วิจัยชี้! คนท้องเครียด นอนไม่หลับ ส่งผลต่อพัฒนาการลูกน้อยหลังคลอด

undefined

การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในช่วงตั้งครรภ์ทำให้ คนท้องเครียด นอนไม่หลับ งานวิจัยพบว่า อาการนอนไม่หลับของแม่ท้องอาจส่งผลต่อการคลอดและพัฒนาการของลูก

ทุกคนรู้ดีว่า การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอคือ ปัจจัยสำคัญของสุขภาพที่ดีแต่และยิ่งสำคัญมากสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ แต่ถึงจะรู้อย่างนั้น การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในช่วงตั้งครรภ์ กลับทำให้ คนท้องเครียด นอนไม่หลับ และกังวลว่า การนอนไม่หลับจะมีผลกระทบต่อลูกในท้องอย่างไร งานวิจัยพบว่า อาการนอนไม่หลับของแม่ท้องอาจส่งผลต่อทั้งการคลอดและพัฒนาการของลูกน้อย แต่อย่าเพิ่งกังวลไปค่ะ เรามีคำแนะนำเพื่อรับมือกับอาการ คนท้องเครียด นอนไม่หลับ มาฝาก

 

ทำไมคนท้องนอนไม่หลับ

ปัญหาคนท้องนอนไม่หลับเกิดจากร่างกายและจิตใจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในช่วงตั้งครรภ์

สาเหตุทางกายภาพ 

  • ฮอร์โมนที่ผันผวนส่งผลต่อวงจรการนอนหลับโดยตรง 
  • อาการแพ้ท้อง โดยเฉพาะในช่วงแรก สร้างความไม่สบายตัวรบกวนการพักผ่อน 
  • มดลูกที่ขยายใหญ่ขึ้นกดทับกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ต้องลุกไปเข้าห้องน้ำบ่อยครั้ง 
  • อาการปวดเมื่อยตามตัวและขนาดครรภ์ที่ใหญ่ขึ้นยังทำให้หาท่านอนคนท้องที่สบายได้ยาก 
  • อาการแสบร้อนกลางอก เป็นอีกอุปสรรคสำคัญของการนอนหลับ

สาเหตุทางจิตใจและอารมณ์

ความเครียดและความกังวลเกี่ยวกับทุกเรื่อง ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงในชีวิต การคลอดที่กำลังจะมาถึง ไปจนถึงการเลี้ยงดูลูกน้อยในอนาคต ล้วนเป็นปัจจัยที่กวนใจคนท้อง นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของทั้งตนเองและลูกน้อยก็เป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้จิตใจไม่สงบ ส่งผลให้นอนหลับได้ยากขึ้นด้วย

 

คนท้องเครียด นอนไม่หลับ

 

อาการคนท้องนอนไม่หลับแต่ละไตรมาส

ปัญหาการนอนไม่หลับสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงของการตั้งครรภ์ โดยมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกันไปในแต่ละไตรมาส

  • คนท้องนอนไม่หลับ ไตรมาสแรก

มักถูกรบกวนจากอาการแพ้ท้อง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ทำให้รู้สึกไม่สบายตัวและนอนหลับยาก นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตและการเริ่มต้นของการตั้งครรภ์ก็อาจส่งผลต่อการนอนหลับได้

  • คนท้องนอนไม่หลับ ไตรมาสสอง

อาการแพ้ท้องมักดีขึ้น แต่ปัญหาใหม่ๆ เริ่มเข้ามา เช่น อาการปวดหลังที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสรีระ ท้องที่เริ่มขยายใหญ่ขึ้นทำให้หาท่านอนที่สบายยากขึ้น รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์

  • คนท้องนอนไม่หลับ ไตรมาสสาม

เป็นช่วงที่ปัญหาการนอนหลับอาจรุนแรงที่สุด เนื่องจากท้องมีขนาดใหญ่มาก ทำให้รู้สึกอึดอัดและหาท่านอนที่สบายได้ลำบาก การปัสสาวะบ่อยขึ้น และอาการเจ็บเตือนก่อนคลอด ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่รบกวนการนอนหลับ นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับการคลอดที่ใกล้เข้ามาก็เป็นอีกสาเหตุทำให้ คนท้องเครียด นอนไม่หลับ

 

คนท้องเครียด นอนไม่หลับ : ผลกระทบต่อการคลอด

การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอของแม่ท้องเพิ่มความเสี่ยงของการ คลอดก่อนกำหนด ซึ่งหมายถึงการคลอดที่เกิดขึ้นก่อนสัปดาห์ที่ 37 ของการตั้งครรภ์ นอกจากนี้ ยังเพิ่มความเสี่ยงทารกน้ำหนักแรกคลอดต่ำ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการพัฒนาของทารกในระยะยาวอีกด้วย

นอกจากนี้ มีข้อมูลบางส่วนที่ชี้ให้เห็นว่า การนอนหลับที่ไม่ดีของแม่ท้องอาจเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงอื่นๆ ในระหว่างการคลอด เช่น ระยะเวลาการคลอดที่ยาวนานขึ้น หรือ มีความจำเป็นในการผ่าคลอด อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความเชื่อมโยงเหล่านี้ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

