คู่มือเลือกซื้อรถเข็นเด็ก ให้ปลอดภัย และเหมาะกับไลฟ์สไตล์ครอบครัว
อยากได้รถเข็นเด็กที่ปลอดภัย และสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของครอบครัว จะมีวิธีเลือกยังไง ชวนพ่อแม่มาศึกษา คู่มือเลือกซื้อรถเข็นเด็ก ก่อนตัดสินใจซื้อ
รถเข็นเด็กเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ในการพาลูกน้อยออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน การเลือกซื้อรถเข็นเด็กที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่อุ่นใจว่าลูกน้อยจะเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย ปลอดภัย และสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของครอบครัว แต่จะมีวิธีเลือกอย่างไร เราอยากชวนคุณพ่อคุณแม่มาศึกษา คู่มือเลือกซื้อรถเข็นเด็ก ก่อนตัดสินใจซื้อรถเข็นเด็กกันค่ะ
รถเข็นเด็กแต่ละประเภท
รถเข็นเด็กมีหลากหลายประเภท แต่ละแบบก็มีจุดเด่นและเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกันไป ดังนี้
1. รถเข็นเด็กแบบ Traditional strollers (รถเข็นเด็กแบบคลาสสิก)
รถเข็นเด็กแบบคลาสสิก เป็นรถเข็นที่มีขนาดใหญ่ มั่นคง และมีที่นั่งกว้างขวาง เหมาะสำหรับเด็กวัยทารกจนถึงวัยเตาะแตะ
- ข้อดี: ทนทาน สามารถปรับเอนนอนได้หลายระดับ มีที่เก็บของขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับการใช้งานในระยะยาว
- ข้อเสีย: มีน้ำหนักมาก พับเก็บยาก ไม่สะดวกในการพกพา
2. รถเข็นเด็กแบบ Umbrella strollers (รถเข็นเด็กพับได้)
รถเข็นเด็กแบบนี้ มีขนาดเล็ก พับเก็บง่าย น้ำหนักเบา เหมาะสำหรับพกพา
- ข้อดี: พกพาสะดวก เหมาะสำหรับการเดินทาง เหมาะสำหรับเด็กโตที่สามารถนั่งได้เอง
- ข้อเสีย: ไม่เหมาะสำหรับเด็กทารกแรกเกิด เพราะอาจไม่สามารถปรับเอนนอนราบได้
3. รถเข็นเด็กแบบ Jogging strollers (รถเข็นสำหรับจ็อกกิ้ง)
มีล้อขนาดใหญ่ 3 ล้อ ออกแบบมาเพื่อการวิ่งจ็อกกิ้ง เหมาะสำหรับครอบครัวที่ชอบออกกำลังกาย
- ข้อดี: เหมาะสำหรับวิ่งจ็อกกิ้ง สามารถวิ่งบนพื้นที่ขรุขระได้ดี
- ข้อเสีย: มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก ไม่เหมาะสำหรับการพกพา
4. รถเข็นเด็กแบบ Combination strollers (รถเข็นเด็กแบบปรับเปลี่ยนได้)
เป็นรถเข็นที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้หลากหลาย เช่น เปลี่ยนจากรถเข็นสำหรับเด็กทารกเป็นรถเข็นสำหรับเด็กโต
- ข้อดี: ใช้งานได้หลากหลายคุ้มค่า คุ้มราคา
- ข้อเสีย: มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก
5. รถเข็นเด็กแบบ Car-seat carrier strollers (รถเข็นเด็กแบบที่วางคาร์ซีท)
รถเข็นเด็กแบบนี้จะมีที่วางสำหรับติดตั้งคาร์ซีทโดยตรง ทำให้สามารถใช้งานคาร์ซีทเป็นที่นั่งในรถเข็นได้
- ข้อดี: สะดวกในการเดินทาง ไม่ต้องปลุกเด็กขณะย้ายจากรถยนต์มายังรถเข็น
- ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูง
ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกซื้อรถเข็นเด็ก
คู่มือเลือกซื้อรถเข็นเด็ก สิ่งสำคัญที่สุด ควรพิจารณาในเรื่องความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และความสอดคล้องกับไลฟ์สไต์ โดยมีรายละเอียดที่ควรทราบดังนี้
