8 วิธีง่าย ๆ อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ พ่อแม่ไม่เก่งก็ฝึกลูกได้
ภาษาอังกฤษสำคัญขึ้นเรื่อย ๆ ตามยุคสมัย อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ ทำได้ไม่ยาก หากรู้วิธีที่จะช่วยเสริมทักษะด้านภาษาให้ลูก ใครที่กำลังมองหาวิธีดี ๆ หาได้จากบทความนี้แน่นอน
8 วิธี อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ ห้ามพลาด
ภาษาอังกฤษสำคัญแค่ไหน ใคร ๆ ก็รู้ ยิ่งฝึกให้ลูกเร็วเท่าไหร่ ความหวังที่ลูกจะเก่งภาษาอังกฤษยิ่งส่องสว่างมากขึ้นเท่านั้น วันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่า จะมีวิธีไหนที่ช่วยได้บ้าง ทุกวิธีของเราผู้ปกครองที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษก็สามารถนำไปใช้ได้แน่นอน
1. ใช้เทคนิค English Time
เป็นเทคนิคที่ฝึกการสื่อสาร และสร้างความเคยชินเกี่ยวกับภาษาอังกฤษของเด็ก ๆ ด้วยการกำหนดช่วงเวลาของแต่ละวัน เช่น ทุกเวลา 18.30 – 19.00 น. ทุกคนในบ้านจะต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารกัน เป็นที่มาของคำว่า “English Time” นั่นเอง ระหว่างนั้นห้ามใช้ภาษาไทย ยกเว้นในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น ด้วยโดยปกติแล้วการเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ มา หากไม่ได้นำมาใช้จริงจะลืมได้ การได้ลองพูดลองคุย พอสงสัยว่าคำนี้พูดอย่างไร แล้วหาคำตอบจะยิ่งเกิดการเรียนรู้ที่มากขึ้นได้
อย่างไรก็ตามการใช้เทคนิคนี้ที่ตึงเครียดเกินไปก็ไม่ส่งผลดี ดังนั้นระหว่างอยู่ในช่วง English Time ควรสังเกตด้วยว่าลูก ๆ มีส่วนร่วมไหม มีความกดดันหรือเปล่า หรือทำให้ลูกมีความเครียด ก็อาจลดเวลาลง เพื่อให้ลูกค่อย ๆ ปรับตัวผ่านไปให้ได้ในช่วงแรกก่อน จากนั้นค่อยเพิ่มเวลากลับมาในภายหลังก็ได้เช่นกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง : 50 ประโยคภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน ฝึก Eng ให้ลูกไม่ใช่เรื่องยาก
วิดีโอจาก : ChocoDiary
2. ใช้เกม หรือกิจกรรมเป็นตัวช่วย
การเรียนรู้แบบตรง ๆ มีเด็กน้อยคนที่จะชอบ การเรียนรู้ที่ได้ทั้งความรู้ และความสนุกไปพร้อม ๆ กัน เป็นมิตรกับเด็กเล็กมากกว่า เพราะเด็กจะรู้สึกว่าตนเองไม่ได้เรียนอยู่ แต่กำลังเล่น ช่วยสร้างความต้องการที่จะเรียนรู้ไปด้วยแบบเนียน ๆ ซึ่งมีหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการเล่นบทบาทสมมุติ การเล่นเกมที่เกี่ยวกับคำศัพท์ภาษาอังกฤษ เช่น การทายคำ (Flash Card) ไปจนถึงการร้องเพลงภาษาอังกฤษ และการดูการ์ตูนภาษาอังกฤษสั้น ๆ เป็นต้น
