ออกจากงานมาเลี้ยงลูก ดีมั้ย? ควรทำงานประจำ หรือเป็นแม่ Full Time

undefined

คุณแม่ที่ยังสับสน ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะออกจากงานมาเลี้ยงลูก เป็นคุณแม่ full time ดีไหม ตามมาดูบทความนี้กันค่ะ

เชื่อว่าคุณแม่ทุกคน รวมถึงคุณแม่ที่เป็น Working Mom มีงานประจำต้องรับผิดชอบ แต่ก็อยากเลี้ยงลูกด้วยตัวเองให้ดีที่สุด แต่บ่อยครั้งที่งานประจำอาจช่วงชิงเวลาการเลี้ยงลูกไปบ้าง ทำให้ต้องมีการฝากเลี้ยง ทั้งฝากปู่ย่าตายาย พี่เลี้ยง ไปจนถึงเนอสเซอรี่ ที่บางครั้งก็มีวิธีการเลี้ยงดูลูกต่างไปจากที่คุณแม่คิดและตั้งใจไว้ ประโยค “ออกจากงานมาเลี้ยงลูก” จึงอาจดังก้องวนไปมาในหัว สร้างความรู้สึกหลากหลายให้คุณแม่ เริ่มตั้งแต่มองเห็นข้อดีว่าจะมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ชิดติดตามทุกพัฒนาการลูกในทุกๆ วัน แต่ก็มีความกังวลเรื่องภาวะการเงิน และความรู้สึกผิดลึกๆ ในใจที่ต้องทิ้งโอกาสในการทำงานไปด้วย การลาออกหรือไม่ จึงนับเป็นการตัดสินใจที่สำคัญ เป็นการแลกเปลี่ยนที่ต้องใช้ความกล้าและความเสียสละอย่างมาก วันนี้ จึงจะชวนคุณแม่มาพูดคุยกันว่า ออกจากงานมาเลี้ยงลูก ดีมั้ย? ควรทำงานประจำ หรือเป็นแม่ Full Time ดีนะ พร้อมแชร์ประสบการณ์จากคุณแม่ที่ “เลือกแล้ว” ในกลุ่มเฟซบุ๊ก “ห้องนั่งเล่นพ่อแม่” เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของคุณแม่ในเบื้องต้นค่ะ

ออกจากงานมาเลี้ยงลูก

ข้อดีของการเป็นคุณแม่ Full Time ออกจากงานมาเลี้ยงลูก

  • ดีต่อพัฒนาการลูก

การมีผู้ปกครองคนใดคนหนึ่งอยู่ดูแลอย่างเต็มที่นั้นส่งผลดีต่อลูกน้อยในทุกช่วงอายุค่ะ ทั้งในเรื่องพฤติกรรม พัฒนาการ และการเรียนรู้ รวมถึงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ดี ซึ่งคุณแม่สามารถดูแลและส่งเสริมการเรียนรู้ของลูกได้อย่างเต็มที่ ได้มีส่วนร่วมไปกับทุกพัฒนาการในทุกๆ วันของลูก นอกจากนี้ ในแง่พฤติกรรม การที่มีคุณแม่ดูแลแบบ Full Time ยังช่วยลดความเครียดและความก้าวร้าวของลูกได้ด้วย

  • สร้างความผูกพันกับลูก

คุณแม่ Full Time ที่ออกจากงานมาเลี้ยงลูกจะได้มีโอกาสดูแลลูกอย่างใกล้ชิด ได้ใช้ทุกช่วงเวลาในการสร้างความผูกพันอันแน่นแฟ้นกับลูกน้อยค่ะ

  • ความสุขทางใจ

การได้เห็นลูกเติบโตในทุกๆ วัน ได้อยู่ในช่วง “ครั้งแรก” ของพัฒนาการทุกด้านของลูก ทั้งการพลิกคว่ำ การคลาน การพูดออกเสียง การนั่ง ตั้งไข่ ไปจนถึงก้าวแรกที่ลูกเดิน นับเป็นความสุขที่หาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้จริงๆ ค่ะ

คุณแม่ full time

ทำไม? “ออกจากงานมาเลี้ยงลูก” เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก

ต้องยอมรับนะคะว่าด้วยบริบทของสังคมไทยนั้นยังมีท่าทีที่กำหนดให้ผู้หญิงเป็นคนเลี้ยงลูกเป็นหลัก แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจกลับบังคับให้ผู้หญิงยังต้องทำงานนอกบ้านด้วย ซึ่งการมีลูกนั้นส่งผลกระทบต่อชีวิตการทำงานของคุณแม่อย่างแทบหลีกเลี่ยงไม่ได้ การมีลูกส่งผลต่อโอกาสทางเศรษฐกิจของผู้หญิงไม่เพียงในระยะสั้นเท่านั้น แต่ในระยะยาว การตัดสินใจ “ออกจากงานมาเลี้ยงลูก” เปลี่ยนงาน หรือลดบทบาทการทำงานจะส่งผลต่อเส้นทางความก้าวหน้าทางการงานและความมั่นคงทางการเงินของคนเป็นแม่ในวันข้างหน้า

