อายุครรภ์ นับยังไง ไตรมาสคืออะไร จะรู้ได้อย่างไรว่าท้องกี่เดือน กี่สัปดาห์

undefined

วิธีนับอายุครรภ์แต่ละไตรมาส อายุครรภ์แต่ละไตรมาส นับยังไง คนท้องต้องดูแลตัวเองอย่างไรแต่ละไตรมาส

ระหว่างที่กำลังตั้งครรภ์ คุณแม่มือใหม่หลายคนอาจมีข้อสงสัยว่า อายุครรภ์ นับยังไง ตอนนี้ตัวของคุณแม่กำลังท้องอยู่ในไตรมาสไหน และความสำคัญของแต่ละไตรมาสที่แม่ต้องรู้ ทั้งการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย และการดูแลตนเองที่ถูกต้อง

ไตรมาสคืออะไร สิ่งสำคัญที่แม่ท้องต้องรู้

คำว่า ไตรมาส เป็นคำที่ใช้สำหรับแบ่งช่วงเวลาทุก 3 เดือนของแต่ละปี ส่วนมากจะนำมาใช้ในภาคธุรกิจ เศรษฐกิจ และการเงิน โดยใน 1 ปี มี 12 เดือน จึงสามารถแบ่งออกไปเป็น 4 ไตรมาสด้วยกัน แต่สำหรับการตั้งครรภ์นั้นจะนับไม่เหมือนกัน เพราะจะมีช่วงเวลาอุ้มท้องเพียง 9 เดือน จึงมีการแบ่งไตรมาสออกเป็น 3 ช่วงด้วยกัน ดังนี้

  • ไตรมาสที่1 เริ่มนับตั้งแต่สัปดาห์ที่ 1 ถึงสัปดาห์ที่ 14
  • ไตรมาสที่2 นับจากสัปดาห์ที่ 15 ถึงสัปดาห์ที่ 28
  • ไตรมาสที่3 นับจากสัปดาห์ที่ 29 ถึงสัปดาห์ที่ 42

อายุครรภ์ นับเป็นสัปดาห์ หรือเป็นเดือน

คนท้องต้องใส่ใจในทุกสัปดาห์ ทำให้การนับอายุครรภ์ ส่วนใหญ่แล้วจะนับเป็นรายสัปดาห์ ซึ่งดีต่อการติดตามอาการของคนท้องมากกว่า โดยทั่วไปแล้ว การนับอายุครรภ์ก็เพื่อคำนวณวันคลอดไว้คร่าว ๆ และการนับอายุครรภ์ที่แม่นยำ ต้องจำให้ได้ว่า ประจำเดือนมาครั้งสุดท้ายตอนไหน อย่างไรก็ตาม การคำนวณวันคลอดจากการนับอายุครรภ์นั้น เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น กำหนดคลอดแต่ละคน ขึ้นอยู่กับร่างกายของแม่ท้องเอง

ผศ.นพ.เมธาพันธ์ กิจพรธีรานันท์ สูติแพทย์ อธิบายถึงปัจจัยที่ทำให้คลอดเร็ว คลอดช้า คลอดก่อนกำหนด ว่า มีปัจจัยหลายอย่างมากำหนดวันเจ็บครรภ์คลอด ซึ่งโอกาสที่จะคลอดจริงตรงกับวันครบกำหนดคลอดที่คำนวณไว้เพียงร้อยละ 5 เท่านั้น เช่น

ครรภ์แรก หรือ ครรภ์หลัง ธรรมชาติของครรภ์แรกจะมีการเจ็บครรภ์ช้า ปากมดลูกแข็ง อยู่สูงและไม่พร้อมสำหรับการคลอด แต่ถ้าครรภ์หลัง ปากมดลูกเคยเปิดผ่านการคลอดมาก่อน ปากมดลูกนิ่ม และอยู่ต่ำ จึงมีแนวโน้มที่จะคลอดง่าย คลอดเร็วกว่า

บทความที่เกี่ยวข้อง : ฝากครรภ์ที่ไหนดี 2566 ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง มีขั้นตอนอย่างไร ?