โดยให้ผู้ปกครองคำนึงด้วยว่าสื่อ หรือกิจกรรมที่เลือกมา มีระดับภาษาอังกฤษเหมาะสมกับเด็ก ๆ หรือไม่ หากเลือกมายากเกินไป กิจกรรมที่เลือกมาทำ ก็สามารถเปลี่ยนจากความสนุก กลายเป็นกิจกรรมที่ยาก สร้างความกดดัน ความเครียดของเด็กให้เพิ่มขึ้นมาแทนได้
3. รอบตัวเป็นภาษาอังกฤษ
อย่างที่เราชอบพูดกันว่าการเรียนรู้เกิดขึ้นได้ทุกที่ ยิ่งเป็นภาษาอังกฤษยิ่งนำมาใช้ได้ เด็กเล็กนั้นเป็นวัยที่กำลังเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัว บางอย่างที่ลูกรักไม่รู้จักก็มักจะเอ่ยปากถามว่านั่นคืออะไร นี่คืออะไร ใช้ทำอะไร เรียกว่าอะไร แทนที่จะบอกลูกไปเฉย ๆ อาจเพิ่มภาษาอังกฤษตามไปด้วย บอกไปพร้อมกันเลยว่าภาษาไทยเรียกว่าอะไร ภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไร แล้วให้ลูกพูดตาม เมื่อเจอสิ่งของ หรือสถานที่นั้น ๆ อีก ให้ถามลูกว่าจำได้ไหมว่าอันนี้ภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไร
สำหรับเด็กเล็กยังสามารถเรียนรู้จากภาพได้ดีอีกด้วย นอกจาก Flash Card แล้ว หากที่บ้านมีหนังสือภาพ ก็สามารถนำมาเปิดดูรูปภาพไปพร้อม ๆ กับลูก ชี้แล้วบอกลูกว่าสิ่งนั้นในภาพคืออะไร ภาษาไทยคืออะไร ภาษาอังกฤษคืออะไร ก็ถือเป็นการเรียนรู้ที่สามารถทำได้ไม่ยาก
บทความที่เกี่ยวข้อง : 60 คำศัพท์เกี่ยวกับสถานที่ ไปไหนลูกก็ฝึก Eng ได้แบบเนียน ๆ
4. ปรับแวดล้อมให้เอื้อต่อภาษาอังกฤษ
วิธีนี้สามารถทำได้ง่าย แต่รับรองเลยว่าผู้ปกครองหลายท่านคงคิดไม่ถึงแน่นอน เมื่อบ้านที่อยู่อาศัยเป็นสถานที่เล่น พักผ่อน และยังเป็นสถานที่เรียนรู้ได้ เพียงแค่เดินไปยังจุดต่าง ๆ ด้วยการนำกระดาษคำศัพท์ภาษาอังกฤษมาแปะตามสิ่งของภายในบ้าน เช่น แปะตามเก้าอี้ โซฟา ตู้เย็น หรือโต๊ะที่ลูกใช้ทำการบ้าน เป็นต้น เพื่อให้ลูกได้ซึมซับภาษาอังกฤษแม้จะทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับภาษาอังกฤษเลย ผู้ปกครองอาจเสริมด้วยการเรียกสิ่งของภายในบ้านเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อทดสอบความเข้าใจของลูก ว่าวิธีนี้ช่วยได้มากน้อยแค่ไหน
5. พาลูกไปข้างนอกให้บ่อยที่สุด
หากลูกรักไม่ได้มีปัญหาใด ๆ กับการออกไปข้างนอกบ้าน โดยเฉพาะจุดที่อาจทำให้เจอคำศัพท์ภาษาอังกฤษเยอะ เช่น ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า หรือร้านอาหาร เป็นต้น เมื่อเจอภาษาอังกฤษตามทาง ก็สอนลูกไปด้วยว่าอ่านว่าอะไร แปลว่าอะไร ยิ่งไปในสถานที่หลากหลาย ก็ยิ่งได้คำศัพท์แขนงต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้นตามโอกาสนั่นเอง ซึ่งสถานที่แนะนำ คือ ห้างสรรพสินค้า เนื่องจากเป็นศูนย์รวมของสินค้าทุกประเภท ทำให้ลูกวัยเรียนรู้สามารถพบเจอภาษาอังกฤษได้หลายรูปแบบ
6. เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์
กลับมาที่การเรียนเหมือนเดิม แต่แตกต่าง คือ ความกดดันที่น้อยกว่า เพราะเป็นการเรียนจากคลิปวิดีโอ หรือจะสมัครเรียนออนไลน์ไม่ต้องเดินทางไปกลับสถาบันกวดวิชาก็ได้ การเรียนเสริมเป็นช่องทางที่สามารถเลือกให้เหมาะกับลูกได้มากกว่าที่โรงเรียนแน่นอน หากสังเกตว่าลูกไม่สนุกกับการเรียนที่โรงเรียน ผู้ปกครองก็สามารถหาคอร์สเรียนที่มีรูปแบบการสอนที่สนุก ไม่กดดัน สร้างความรู้สึกอยากเรียนให้กับลูกได้ ซึ่งในปัจจุบันคอร์สเรียนนั้นมีหลายแบบให้เลือก แน่นอนว่าต้องมีสักแบบที่เหมาะกับลูกรักตัวน้อยแน่นอน
7. เรียนมา ฝึกมา ต้องเน้นความต่อเนื่อง
ไม่ว่าจะใช้การเรียนรู้แบบไหน วิธีไหนก็แล้วแต่ทั้งเรียนจากห้องเรียน หรือเรียนรู้จากกิจกรรม ทุกช่องทางที่ลูกได้รู้ภาษาอังกฤษมา ต้องอย่าลืมหาเวลาทบทวน ให้ไม่ลืมไปเฉย ๆ เพราะการเรียนรู้เรื่องภาษานั้นมีความแตกต่างกับการเรียนรู้ชนิดอื่น ๆ หากการทบทวน ขาดการพูดถึง อาจทำให้ต้องกลับมารื้อฟื้นอีกครั้ง ซึ่งก็คงเสียเวลาแน่นอน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ดีเมื่อลูกกลับมาจากโรงเรียน ผู้ปกครองอาจใช้เวลาชั่วครู่เพื่อถามว่าเรียนอะไรมาบ้าง ไหนมาลองท่องคำศัพท์ที่เรียนมาด้วยกันดีกว่า เป็นต้น
8. ความตั้งใจไม่ควรขาดรางวัล
การให้รางวัลกับลูกเมื่อลูกทำได้ดี เช่น ทำกิจกรรมแล้วได้คะแนนดี มีทักษะภาษาอังกฤษเพิ่มมากขึ้น หรือทำคะแนนสอบได้ดี เมื่อลูกแสดงออกมาให้เห็นว่า มีความตั้งใจ มีความเข้าใจ และไม่ย่อท้อต่อการเรียนรู้ ผู้ปกครองไม่ควรปล่อยไปเฉย ๆ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้ารู้สึกภูมิใจในตัวลูกก็ให้พูดออกมา ให้ลูกได้รับรู้ว่าตนเองทำได้ดีแค่ไหน นอกจากนี้รางวัล หรือของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือสิ่งที่ลูกอยากได้ก็ควรซื้อมาให้เป็นกำลังใจต่อไปได้เช่นกัน
เมื่อลูกได้ภาษา พ่อแม่ก็อุ่นใจ การส่งเสริมเรื่องต่าง ๆ โดยเฉพาะการเรียนรู้ ไม่ใช่สิ่งที่ต้องรอเวลา หากรีบทำตั้งแต่ตอนนี้จะยิ่งได้เปรียบ ลูกยิ่งมีเวลาเรียนรู้มากเก่งเร็วแน่นอน
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
40 สำนวนภาษาอังกฤษ อ่านแบบนี้ แต่แปลอีกอย่าง ทดสอบลูกวัยเรียน
อยากให้ลูกเป็นหมอ พ่อแม่อย่าพลาดลืมทำ 6 ข้อนี้เด็ดขาด !
5 วิธีสอนภาษาอังกฤษลูกก่อนนอน เปลี่ยนช่วงเวลาเดิม ๆ ให้สนุกพร้อมความรู้
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!