-
ความปลอดภัย
การเลือกซื้อรถเข็นเด็กที่ปลอดภัย เป็นเรื่องที่พ่อแม่ทุกคนต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก รถเข็นเด็กคุณภาพดี แม้จะมีราคาสูงกว่า แต่ก็คุ้มค่ากับการลงทุน เพราะสามารถใช้งานได้นาน และยังสามารถส่งต่อให้กับเด็กคนอื่นๆ ในครอบครัวได้อีกด้วย
รถเข็นเด็กที่ไม่ได้มาตรฐานหรือมีส่วนประกอบที่ไม่แข็งแรง อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ เช่น รถเข็นพลิกคว่ำ สายรัดขาด เด็กหลุดออกจากรถเข็น หรือส่วนประกอบของรถเข็นหลุดออกมาทำร้ายเด็กได้
คู่มือเลือกซื้อรถเข็นเด็ก ให้ปลอดภัย
- มาตรฐานความปลอดภัย รถเข็นเด็กควรผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ
- สายรัดนิรภัย ควรมีสายรัด 5 จุด ที่สามารถปรับระดับได้อย่างเหมาะสม ทำให้รัดตัวเด็กได้อย่างแน่นหนา แต่ไม่รัดแน่นเกินไปจนรู้สึกอึดอัด สายรัดควรมีความยืดหยุ่นพอสมควร และปลดล็อกได้ง่ายเมื่อต้องการ
- เบรก ก่อนตัดสินใจซื้อรถเข็นเด็ก ควรทดลองใช้ระบบเบรกที่ร้าน เพื่อให้แน่ใจว่าเบรกทำงานได้ดีและใช้งานง่าย ควรลองเข็นรถเข็นบนพื้นที่เอียง และลองวางน้ำหนักในตะกร้าใส่ของ เพื่อทดสอบว่าระบบเบรกสามารถหยุดรถเข็นได้มั่นคงในทุกสถานการณ์
- โครงสร้าง รถเข็นต้องแข็งแรง มั่นคง ไม่มีส่วนที่ยื่นออกมาหรือมีขอบคมที่อาจทำให้เด็กบาดเจ็บ นอกจากนี้ ไม่ควรมีช่องว่างระหว่างแกนโครงที่เด็กอาจสอดนิ้วเข้าไปได้
- วัสดุที่ใช้ผลิต วัสดุต้องแข็งแรง ทนทาน ทำความสะอาดง่าย ปราศจากสารพิษที่เป็นอันตรายต่อเด็ก ก่อนซื้อควรตรวจสอบว่า วัสดุที่ใช้สามารถถอดหรือเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายหรือไม่ พับเก็บเข้า หรือกางออกได้ง่ายหรือไม่ การระบายความร้อนภายในรถเข็นดีหรือไม่
- ล้อ ล้อต้องแข็งแรงและหมุนได้คล่องตัว สามารถใช้งานบนพื้นที่ขรุขระได้
- ฐาน ฐานรถเข็นควรมีความกว้างเพื่อป้องกันการล้ม
- ที่วางเท้า ควรยาวตลอดพื้นที่นั่งและไม่มีช่องว่างระหว่างที่วางเท้า
- ของเล่น หากมีของเล่นติดมากับรถเข็น ควรเลือกของเล่นที่ปลอดภัยและไม่มีชิ้นส่วนเล็กๆ ที่อาจหลุดออกมา
-
ความสะดวกสบาย
นอกจากความปลอดภัยแล้ว ความสะดวกสบายก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อรถเข็นเด็ก เพราะจะส่งผลต่อทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูกน้อยในการใช้งานประจำวัน
ความสะดวกสบายสำหรับลูกน้อย
- เบาะนั่ง เบาะนั่งควรนุ่มสบาย รองรับสรีระของเด็ก และสามารถปรับระดับเบาะนั่งและนอนได้ให้เหมาะสมกับวัยของเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับทารกแรกเกิดที่คอยังไม่แข็งแรง ควรเลือกรถเข็นที่มี ฟังก์ชั่นปรับเอนนอนได้เกือบราบ เพื่อให้ลูกน้อยนอนในท่าที่ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์และเมื่อเด็กคอแข็งมากขึ้นก็สามารถปรับเป็นเบาะนั่ง เพื่อให้ลูกน้อยนั่งได้สบายตลอดการเดินทาง
- หลังคาบังแดด หลังคาควรสามารถปรับระดับได้ ป้องกันแสงแดดที่แยงตา และปิดเวลาฝนตก หรือลมแรง เพื่อป้องกันฝุ่นละอองเขาตาลูก
- ที่วางเท้า ที่วางเท้าควรปรับระดับได้ เพื่อให้เด็กสามารถวางเท้าได้อย่างสบายในทุกอิริยาบถ
