คนท้องทำงานหนัก ต้องระวังเรื่องอะไรบ้าง? ทำงานอย่างไรให้ปลอดภัย
คนท้องทำงานหนัก กันบ้างไหมคะ? ส่วนใหญ่แล้ว เราจะเห็นคุณแม่ท้องหลายท่าน ทำงานตั้งแต่ท้องอ่อน ๆ ไปจนถึงวันคลอดเลย แต่เรื่องการทำงานไปตลอดถึงอายุครรภ์ที่ต้องคลอดนั้น ไม่สามารถทำได้ทุกคน บางคนมีอาการแทรกซ้อนคลอดก่อนกำหนดก็มี แต่ปัจจุบัน เราจะพบว่า คุณแม่ตั้งครรภ์เป็นเวิร์กกิ้งวูแมน ถือไปกระเป๋า ขับรถไปคลอดเองก็เยอะ นั่นเพราะคุณแม่เหล่านั้นมีการเตรียมพร้อมและทราบถึงสภาพร่างกายของตนเองดีว่า มีความแข็งแรงและปลอดภัย วางแผนเป็นขั้นตอน แต่ก็ยังมีคุณแม่อีกหลายท่านที่แข็งแรงดีระหว่างตั้งครรภ์ แต่มาสูญเสียลูกน้อยในเดือนสุดท้ายก็มี ดังนั้นเราไปดูกันว่า หากคนท้องทำงานหนักแล้ว จะมีวิธีดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง
คนท้องทำงานหนัก ต้องระวังเรื่องอะไรบ้าง
คนท้องทำงานหนัก นั้นต้องดูแลตัวเองและควรระวังเรื่องอะไรมากเป็นพิเศษ เพราะปัจจุบันผู้หญิง ทำงานนอกบ้านมากขึ้น และยังมีผู้หญิงตั้งครรภ์อีกจำนวนไม่น้อยที่ต้องกลับไปทำ งานในบ้าน อีกด้วย ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะคุณแม่ท้องเหล่านี้ ต้องคอยดูแลสุขภาพครรภ์ของตัวเอง เท่ากับว่า เมื่อผู้หญิงตั้งครรภ์ พวกเธอต้องแบกรับภาระอันใหญ่หลวง ทั้งที่หลายคนมองเป็นเรื่องธรรมดา แต่อย่าลืมว่า แค่เราปกติ ทำงานนอกบ้านอย่างเดียวโดยไม่ต้องอุ้มท้องก็เหนื่อยมากแล้ว คุณแม่ท้องบางคนยังต้องเดินทางด้วยรถสาธารณะอีกต่างหาก
บทความที่เกี่ยวข้อง : แม่ท้องทำงานบ้าน ได้หายห่วงเพียงเลี่ยง 5 ข้อ คนท้องทำงานบ้านต้องระวังอะไร
เคล็ดลับในการทำงานได้อย่างปลอดภัยในระหว่างตั้งครรภ์
คนท้องที่ต้องทำงานหนัก ทั้งนอกบ้านและในบ้าน ควรระวังเรื่องอะไรบ้าง และมีเคล็ดลับในการทำงานได้อย่างปลอดภัย ดังนี้
งานนอกบ้าน
- คุณแม่ท้องควรระวังเรื่องการเดินค่ะ ถึงจะมั่นใจว่าเดินคล่องแคล่ว แต่ใจไปก่อนกาย พยายามฟังร่างกายเสมอว่า ไหวไหมที่ต้องเดินบ่อย ๆ
- ระวังอย่ายืนเป็นเวลานาน ค่ะ ไม่ว่าจะโดยสารรถไฟฟ้าไปทำงาน พยายามหาที่นั่งสำหรับคนท้อง หรือแม้แต่ในการทำงานที่ต้องยืน คุณแม่หาเก้าอี้มานั่งพักนะคะ
- ห้ามยกของหนักเป็นอันขาด แม้ร่างกายยังไหว แต่ถ้ากระทบกระเทือนโดยไม่รู้ตัว เป็นอันตรายต่อลูกในท้องแน่นอน และปวดหลัง แน่นอน
- หากคุณแม่ทำงานนั่งโต๊ะ พยายามเปลี่ยนอิริยาบถอยู่เสมอ ลุกขึ้น บิดแขนไปมาทุกชั่วโมงก็ดีค่ะ