 

วิดีโอจาก : Mali คลับคุณแม่มือใหม่

 

การนับอายุครรภ์แต่ละไตรมาส และความสำคัญ

อายุครรภ์ไตรมาสแรก นับตั้งแต่สัปดาห์ที่ 1-14

คนท้องไตรมาสแรก ร่างกายจะค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไปทีละน้อย ทำให้คุณแม่มีอาการดังนี้

 

  • แพ้ท้อง คลื่นไส้ อาเจียน : สัญญาณการตั้งครรภ์แรก ๆ ของร่างกาย คนท้องมักจะมีอาการแพ้ท้อง หลังจากการตั้งครรภ์ประมาณ 1 เดือน
  • ปวดเมื่อยล้าตามร่างกาย : ระยะแรกของการตั้งครรภ์ ระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจะเพิ่มมากขึ้น เป็นสาเหตุให้คุณแม่อยากพักผ่อน รู้สึกเพลียได้ง่าย จนไปถึงอาการปวดเมื่อยเนื้อตัว
  • ไวต่อกลิ่น : ช่วงก่อนมีประจำเดือนหรือช่วงที่กำลังมีประจำเดือน สาว ๆ มักจะได้กลิ่นง่ายเป็นพิเศษ คนท้องก็เช่นกัน จะมีประสาทสัมผัสไวต่อกลิ่น ทำให้เหม็นอาหารบางชนิด บางคนถึงกับเหม็นสามีด้วย
  • ร่างกายเปลี่ยนแปลง : หากสังเกตร่างกายตัวเองจะรู้สึกได้ว่า หน้าอกขยายใหญ่ขึ้น เริ่มเจ็บเหมือนกับช่วงก่อนมีประจำเดือน ทั้งยังปัสสาวะบ่อยขึ้น เพราะร่างกายมีปริมาณเลือดที่เพิ่มขึ้น

 

วิธีดูแลตัวเองของคนท้องไตรมาสแรก

  1. พักผ่อนเยอะ ๆ วันละ 8-10 ชั่วโมง หรือหาช่วงเวลางีบหลับในตอนกลางวัน
  2. ทำงานบ้านเบา ๆ หลีกเลี่ยงการทำความสะอาดหนัก ๆ หรืองานบ้านที่ต้องใช้สารเคมี เลี่ยงการยกของหนัก หรืองานที่ต้องยืนนาน ๆ
  3. หากมีอาการแพ้ท้อง แนะนำให้ดื่มน้ำขิง
  4. ปรึกษาแพทย์เรื่องการฉีดวัคซีน
  5. ถ้ามีอาการเลือดออกทางช่องคลอด ให้รีบไปพบแพทย์

 

อายุครรภ์ นับยังไง 12

 

อายุครรภ์ไตรมาสที่สอง นับตั้งแต่สัปดาห์ที่ 15-28

ในไตรมาสที่สอง ร่างกายของแม่จะเริ่มปรับตัวได้มากขึ้น อาการแพ้ท้องจะทุเลาลง แม่บางคนเริ่มมีอารมณ์ทางเพศมากขึ้น ซึ่งการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างตั้งครรภ์ ควรปรึกษาคุณหมอก่อน เพราะร่างกายแม่แต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่หากไม่มีความเสี่ยง คุณหมอก็จะอนุญาตให้มีเพศสัมพันธ์ได้ตั้งแต่ไตรมาสแรกจวบจนไตรมาสสุดท้าย สำหรับอาการของแม่ท้องไตรมาสที่สอง มักจะมีอาการดังนี้

 

