MBTI กับการเลี้ยงลูก: เมื่อบุคลิกภาพกำหนดสไตล์การเลี้ยงดู

MBTI ของพ่อแม่ ไม่ใช่เครื่องมือวินิจฉัยจิตใจ แต่เป็นกระจกที่สะท้อน “แนวโน้ม” พฤติกรรมของเราในชีวิตประจำวัน รวมถึง “แนวทางในการเลี้ยงลูก” ด้วย
คุณเคยรู้สึกไหมว่า บางครั้งคุณใจเย็นกับลูกจนคนอื่นชม แต่บางครั้งคุณกลับรู้สึกหมดความอดทน แม้ลูกยังไม่ได้ทำอะไรผิด?” ความรู้สึกเหล่านี้อาจไม่ใช่เรื่องแปลก หากคุณเข้าใจว่าบุคลิกภาพของตัวคุณเองส่งผลต่อการเป็นพ่อแม่อย่างไร หนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยสะท้อนบุคลิกของเราได้ดี คือแบบทดสอบ MBTI (Myers-Briggs Type Indicator) ที่แบ่งคนออกเป็น 16 แบบ โดยอิงจาก 4 มิติทางจิตวิทยา MBTI ไม่ใช่เครื่องมือวินิจฉัยจิตใจ แต่ MBTI กับการเลี้ยงลูก เป็นกระจกที่สะท้อน “แนวโน้ม” พฤติกรรมของเราในชีวิตประจำวัน รวมถึง “แนวทางในการเลี้ยงลูก” ด้วย
MBTI คืออะไร?
MBTI แบ่งบุคลิกออกเป็น 4 คู่ตรงข้าม (8 ตัวเลือก รวมได้ 16 แบบ)
มิติ | ตัวเลือก | ความหมาย |
พลังงาน | E (Extrovert) / I (Introvert) | ชอบเข้าสังคมหรือชอบเก็บตัว |
การรับรู้ข้อมูล | S (Sensing) / N (iNtuition) | มองภาพรวม/ไอเดีย หรือเน้นข้อเท็จจริง |
การตัดสินใจ | T (Thinking) / F (Feeling) | ใช้เหตุผลหรือตัดสินใจจากความรู้สึก |
การใช้ชีวิต | J (Judging) / P (Perceiving) | ชอบวางแผนหรือยืดหยุ่น |
MBTI กับการเลี้ยงลูก : แตกต่างอย่างเข้าใจ
-
ISFJ – พ่อแม่สายอบอุ่นและใส่ใจ
บุคลิก: ใจดี อดทน มีความรับผิดชอบ
จุดเด่น: ใส่ใจลูกในทุกเรื่อง ให้ความรู้สึกปลอดภัยและมั่นคง
จุดที่ควรระวัง: อาจคาดหวังสูง หรือไม่กล้าปล่อยให้ลูกลองผิดเอง
-
ENFP – พ่อแม่สายสร้างสรรค์
บุคลิก: กระตือรือร้น ชอบพูดคุย เปิดใจกับโลก
จุดเด่น: สนุกกับการเลี้ยงลูก เปิดโอกาสให้ลูกเติบโตอย่างมีอิสระ
จุดที่ควรระวัง: อาจไม่สม่ำเสมอในการตั้งกฎเกณฑ์
-
ISTJ – พ่อแม่สายระเบียบ
บุคลิก: จริงจัง มีวินัย ยึดหลักการ
จุดเด่น: ให้ความมั่นคง สอนลูกด้วยวินัยและความรับผิดชอบ
จุดที่ควรระวัง: อาจยึดกฎมากเกินไปจนลูกอึดอัด
-
INFP – พ่อแม่ผู้เข้าใจจิตใจ
บุคลิก: อ่อนไหว ลึกซึ้ง มีอุดมคติ
จุดเด่น: ฟังลูกเก่ง เข้าใจอารมณ์ลูกดีเยี่ยม
จุดที่ควรระวัง: อาจใจอ่อนเกินไปหรือไม่เด็ดขาดเมื่อต้องตัดสินใจ
-
ENTJ – พ่อแม่ผู้นำสายวางแผน
บุคลิก: มั่นใจ เป็นผู้นำ วางแผนเก่ง
จุดเด่น: วางแผนอนาคตให้ลูกดี มีเป้าหมายชัดเจน
จุดที่ควรระวัง: อาจบังคับลูกให้ทำตามวิถีที่ตนมองว่า “ดีที่สุด”
-
ESFP – พ่อแม่สายเฮฮา
บุคลิก: สดใส ชอบความสนุก ใช้ชีวิตกับปัจจุบัน
จุดเด่น: ลูกมีความสุขและผูกพันกับพ่อแม่มาก
จุดที่ควรระวัง: อาจขาดการวางแผนหรือปล่อยให้ลูกตามใจเกินไป
ทำไม MBTI ถึงช่วยให้เข้าใจการเลี้ยงลูกได้ดีขึ้น?