- ปรับระดับโต๊ะทำงาน เก้าอี้ ให้เหมาะสมกับหลัง หาหมอนรองเก้าอี้และหลัง และปรับระดับหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้พอดีกับสายตา ไม่เงยหน้าหรือก้มต่ำเกินไป
- หากคุณแม่ทำงานที่ต้องแต่งกายในเครื่องแบบ ควรตัดชุดคลุมท้องให้หลวม ใส่สบาย เพราะเวลาท้องเริ่มขยาย จะโตเร็วมาก ที่สำคัญ ต้องงดการสวมใส่รองเท้าส้นสูง
- ระวังการขึ้นบันได ชานพัก ขั้นเล็ก ๆ และพยายามอย่าเดินในคนหมู่มาก ระวังเรื่องการเบียดเสียดและโรคไวรัส เพราะคุณแม่ตั้งครรภ์มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอกว่าคนทั่วไปค่ะ
งานในบ้าน
- คุณแม่อาจเคยคุ้นชินกับการทำงานบ้าน แต่เมื่อท้อง คุณแม่ต้องระวังเรื่องการยกของหนัก จากที่เคยยกตะกร้าผ้า ยกถังน้ำได้ อย่าลืมว่า ตอนนี้ต้องผ่อนน้ำหนักลงแล้วนะคะ
- การทำความสะอาดบ้านอย่างหักโหมเกินไปค่ะ อาจจะแบ่งเป็นส่วน ๆ ไปก่อน ให้คุณสามีช่วยกันทำด้วยค่ะ
- ระวังเรื่องการผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นฉุน พวกน้ำยาล้างห้องน้ำ และสารที่ช่วยทำความสะอาดที่อาจมีอันตรายจากสารเคมี ตรงนี้ถ้าเลี่ยงได้ ให้คุณพ่อเป็นคนทำนะคะ
- เปลี่ยนน้ำยาซักผ้า น้ำยาล้างจานเป็นแบบออร์แกนิก เพื่อความปลอดภัยต่อระบบทางเดินหายใจค่ะ
- ซื้อแผ่นกันลื่นมาปูในห้องน้ำค่ะ เพราะจำเป็นมาก หากคุณแม่ล้างห้องน้ำ แล้วเกิดลื่นขึ้นมาอาจเป็นอันตรายได้
- คุณแม่ควรใส่รองเท้าในบ้าน เช่น ในห้องครัว หน้าบ้านที่ค่อนข้างเลอะและลื่นง่าย
- เปลี่ยนราวตากผ้าที่ไม่ต้องเอื้อมมือสูงมากนัก
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องทำงานเยอะ นอนดึก ทำงานตอนกลางคืน ลูกในท้องจะเป็นอะไรไหม
หากคนท้องทำงานหนัก เวลากลางคืน
สิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับคุณแม่ท้องที่ต้องทำงานหนัก เป็นกะ หรือต้องทำงานโดยไม่หลับไม่นอน ไม่มีเวลาพักผ่อนจะทำให้ Circadian Rhythm หรือ วงจรการใช้ชีวิตเปลี่ยนไป ซึ่งมีผลกระทบต่อร่างกายและสมองดังนี้
- ร่างกายและสมองจะมีฮอร์โมนที่เกี่ยวกับความเครียด หรือคอร์ติซอลหลั่งออกมามากขึ้น
- สมองจะลดการหลั่งสารเมลาโทนิน ที่มีบทบาทควบคุมการนอน ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของลูกในครรภ์
- อันตรายต่อมาคือ รก จะเสื่อมเร็ว เกิดการอักเสบในมดลูกทำให้มดลูกบีบตัวเร็วเนื่องจากขาดการพักผ่อน
