แพทย์ตอบข้อสงสัย ทำไมถึงไม่ควรใช้ รถหัดเดิน ในเด็กที่กำลังหัดเดิน
ทำไมถึงไม่ควรใช้ รถหัดเดิน หมอวิน เจ้าของเพจ เลี้ยงลูกตามใจหมอ ตอบข้อสงสัยของ คุณพ่อ คุณแม่ ทำไมถึงไม่ควรใช้ รถหัดเดิน ไม่แนะนำให้ใช้ ระบุเสี่ยงเกิดอันตราย ทรงตัวได้ช้า และเกิดผลเสีย กับการพัฒนารูปเท้าของเด็ก
หมอวิน เจ้าของแฟนเพจ เลี้ยงลูกตามใจหมอ โพสต์ตอบข้อสงสัยของคุณแม่รายหนึ่ง ซึ่งได้ส่งข้อความเข้ามาถามว่า เด็กเล็กควรใช้รถหัดเดินหรือไม่ โดยมีใจความว่า
ถาม : ” หมอคะ ควรใช้รถหัดเดินมั๊ยคะ ไปหาหมอที่รพ. มาหมอแนะนำค่ะ แต่มีข้อมูลหลายอย่าง ที่ค้านกันบอกว่า จะทำให้เด็กเดินช้า เพราะจะใช้ปลายเท้าจิกค่ะ ” – คุณแม่ท่านหนึ่ง
ตอบ : #ไม่ควรและห้ามใช้ จะดีที่สุดจ้ะ
และหลังจากนั้น คุณหมอก็ได้เล่าถึงเหตุผลว่าทำไม ถึงไม่ควรให้เด็กเล็ก ใช้รถหัดเดิน พร้อมชี้แจงว่า รถหัดเดินนั้น ไม่ได้ช่วยหัดเดิน แถมยังอันตราย อีกด้วย หากเคยตามข่าว หรือเคยผ่านตามาบ้าง สำหรับข่าวที่เด็กอยู่บนรถหัดเดิน แล้วไหลลงมาที่ถนน รถทับเสียชีวิตบ้าง เฉียดตายบ้าง
มีผลวิจัยชี้ว่า รถหัดเดินมีผลกระทบสูง และมีโอกาสให้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ พัฒนาตัวล่าช้า ส่งผลต่อการทรงตัวของเด็ก ซึ่งงทำให้ อาจจะล่าช้าไปด้วย อีกทั้งอาจ เกิดผลเสียกับการพัฒนารูปเท้าของเด็กด้วย
มีข้อมูลจากงานวิจัยบางชิ้น ชี้ว่า เด็กที่ใช้รถหัดเดิน จะมีพัฒนาการทางปัญญาช้า (delays in mental development and lower scores on mental developmental testing) ฉลาดช้า ไม่น่าเชื่อ แต่มีการศึกษารองรับ
รถหัดเดินอาจจะทำให้เด็ก เคลื่อนที่ไปได้ไกล และสูงกว่าอายุจริง แต่ก็สามารถพลัดตกหกล้มง่าย แถมบางบ้านก็ไต่ไปเอื้อมหยิบของที่อยู่สูง ๆ ได้ หากเป็นยา สารเคมี ของร้อนจัด หรือตู้ปลา ถือว่าอันตราย
ก่อนหน้านี้ รถหัดเดินได้ถูกแบน ที่ประเทศแคนาดา ตั้งแต่ปี 2004 และยังถือว่า ผิดกฎหมายอีกด้วย ส่วนในอเมริกา ไม่ถึงกับแบน แต่เพิ่มเงื่อนไขเกี่ยวกับมาตรฐาน ของรถหัดเดินให้มากขึ้น
โดยข้อความที่คุณหมอได้อธิบายมาทั้งหมดมี ดังนี้
จบการถามตอบ ณ จุดนี้ 555 เราจะไม่พูดพร่ำทำเพลงมากกับการตอบคำถาม … แต่ถ้าจะลงรายละเอียดกันสักหน่อย อยากรู้ว่า หมอคนไหนเหมือนกันที่แนะนำให้ลูกคุณแม่ใช้รถหัดเดิน เพราะมัน #อันตรายและควรหลีกเลี่ยงในเด็กเล็ก … ในบางประเทศที่พัฒนาแล้วถือว่า ‘ผิดกฎหมาย’ เสียด้วยซ้ำครับ … ขอภาวนาให้เป็นการฟังคุณหมอพูดผิดก็แล้วกันเนอะ