- พื้นที่ภายในรถเข็น พื้นที่ภายในรถเข็นเด็กควรกว้างพอให้เด็กเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
- การระบายอากาศ รถเข็นเด็กควรระบายอากาศที่ดี เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศร้อนอบอ้าวภายในรถเข็น
ความสะดวกสบายสำหรับพ่อแม่
- น้ำหนัก รถเข็นควรมีน้ำหนักเบา สามารถยกและเข็นได้สะดวก
- การพับเก็บ รถเข็นควรพับเก็บได้ง่ายและมีขนาดกะทัดรัด เพื่อสะดวกในการพกพาและจัดเก็บเหมาะสมกับพื้นที่ทั้งภายในบ้าน และภายในรถ
- การปรับด้ามจับ โดยทั่วไป ที่จับรถเข็นเด็กจะถูกออกแบบมาให้มีความสูงที่เหมาะสมกับส่วนใหญ่ของผู้ปกครอง คืออยู่ประมาณระดับเอวหรือต่ำกว่าเล็กน้อย สำหรับผู้ปกครองที่มีส่วนสูงแตกต่างกันมาก หรือครอบครัวที่สมาชิกหลายคนช่วยกันเข็นรถเข็น ควรเลือกแบบที่มีที่จับปรับระดับได้ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข็นได้อย่างสะดวกสบาย
- ล้อ ล้อควรหมุนได้คล่องตัวและลื่นไหล เพื่อให้เข็นรถเข็นได้ง่าย
- ตะกร้าใส่ของ ตะกร้าใส่ของควรมีขนาดใหญ่พอสำหรับใส่ของใช้ต่างๆ ของลูกน้อย
-
เลือกที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์
การเลือกซื้อรถเข็นเด็กที่ดีนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของแต่ละครอบครัวด้วย การเลือกซื้อรถเข็นที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างตรงจุด จะทำให้การเลี้ยงลูกน้อยเป็นเรื่องที่ง่ายและสนุกมากยิ่งขึ้น โดนมีหลักในการพิจารณาดังนี้
ความถี่ในการใช้งาน
- ใช้งานบ่อย ควรเลือกรถเข็นที่ทนทาน มีคุณภาพสูง และมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน
- ใช้งานน้อย อาจเลือกแบบพับเก็บง่าย น้ำหนักเบา เพื่อสะดวกในการพกพา
สถานที่ที่ต้องใช้งาน
- พื้นที่ขรุขระ ควรเลือกรถเข็นที่มีล้อขนาดใหญ่ และระบบกันสะเทือนที่ดี เพื่อให้การเดินทางบนพื้นที่ขรุขระเป็นไปอย่างราบรื่น
- ในเมือง หากส่วนใหญ่อยู่ในเมือง อาจเลือกแบบพับเก็บง่าย น้ำหนักเบา เพื่อสะดวกในการขนส่งโดยรถสาธารณะ
- เดินทางบ่อย ควรเลือกแบบพับเก็บได้เล็ก เพื่อประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บ และมีล้อที่หมุนได้คล่องตัว
พื้นที่เก็บของ
- ของเยอะ ควรเลือกรถเข็นที่มีตะกร้าใส่ของขนาดใหญ่ และมีช่องใส่ของเล็กๆ เพิ่มเติม
- ของน้อย อาจเลือกแบบที่มีตะกร้าใส่ของขนาดพอดี เพื่อลดน้ำหนักของรถเข็น
หวังว่า คู่มือการเลือกซื้อรถเข็นเด็ก ให้ปลอดภัยและเหมาะกับไลฟ์สไตล์ ที่เรานำมาฝากนี้จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่และลูกน้อยมีความสุขกับการออกไปข้างนอกมากยิ่งขึ้น และสิ่งสำคัญ แม้ว่ารถเข็นเด็กจะเลือกรถเข็นเด็กที่ปลอดภัยแล้ว แต่ก็ไม่ควรปล่อยให้ลูกน้อยอยู่ในรถเข็นโดยลำพัง ควรมีผู้ดูแลอยู่ใกล้ชิดเสมอนะคะ
ที่มา : healthychildren.org , สสส. , consumerreports.org
บทความที่น่าสนใจอื่นๆ
เลือกรถเข็นเด็กแบบไหนดี ? เดินทางง่าย ใส่คาร์ซีทได้ พับได้ ลุยได้ทุกที่ รู้ข้อดี-ข้อเสียก่อนซื้อ
พาลูกเที่ยวตอนกี่เดือน ทารกเดินทางได้ตอนกี่เดือน เคล็ดลับเดินทางครั้งแรกกับทารก
พาลูกเที่ยวต่างประเทศ ที่ไหนดี ? 5 ประเทศสุดฮิตในเอเชีย ที่เหมาะกับเด็กๆ