- ร่างกายจะอ่อนเพลียง่าย เนื่องจากขาดการพักผ่อน อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ อาเจียน คลื่นไส้ และหมดแรง
คุณแม่ควรทำอย่างไรหากจำเป็นต้องทำงานดึก และขาดการพักผ่อน
- ง่ายที่สุดคือการลดความเครียดระหว่างวัน คุณแม่อาจเปิดเพลงฟังเบา ๆ แก้เครียด
- แอบงีบบ้าง หากเหนื่อยจริง ๆ ลองงีบสัก 10-15 นาทีค่ะ จะช่วยให้ดีขึ้น
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำให้เพียงพอ พยายามดื่มน้ำให้มากกว่าวันละ 8-10 แก้ว
- ฝากครรภ์แล้วต้องไปตามนัดคุณหมอสม่ำเสมอ เพื่อเช็กร่างกาย
- สวมใส่รองเท้าเพื่อคนท้องโดยเฉพาะ อย่ายืนนาน หาเก้าอี้พับมานั่งบ้าง
- ออกกำลังกายก่อนไปทำงานสัก 10-20 นาที อาจจะแกว่งแขน เดินช้า ๆ รอบ ๆ บ้าน
- ห้ามสูบบุหรี่และห้ามดื่มแอลกอฮอล์เป็นอันขาด ระวังคนรอบข้างหรือเพื่อนร่วมงานที่สูบบุหรี่ เพราะควันบุหรี่ก็สามารถทำร้ายคุณแม่ตั้งครรภ์และลูกในท้องได้
- หากคุณหมอจ่ายอาหารเสริม คุณแม่ควรรับประทานสม่ำเสมอ พร้อมกับอาหารที่มีประโยชน์
การทำงานขณะตั้งครรภ์ แม่ท้องต้องดูแลตัวเองให้ดี ทั้งเรื่องโภชนาการที่ส่งผลต่อปัญหาสุขภาพในช่วงตั้งครรภ์ที่พบบ่อย เช่น ภาวะโลหิตจาง ทำให้มีอาการอ่อนเพลีย ซีด เหนื่อยง่าย เจ็บหน้าอก อาเจียน หน้ามืด เป็นลมบ่อย วิงเวียนศีรษะและเบื่ออาหาร ซึ่งอันตรายของโรคโลหิตจางระหว่างตั้งครรภ์นั้น มีผลต่อออกซิเจนที่จะส่งไปยังรกจะน้อยกว่าปกติ ทำให้ทารกเกิดความผิดปกติหรือเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ แม่ท้องต้องดูแลอาหารการกินให้ดี เพื่อการเติบโตและพัฒนาการทางสมองของทารก เช่น อาหารจำพวกโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์จากนม ไข่ ถั่วเมล็ดแห้ง ธาตุเหล็ก สารไอโอดีนจากอาหารทะเล รวมไปถึง วิตามิน โฟเลตจากผักใบเขียวที่สำคัญ อาหารที่มีปริมาณแคลเซียมสูง เป็นต้น
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
6 วิธีที่ต้องทำเมื่อต้อง “พาลูกไปที่ทำงาน” ลดโอกาสปั่นป่วนให้มากที่สุด
ท้องอยู่แต่ต้องไปทำงาน เลือกซื้อ ชุดคลุมท้องใส่ทำงาน อย่างไรให้ดูโปร
เตรียมความพร้อมก่อนกลับไปทำงานของคุณแม่นักปั๊มฉบับ Working Mom
แชร์ประสบการณ์หรือ เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ต้องระวังหากคนท้องทำงาน ได้ที่นี่!
คนท้องทำงาน ทำงานได้ไหมคะ มีเรื่องอะไรที่ต้องระวังบ้าง
ที่มา : คมชัดลึก, amarinbabyandkids
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!
