คุณพ่อคุณแม่ควรตระหนักไว้ เลี้ยงลูกอย่างไรไม่ให้เป็นฆาตกร
าวความรุนแรงในครอบครัว หรือข่าวเยาวชนใช้ความรุนแรงจนทำให้มีผู้เสียชีวิต เราหรือพ่อแม่ยุคนี้ควรจะ เลี้ยงลูกอย่างไรไม่ให้เป็นฆาตกร
คุณพ่อคุณแม่ควรตระหนักไว้ เลี้ยงลูกอย่างไรไม่ให้เป็นฆาตกร
ในฐานะที่ดิฉันเรียนจบมาทางด้านจิตวิทยาพัฒนาการ และสนใจศึกษาเรื่องการเลี้ยงดูเด็กมาพอสมควร จึงขออนุญาตแนะนำวิธีง่าย ๆ และปฏิบัติได้จริงที่จะเลี้ยงลูกไม่ให้เติบโตมาเป็นอาชญากรของสังคม ดังนี้ค่ะ
1. เลี้ยงด้วยความรักอย่างมีสติ
ข้อนี้เป็นหัวใจหลักที่สำคัญที่สุด หากคุณพ่อคุณแม่ได้อ่านประวัติของฆาตกรในหนังสือหลายเล่ม เช่น เลี้ยงลูกอย่างไรไม่ให้เป็นฆาตกร แปลโดย คุณสรจักร จะพบว่าฆาตกรแทบทุกคนล้วนเติบโตมาโดยขาดความรัก ความอบอุ่น อาจโดนกระทำรุนแรงในครอบครัวตั้งแต่ยังเล็ก ทั้งทางร่างกาย วาจา และจิตใจ โดนทุบตีดุด่า หรือใช้อารมณ์ทำร้าย ทำให้พวกเขาไม่มีความไว้ใจโลกและคนรอบข้าง หวาดระแวงและท้ายที่สุดส่งผลให้ทำแบบเดียวกันกับที่ตนเคยถูกกระทำกับคนอื่น
ในทางตรงกันข้ามเด็กที่เติบโตมาด้วยความรัก จะเป็นเด็กที่ไม่รู้สึกขาด มีความมั่นคงทางอารมณ์ เป็นคนหนักแน่น รู้สึกอบอุ่น วางใจต่อโลกและคนรอบข้าง จิตใจอ่อนโยนและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
อย่างไรก็ดีความรักที่พ่อแม่มีให้ก็ควรเป็นความรักที่มีสติ เป็นความรักด้วยการใช้เวลาหรือการทำกิจกรรมร่วมกัน ไม่ใช่ความรักที่มีวัตถุเป็นตัวแทน ดังเช่นครอบครัวในปัจจุบันบางครอบครัว ที่ให้วัตถุสิ่งของ อย่างไอโฟน ไอแพด รถยนต์ บ้านคอนโด เสื้อผ้า ของเล่น ของใช้ราคาสูงลิ่ว เป็นตัวแทนความรักที่พ่อแม่ไม่สามารถหาเวลามาอยู่กับลูกได้ การทำเช่นนี้นอกจากลูกจะไม่สามารถสัมผัสถึงความรักที่พ่อแม่มีให้แล้ว ยังเป็นการสร้างค่านิยมผิด ๆ อย่างวัตถุนิยมให้กับลูก ซึ่งรังแต่จะทำให้ลูกเป็นคนที่ไม่รู้จักพอ คิดแต่อยากจะมี อยากจะได้สิ่งของต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา
การเลี้ยงลูกด้วยความรักอย่างมีสติยังหมายถึงการเลี้ยงลูกให้รู้ผิดชอบชั่วดีด้วย ไม่ใช่เลี้ยงลูกแบบตามใจ ลูกอยากได้อะไรก็ต้องได้ ทำอะไรให้ลูกทุกอย่างที่ลูกต้องการ จนลูกช่วยเหลือตัวเองไม่เป็น ไม่รู้จักว่าอะไรคือถูก อะไรควร เป็นแต่ร้องขอทุกอย่างจากพ่อแม่อยู่ร่ำไป เพราะคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่ง เช่นนี้แล้วจะเข้าข่าย พ่อแม่รังแกฉันอย่างไม่ต้องสงสัย
การเลี้ยงลูกแบบตามใจจนเกินควรตั้งแต่เล็ก ๆ จะนำไปสู่การเสียคนได้ง่าย ๆ เพราะลูกรู้ว่าตราบใดที่เขายังมีพ่อแม่เขาก็ย่อมจะได้รับสิ่งที่ต้องการไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม ในทางตรงกันข้ามการเลี้ยงลูกแบบรักด้วยเหตุผล บนพื้นฐานแห่งความถูกต้อง ไม่ตามใจ เขาก็จะเติบโตขึ้นมาแบบไม่เอาแต่ใจ รู้จักฟังคนรอบข้าง เอาใจเขามาใส่ใจเรา รู้ว่าในโลกใบนี้ยังมีผู้อื่นที่อาศัยอยู่ร่วมกัน ที่จะต้องถ้อยทีถ้อยอาศัย ดูแลและเติบโตไปด้วยกัน ไม่นึกถึงแต่ตัวเองเพียงอย่างเดียว
เคล็ดลับง่าย ๆ : ให้เวลากับลูก โอบกอด สัมผัส แสดงความรักทั้งทางร่างกาย วาจา ให้รับรู้ไปถึงจิตใจ ชมเชยลูกบ่อยๆ เมื่อ ทำสิ่งที่ดีงาม ถูกต้อง เหมาะสม ควรควบคุมอารมณ์ให้ดี ไม่ควรใช้อารมณ์กับลูก แต่เมื่อลูกทำผิดก็จำเป็นลงโทษ แต่ก็ต้องอธิบายด้วยเหตุผล เช่นกัน
2. เลี้ยงลูกให้รู้จักตนเองและโลกรอบตัวตามความเป็นจริง
พ่อแม่ควรปลูกฝังให้ลูกเรียนรู้จักตนเอง ว่าอะไรคือ ความสามารถของลูก ข้อดี ข้อด้อย ในตนเอง ที่สำคัญต้องสอนให้เขารู้จักรักและเห็นคุณค่าของตัวเอง บางอย่างที่เป็นจุดเด่น เป็นความสามารถก็ต่อยอดพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ส่วนที่เป็นข้อด้อยนั้น ถ้าปรับปรุงแก้ไขไม่ได้ ก็ให้มองข้ามมันไป และมุ่งพัฒนาจุดเด่นแทน เช่นนี้คุณค่าในตนเองของลูกก็จะมีมากมายมหาศาล จนไม่ต้องพึ่งพาคุณค่าภายนอกเช่นวัตถุสิ่งของ อันจะมีแต่การเติมไม่เต็มอยู่ร่ำไป