คนท้อง เครียด นอนไม่หลับ : ผลกระทบต่อพัฒนาการลูกน้อยหลังคลอด

ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเดนเวอร์และมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เออร์ไวน์ ได้รวบรวมผลการศึกษาวิจัยที่ผ่านการตรวจสอบโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 34 รายการ ซึ่งส่วนใหญ่เผยแพร่ในช่วงปี 2019 ถึง 2024 งานวิจัยเหล่านี้ศึกษาลักษณะการนอนหลับของมารดาในช่วงตั้งครรภ์ และติดตามสุขภาพหรือพัฒนาการของบุตรในช่วงวัยทารกจนถึงวัยเด็ก ผลจากการวิเคราะห์นี้เผยให้เห็นความเชื่อมโยงที่น่าสนใจหลายประการ

 

คนท้องเครียด นอนไม่หลับ

 

  1. คนท้องนอนไม่หลับ อาจทำให้ลูกน้อยมีปัญหาการนอนหลับ

ทารกหรือเด็กจะนอนหลับไม่เพียงพอ กล่าวคือ นอนหลับสั้นลง ตื่นกลางดึกบ่อยขึ้น นอนหลับตอนกลางวันมากขึ้น และต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อยขึ้นเนื่องจากมีอาการผิดปกติของการนอนหลับ ซึ่งสอดคล้องกับประสบการณ์ของคุณแม่หลายท่านที่รับรู้ถึงความเชื่อมโยงระหว่างการนอนของตนเองและลูกน้อย

  1. คนท้องนอนไม่หลับ เพิ่มความเสี่ยงให้ลูกน้อยมีปัญหาด้านสุขภาพ

เช่น ภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง และโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจ

  1. คนท้องนอนไม่หลับ เพิ่มความเสี่ยงให้ลูกน้อยมีปัญหาด้านพัฒนาการ

เช่น อาการร้องไห้และงอแงมากเกินไป ภาวะสมาธิสั้น (ADHD) หรือพัฒนาการทางภาษาที่ล่าช้า

ผลการวิจัยเหล่านี้เน้นย้ำว่า รูปแบบการนอนหลับของคุณแม่ตั้งครรภ์อาจมีอิทธิพลอย่างมีนัยสำคัญต่อพฤติกรรมการนอนหลับของทารกหลังคลอด รวมถึงพัฒนาการที่สำคัญทั้งทางร่างกายและสติปัญญา

 

วิธีช่วยให้คนท้องนอนหลับง่ายขึ้น

 

วิธีช่วยให้แม่ท้องนอนหลับง่ายและสบายขึ้น

เพื่อให้คุณแม่ตั้งครรภ์นอนหลับได้ง่ายและสบายขึ้น ลองนำคำแนะนำเหล่านี้ไปปรับใช้ดูนะคะ

วิธีช่วยให้แม่ท้องนอนหลับง่ายและสบายขึ้น

สร้างตารางการนอนหลับ พยายามเข้านอนและตื่นนอนให้ตรงเวลาทุกวัน แม้แต่วันหยุดสุดสัปดาห์ เพื่อปรับนาฬิกาชีวิตของร่างกายให้เป็นปกติ
จัดห้องนอนให้เหมาะสม ทำให้ห้องนอนเงียบ สงบ มืดสนิท และมีอุณหภูมิที่สบาย เพื่อเอื้อต่อการนอนหลับที่มีคุณภาพ
เลี่ยงสารกระตุ้น งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ และน้ำอัดลม โดยเฉพาะในช่วงบ่ายและเย็น รวมถึงหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ลดปริมาณน้ำก่อนนอน ลดการดื่มน้ำปริมาณมากในช่วงใกล้เวลานอน เพื่อลดความจำเป็นในการลุกไปเข้าห้องน้ำกลางดึก
ขยับร่างกายเบาๆ ออกกำลังกายเบาๆ เป็นประจำ เช่น เดินเล่น โยคะสำหรับคนท้อง แต่หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่หนักหน่วงในช่วง 2-3 ชั่วโมงก่อนนอน
ผ่อนคลายจิตใจ ทำกิจกรรมที่ช่วยให้รู้สึกสงบและผ่อนคลายก่อนนอน เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลงบรรเลงเบาๆ ทำสมาธิ หรืออาบน้ำอุ่น
ใช้ตัวช่วยในการนอน ลองใช้หมอนสำหรับคนท้อง หรือหมอนอื่นๆ ที่ช่วยรองรับสรีระและบรรเทาอาการปวดเมื่อย เพื่อให้คุณแม่นอนหลับได้สบายขึ้น
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หากมีอาการนอนไม่หลับเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรับคำแนะนำในการรักษาที่เหมาะสม

 

ความเครียดและการนอนหลับที่ไม่เพียงพอในระหว่างตั้งครรภ์มิเพียงส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคุณแม่เท่านั้น แต่ยังอาจส่งผลเสียต่อพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์และหลังคลอดได้ อย่างไรก็ตาม มีหลากหลายวิธีที่จะช่วยให้คุณแม่ตั้งครรภ์นอนหลับดีขึ้นได้ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง การดูแลสภาพแวดล้อมในการนอน และการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเมื่อจำเป็น จะเป็นตัวช่วยสำคัญให้คุณแม่สามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ เพื่อสุขภาพที่ดีของทั้งคุณแม่และลูกน้อยค่ะ

 

ที่มา : psychologytoday

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

คนท้องชอบกินของหวาน เสี่ยงลูกพิการจริงไหม?

9 วิธีแก้ คนท้องหายใจไม่สะดวก บอกลาความอึดอัด หายใจไม่อิ่ม

คนท้องเจ็บจิมิ ปวดหัวหน่าว ร้าวไปยังอวัยวะเพศ สัญญาณใกล้คลอดหรือเปล่า

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!