  • หน้าท้องขยาย : มดลูกของแม่ท้องต้องขยายตัวเพื่อรองรับทารกในครรภ์ตัวน้อย ที่ค่อย ๆ เติบโตอย่างต่อเนื่อง ช่วงไตรมาสที่สองนี้ ขนาดของหน้าอกจะเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนขึ้น ควรหาชุดชั้นในคนท้องมาใส่ได้แล้ว
  • สีผิวเปลี่ยน สิวขึ้น มีฝ้า : แม่บางคนจะมีสีผิวที่เปลี่ยนไป เพราะฮอร์โมนของคนท้องทำให้เกิดการกระตุ้นเซลล์เม็ดสี เกิดเป็นกระ ฝ้า ได้ง่าย ๆ แม่ท้องบางรายเจอฤทธิ์ของฮอร์โมนเข้าไป สิวขึ้นตั้งแต่เริ่มท้องในไตรมาสแรก ดังนั้น ต้องระวังในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าและผิวกาย ทั้งยังต้องเลือกที่ปลอดภัยสำหรับคนท้อง และต้องทาครีมกันแดดทุกวัน
  • เลือดกำเดาออกได้ง่าย : ร่างกายผลิตเลือดมากขึ้น ทำให้เกิดอาการบวมของเส้นเลือดและเกิดเลือดออกได้ง่าย ๆ ทำให้เลือดกำเดาออกได้ง่าย หรือมีเลือดออกตามไรฟัน แปรงฟันแล้วเลือดออกบ่อย ๆ
  • ตกขาวมีมากขึ้น : แม่ท้องมักจะมีตกขาวเกิดขึ้น มีน้ำใส ๆ หรือตกขาวสีน้ำตาล แต่หากตกขาวมีสีอื่น กลิ่นแรง และคัน ควรพบแพทย์

 

วิธีดูแลตัวเองของคนท้องไตรมาสที่สอง

  1. ควรออกกำลังกายที่เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ หรือลองเล่นโยคะคนท้องดูก็ได้
  2. น้ำหนักแม่มากขึ้นแล้ว ควรเลี่ยงการใส่รองเท้าส้นสูง ใช้รองเท้าผ้าใบ หรือสวมรองเท้าส้นเตี้ยจะปลอดภัยกว่า ที่สำคัญ การเลือกรองเท้าควรเลือกสวมใส่ให้พอดี เดินแล้วเกาะกับพื้นดี เพื่อป้องกันการลื่นล้ม
  3. แม่อาจจะหิวบ่อย หิวมากขึ้น เพราะอาการแพ้ท้องลดลง แต่ก็ต้องเลือกรับประทานอาหารที่ดี มีประโยชน์ เน้นอาหารที่มีแคลเซียม อาหารที่โฟเลตสูง หรืออาหารที่มีธาตุเหล็ก
  4. แปรงฟันให้สะอาด เพื่อป้องกันเหงือกอักเสบ และควรไปพบหมอฟันเพื่อตรวจเช็กสุขภาพของช่องปาก
  5. ปรึกษาคุณหมอเรื่องนับลูกดิ้น

 

อายุครรภ์ไตรมาสที่สาม นับตั้งแต่สัปดาห์ที่ 29-42

ช่วงใกล้คลอด ท้องแก่ หรือในไตรมาสที่สาม มักจะมีอาการต่าง ๆ เกิดขึ้นกับร่างกายมากมาย เช่น ปวดหลัง เจ็บสะโพก เจ็บหัวหน่าว เป็นตะคริว ท้องผูกและเป็นริดสีดวงทวาร สำหรับอาการสำคัญของคนท้องไตรมาสสุดท้าย มีดังนี้

 

  • ท้องใหญ่ขึ้น ปวดหลัง ปวดสะโพก : ท้องที่ใหญ่ขึ้น ทำให้เกิดอาการมากมาย โดยเฉพาะอาการปวดหลัง ควรออกกำลังกายเบา ๆ ยืดตัวนิดหน่อยเพื่อผ่อนคลาย หลีกเลี่ยงการยืน นั่ง หรือเดินนาน ๆ และค่อย ๆ เปลี่ยนอิริยาบถ
  • คนท้องมักจะมีอาการหายใจเร็ว หายใจไม่อิ่ม : ท้องใหญ่ขนาดนี้ ทำให้คนท้องเหนื่อยง่าย หายใจลำบาก และพยายามหายใจเพื่อดึงเอาออกซิเจนเข้าไปในร่างกายมาก ๆ
  • กรดไหลย้อนมาเยือน : แม่บางคนมีอาการกรดไหลย้อนตั้งแต่ช่วงปลาย ๆ ของไตรมาสที่สอง เพราะทารกในครรภ์ตัวใหญ่ขึ้น การย่อยลำบากขึ้น ดังนั้น ควรป้องกันด้วยการไม่ทานอาหารครั้งละเยอะ ๆ ให้เน้นหลายมื้อหน่อย แต่มื้อละน้อย ๆ เลี่ยงอาหารมัน ลดเผ็ด ลดเปรี้ยว ที่สำคัญ ห้ามนอนหลังจากกินอาหารทันที
  • ท้องผูกและริดสีดวงทวาร : อีกหนึ่งอาการสำคัญของคนท้องคือ ท้องผูกและริดสีดวงทวาร รวมถึงอาการเส้นเลือดขอด ที่เกิดจากร่างกายของคนท้องฉีดสูบเลือดเพิ่มขึ้น มีวิธีป้องกันง่าย ๆ เช่น ออกกำลังกายด้วยการยกขา เลือกทานผักผลไม้ เน้นไฟเบอร์สูง เพื่อทำให้ขับถ่ายได้ง่าย แล้วอย่าลืมดื่มน้ำบ่อย ๆ
  • ปัสสาวะบ่อยขึ้น : ลูกเริ่มกลับหัวแล้วเคลื่อนตัวสู่อุ้งเชิงกราน ทำให้มดลูกกดทับกระเพาะปัสสาวะ บางคนไอ จาม แล้วเกิดปัสสาวะเล็ดด้วย