นอกจากนี้แล้วพ่อแม่ก็ต้องให้ลูกรู้จักโลกรอบตัวด้วย เข้าใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างคือ ความแตกต่างและเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา การเปรียบเทียบสิ่งต่าง ๆ กับคนอื่นไม่ใช่เรื่องจำเป็น เพราะคนเราแค่เกิดมาก็ยังต่างกันแล้ว ไม่มีทางและไม่มีความจำเป็นที่เราจะต้องเหมือนใคร หรือทำตามอย่างใคร นี่ก็จะทำให้ลูกไม่ตกอยู่ท่ามกลางกระแสวัตถุนิยมหรือ กระแสต่าง ๆ ในสังคม แต่มีจุดยืนหนักแน่นและแนวทางของตนเอง
เคล็ดลับง่าย ๆ : ฝึกตัวเองและลูกให้มองโลกในแง่บวกและยอมรับความเป็นจริง สิ่งใดเกิดขึ้นแล้วย่อมมีแง่ดีของมันอยู่ ที่จะทำให้เราได้บทเรียนอะไรบางอย่างจากมัน
3. เลี้ยงลูกให้รู้จักหน้าที่และความรับผิดชอบ
โดยมอบหมายงานในบ้านเล็ก ๆ น้อยๆ ให้ลูกทำตั้งแต่เล็ก เช่น ล้างจาน เก็บที่นอน เป็นการฝึกฝนให้ลูกมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ และทำตัวเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ซึ่งจะเป็นการปูพื้นฐานเรื่องการพึ่งพาตนเองให้แก่เด็ก ให้หัดช่วยเหลือตนเอง และรู้ว่าตนเองมีหน้าที่อย่างไร ควรทำสิ่งใด ไม่ควรทำสิ่งใด และที่สำคัญคือรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง นอกจากนี้พ่อแม่อาจฝึกให้ลูกรู้จักทักษะการแก้ปัญหา เมื่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเกิดปัญหาเฉพาะหน้าขึ้น เพื่อที่ในอนาคตลูกจะได้มีทักษะการแก้ปัญหาติดตัวไว้ในยามฉุกเฉิน
4. เลี้ยงลูกให้รู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ลดละความเห็นแก่ตัวนี้เป็นคุณสมบัติที่หาได้ยากมากกับคนในยุคนี้ ที่ทุกอย่างคือการแข่งขัน และตัวใครตัวมัน ทั้ง ๆ ที่คุณสมบัตินี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากในการอยู่ร่วมกัน การนึกถึงคนอื่น การเอาใจเขามาใส่ใจเรา จะทำให้เด็ก ๆ รู้ว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก สิ่งที่เขาทำนั้นกระทบไปถึงผู้อื่นด้วยไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตาม เหมือนคำกล่าวที่ว่า เด็ดดอกไม้ดอกเดียวสะเทือนไปถึงดวงดาว และหากลูกเข้าใจเรื่องนี้ เขาก็จะคิดมากขึ้นเมื่อจะตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง
เคล็ดลับง่าย ๆ : ชวนลูกออกไปทำกิจกรรมจิตอาสาใกล้ ๆ บ้าน
The Asianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และในเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น The Asianparent ที่ติดตามการตั้งครรภ์ ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งานฟรี เพื่อติดตามพัฒนาการของทารก ตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุด และผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์ และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก The Asianparent เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง
เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”
บทความที่เกี่ยวข้อง :
HVparent.com – How to not raise a serial killer
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
วิธีการเลี้ยงลูก ให้โตไป ประสบความสำเร็จ ความสัมพันธ์ ในครอบครัว ส่งผลอย่างไร
เลี้ยงลูกยุคใหม่ ต้องไม่ตี วิจัยเผย ยิ่งตีลูกยิ่งทําให้ลูกคิดไม่เป็น ลูกเป็นซึมเศร้า
10 วิธีเลี้ยงลูก ให้จิตใจเข้มแข็ง มีความมั่นคง ทางอารมณ์ โตไปประสบความสำเร็จ