- ช่วยให้เราเข้าใจ แนวโน้มทางพฤติกรรม ของตนเอง
- มองเห็น จุดแข็ง ที่เราใช้ส่งต่อให้ลูก
- ตระหนักถึง จุดที่ควรระวัง เพื่อไม่ให้กลายเป็นความคาดหวังที่มากเกินไป
- เข้าใจลูกมากขึ้น (หากรู้ MBTI ของลูกด้วย)
- เข้าใจคู่ชีวิต ทำให้การเลี้ยงลูกเป็นทีมเวิร์กมากขึ้น
แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าเราเป็น MBTI แบบไหน?
คุณสามารถเริ่มได้ง่ายๆ ด้วยการทำแบบสอบถาม MBTI ออนไลน์ ใช้เวลาเพียง 10–15 นาที เว็บไซต์แบบทดสอบ MBTI ที่แนะนำ
- 16Personalities (ภาษาไทย): ฟรี อ่านผลลัพธ์เข้าใจง่าย พร้อมภาพประกอบ
- truity.com (ภาษาอังกฤษ): ประเมินลึกและมีเวอร์ชันสำหรับพ่อแม่
- HumanMetrics: แบบคลาสสิก ใช้คะแนนประเมิน
- ค้นใน Google ด้วยคำว่า “MBTI ภาษาไทย” ก็มีหลายเวอร์ชันให้เลือก
เคล็ดลับก่อนทำแบบทดสอบ
- ตอบคำถามตาม “สิ่งที่คุณเป็นจริงๆ” ไม่ใช่ “สิ่งที่อยากเป็น”
- ทำตอนที่คุณสบายใจและไม่มีสิ่งรบกวน
- ใช้สัญชาตญาณในการตอบ อย่าคิดนานเกินไป
ถ้าลูกหรือคู่ชีวิตมี MBTI ต่างจากเรา?
ความแตกต่างอาจทำให้สื่อสารยากในบางครั้ง เช่น
พ่อแม่ INFJ ชอบความสงบแต่ลูกเป็น ENTP ชอบพูดและทดลอง
หรือแม่เป็น ISTJ ยึดตารางเวลาชัดเจน แต่ลูกเป็น INFP ที่ใช้ชีวิตตามอารมณ์
แต่ความต่างไม่ใช่ปัญหา หากเราเข้าใจและปรับตัว เช่น
- ใช้คำพูดน้อยลงเมื่อคุยกับลูก Introvert
- ให้ตัวเลือกและความยืดหยุ่นมากขึ้นกับลูกที่เป็น Perceiving
- ฝึกลูกให้เข้าใจขอบเขตเบาๆ แทนการออกกฎตายตัว
สรุป: MBTI คือจุดเริ่มต้นของความเข้าใจ ไม่ใช่เครื่องตัดสินว่าใครเป็นพ่อแม่ที่ดี
การเป็นพ่อแม่ไม่มีสูตรสำเร็จ แต่ MBTI ช่วยให้เรามองเห็นตัวเองชัดขึ้น
เมื่อเราเข้าใจตัวเอง เข้าใจลูก และเปิดใจกับความต่าง การเลี้ยงดูลูกก็จะกลายเป็น “การเติบโตไปพร้อมกัน” มากกว่าการควบคุม
ลองทำแบบสอบถาม MBTI กับการเลี้ยงลูก แล้วถามตัวเองว่า… “ฉันกำลังเลี้ยงลูกในแบบที่เข้ากับตัวเองหรือพยายามเป็นคนอื่น?” คำตอบนี้อาจเปลี่ยนมุมมองของคุณไปตลอดชีวิตพ่อแม่เลยก็ได้
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ลูกผิดได้ พ่อแม่ก็ผิดได้ พ่อแม่ที่ดีต้องกล้าขอโทษลูกเมื่อตัวเองทำผิด
ห่วงเกินไป ใช่ว่าดี! วิจัยเผย ลูกที่ถูกเลี้ยงแบบตีกรอบ เสี่ยงซึมเศร้า และภาวะวิตกกังวล
ปี 2025 เริ่มต้น เด็ก Gen Beta เด็กยุค AI ที่โลกไม่ควรละสายตา