินและธาตุเหล็ก ก็อาจมีส่วนทำให้ลำไส้เคลื่อนไหวช้าลงได้เช่นกัน และหากลองใช้วิธีแก้ท้องผูกดังที่กล่าวมาข้างต้นแล้วยังไม่หาย ก็ควรเข้าพบคุณหมอเพื่อตรวจรักษาต่อไป
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ความรู้สึกเมื่อลูกกลับหัว แม่ท้องจะรู้สึกอย่างไร แล้วตอนไหนที่ลูกถึงจะกลับหัว
แม่ท้องแยกออกมั๊ย ลูกดิ้นเพราะอะไรกันแน่? บิดขี้เกียจ! รำคาญ! หรือชอบใจ!