 

อายุครรภ์ นับยังไง 13

 

วิธีดูแลตัวเองของคนท้องไตรมาสสุดท้าย

  1. ใกล้คลอดจะง่วงนอนบ่อย หากเป็นไปได้ ให้งีบหลับระหว่างวัน เพราะแม่ท้องมักจะลุกไปเข้าห้องน้ำบ่อย ๆ ตอนกลางคืน จึงนอนหลับยาว ๆ ได้ยากขึ้น และควรหาหมอนมารองตามร่างกาย จะช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น
  2. ออกกำลังกายเฉพาะส่วน เพื่อลดอาการปวดหลัง ปวดเอว ปวดสะโพก
  3. เลือกชุดชั้นในที่เหมาะสม เนื่องจากแม่บางคนน้ำนมเริ่มซึมออกมาแล้ว
  4. ฝึกการหายใจเพื่อเตรียมคลอดได้แล้ว
  5. มือบวม เท้าบวม จะเกิดขึ้นได้บ่อย ๆ ต้องสังเกตว่า ถ้ากดบริเวณที่บวมแล้วบุ๋มลงไปเลย ให้ปรึกษาแพทย์
  6. ระวังเรื่องเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์ และอาการครรภ์เป็นพิษ
  7. อาการท้องแข็ง และเจ็บเตือน จะเกิดขึ้นได้บ่อย
  8. สังเกตร่างกายของตัวเองให้ดี แยกให้ออกระหว่าง เจ็บเตือน เจ็บจริง หากน้ำเดิน น้ำคร่ำแตก หรือมีอาการผิดปกติ ให้รีบไปโรงพยาบาล

 

รู้กันไปแล้วว่า อายุครรภ์ นับยังไง สิ่งสำคัญยิ่งกว่าการนับอายุครรภ์คือ การฝากครรภ์ให้เร็ว เพื่อให้คุณหมอตรวจวินิจฉัยร่างกายแม่อย่างละเอียด และอย่าลืมไปพบคุณหมอในทุกครั้งตามนัด ที่สำคัญ ต้องดูแลตัวเองให้ดีตลอดระยะเวลาการตั้งครรภ์ เลือกรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ ทานวิตามินบำรุงที่หมอให้ อยู่ให้ห่างบุหรี่ ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ และไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาด

 

มีข้อสงสัยอื่น ๆ เกี่ยวกับการตั้งครรภ์หรือเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ลองไปโพสต์คำถามใน แอปพลิเคชัน theAsianparent แล้วรอรับคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญหรือคุณพ่อคุณแม่มากประสบการณ์ท่านอื่น ๆ อีกกว่า 5 แสนคน !

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

คู่มือคุณแม่ตั้งครรภ์ เตรียมพร้อมรับเจ้าตัวน้อย คำแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่!

คลายข้อสงสัย วิธีนับลูกดิ้น นับยังไง ดิ้นแบบไหนที่บ่งบอกว่าลูกปลอดภัย

ฝากครรภ์ครั้งแรก คุณแม่เตรียมตัวอย่างไร ควรถามอะไรคุณหมอบ้าง ?

 

ที่มาข้อมูล : paolohospital

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!