รถหัดเดินที่ไม่ได้ช่วยหัดเดิน แถมยังอันตรายอีกด้วย หากตามข่าวก็คงเคยผ่านตา ข่าวที่เด็กอยู่บนรถหัดเดินไหลลงมาที่ถนน รถทับตายไปบ้าง เฉียดตายแล้วมาออกข่าวกันบ้าง … หรือพลิกคว่ำตกลงจากบันไดบ้าง … เยอะแยะ … ตายไปเท่าไรแล้วไม่รู้
รถหัดเดิน … ทำให้กล้ามเนื้อมัดใหญ่และการทรงตัวของเด็กล่าช้า และเกิดผลเสียกับการพัฒนารูปเท้าของเด็ก … ข้อมูลจากงานวิจัยบางอันชี้ว่า เด็กที่ใช้รถหัดเดินมีพัฒนาการทางปัญญาช้า (delays in mental development and lower scores on mental developmental testing) ฉลาดช้าไปอีก ไม่น่าเชื่อ แต่มีการศึกษารองรับครับ
รถหัดเดิน … ทำให้เด็ก เคลื่อนที่ ไปได้ไกลและสูงกว่าอายุจริง … พลัดตกหกล้มง่าย พ่อแม่ตามไม่ทันมากกว่า แถมบางบ้านก็ไต่ไปเอื้อมหยิบของที่อยู่สูง ๆ ได้ หากเป็นยา สารเคมี หรือของร้อนจัด … อันตรายมากครับ เคยมีเด็กโน้มตู้ปลาหล่นมาทับตัวก็มีครับ อันตรายสุด ๆ
ในไทย … อย่าไปใช้เลยดีกว่า
เชื่อหมอเหอะ … ลูกหมอก็ไม่ใช้ …
อนึ่ง รถหัดเดินถูกแบนที่ประเทศแคนาดาตั้งแต่ปี 2004 ผิดกฎหมายจำหรือปรับนะจ๊ะ ส่วนในอเมริกาไม่ถึงกับแบนแต่เพิ่มเงื่อนไขเกี่ยวกับมาตรฐานของรถหัดเดินให้มากขึ้น แต่สุดท้ายก็เกิดอุบัติเหตุได้อยู่ดี
theAsianparent Thailand เว็บไซต์ และ คอมมูนิตี้อันดับหนึ่ง ที่คุณแม่เลือก นอกจากสาระความรู้ที่เรามอบให้คุณแม่ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ การวางแผนมีลูกแล้ว เรายังมีแอพพลิเคชั่นรวมถึงสื่อมัลติมีเดียหลากหลายที่ช่วยตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณแม่ยุคใหม่ ที่ต้องทำงานและดูแลลูกไปพร้อมกัน ให้มีความมั่นใจและพร้อมในการดูแลลูกทุกช่วงเวลา ตั้งแต่การให้นมบุตร การดูแลตนเองหลังคลอด ท่าออกกำลังกายหลังคลอดเพื่อให้หุ่นของแม่หลังคลอดกลับมาฟิตแอนเฟิร์มอีกครั้ง theAsianparent Thailand ขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะสนับสนุนคุณพ่อคุณแม่ในเรื่องการดูแลลูก ความรู้แม่และเด็กที่เต็มเปี่ยม และตอบทุกข้อสงสัยในแอพพลิเคชั่นที่เป็นสื่อกลาง และกิจกรรมส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัวไทย
ที่มา : เพจ เลี้ยงลูกตามใจหมอ , www.thairath.co.th
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
8 Check Lists ก่อนซื้อรถเข็นคันแรกให้ลูกน้อยวัยแรกเกิด
โรคสมาธิสั้นคืออะไร? มาทำความรู้จักกับโรค ADHD โรคที่ซับซ้อนกว่าที่คุณคิด
4 สิ่งที่แม่ท้องควรรู้ เกี่ยวกับโควิด-19 แม่ท้องควรรู้อะไรเกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าไหม?
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!