นอกจากนี้ การเลี้ยงลูกไปด้วยทำงานไปด้วย อาจส่งผลกระทบต่อบางครอบครัว จนต้องมีคนใดคนหนึ่งจำเป็นต้องออกจากงานเพื่อเลี้ยงดูลูกได้เต็มที่ หรืออาจต้องเปลี่ยนมาทำงานพาร์ตไทม์ ฝากเลี้ยง คุณแม่บางคนยังทำงานเหมือนเดิม แต่ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง เพราะต้องกลับบ้านเร็ว ไปทำงานต่างจังหวัดนานๆ ไม่ได้ หรือลาบ่อยขึ้นเพื่อที่จะไปดูลูก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ 1 หรือ 2 ปี ในช่วงที่ลูกยังเล็ก แต่จำเป็นต้องออกจากงานนานถึง 2-3 ปี พอจะกลับเข้าไปทำงานใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย จึงเรียกได้ว่าสามารถส่งผลกระทบทั้งชีวิตของคนเป็นแม่ได้เลยค่ะ

 

ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจ ออกจากงานมาเลี้ยงลูก

ภาวะการเงิน
  • การไม่มีรายได้ประจำอาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินของครอบครัว
  • คุณแม่จำเป็นต้องมีการประเมินงบประมาณรายได้และค่าใช้จ่ายของครอบครัว ว่าเพียงพอต่อการใช้ชีวิตในระยะยาวหรือไม่
  • ควรมีการวางแผนการใช้จ่ายอย่างรอบคอบ หากเป็นไปได้อาจลองหาแหล่งรายได้เสริมไว้ซัพพอร์ตเพิ่มเติมได้
ความกังวลเรื่องงานและอนาคต
  • อาจทำให้คุณแม่รู้สึกว่ากำลังทิ้งโอกาสในการเติบโตในสายอาชีพ
  • คุณแม่ต้องมองที่ความต้องการของตัวเองและลูก ต้องพิจารณาว่าลูกต้องการการดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดในช่วงวัยใด และค้นหาว่าตัวคุณแม่เองต้องการอะไรจากชีวิตในช่วงเวลานี้ด้วย
  • การหางานใหม่อีกครั้ง หลังจากห่างไปนาน 2-3 ปี อาจเป็นเรื่องยาก
การสนับสนุนจากคนรอบข้าง
  • มุมมองของสังคมที่มีต่อการเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูกเต็มเวลาอาจทำให้คุณแม่รู้สึกกดดัน และเกิดความเครียด
  • การสนับสนุนจากคุณพ่อของลูกน้อย ที่ต้องมีส่วนร่วมในการรับภาระหน้าที่นำรายได้เข้าสู่ครอบครัว เป็นสิ่งสำคัญ ว่ามีความคิดเห็น หรือมีความพร้อมต่อการตัดสินใจออกจากงานมาเลี้ยงลูกของคุณแม่หรือไม่ มากน้อยเพียงใด โดยควรเป็นความสมัครใจในการตัดสินใจร่วมกัน

 

ออกจากงานมาเลี้ยงลูก ดีมั้ย

ออกจากงานมาเลี้ยงลูก ดีไหม? แชร์ประสบการณ์จากคุณแม่ในกลุ่ม “ห้องนั่งเล่นพ่อแม่”

คุณแม่หลายคนอาจยังพอมีเวลาในการคิดและตัดสินใจว่าจะทำงานไปด้วย เลี้ยงลูกไปด้วย หรือจะลาออกจากงานมาเป็นคุณแม่ Full Time แต่บางคนก็กำลังกังวลที่จะต้องเลือกทางเดินของความเป็นแม่แล้ว ลองมาฟังความคิดเห็นจากคุณแม่ที่ “เลือกแล้ว” 10 คน ซึ่งเราขออนุญาตสรุปความคิดเห็นของแต่ละคนมาให้ดังนี้ค่ะ

 

1. ข้อดี คือ ได้จัดระเบียบแบบแผนการเลี้ยงลูกเองทั้งหมด ตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน จัดการพัฒนาการต่างๆ ได้รู้นิสัยใจคอ เห็นพัฒนาการทุกย่างก้าว ปรับกันไปทุกวัน ข้อเสีย เงินลดลงแน่นอน จากที่เคยมีเงินตัวเองก็ต้องรอเงินสามี และอาจจะรู้สึกด้อยค่าตัวเองได้ แล้วก็เหนื่อยสุดๆ

 

2. ข้อเสียไม่มีหรอกค่ะ ถ้าเงินพอใช้ ไม่ขัดสน นี่ก็ไม่ได้ทำงานมา 4 ปีแล้ว เลี้ยงลูกเองคนเดียวมาตลอด ไม่มีคนช่วยก็เหนื่อยหน่อย แต่เรื่องเงินไม่ขัดสน ตามชนบทข้าวของไม่ค่อยแพง พออยู่ได้มีความสุขดี ได้เลี้ยงลูกแบบที่เราคิดไว้ตั้งเเต่เเรก

 

3. เลี้ยงเองมา 7 ปีแล้ว ข้อดี คือได้เลี้ยงลูกเองเห็นทุกพัฒนาการของลูก ข้อเสีย ก็คือขาดรายได้ แต่เราขายออนไลน์มาก่อนมีน้อง ก็มีรายได้เสริมของตัวเอง พอกินพอใช้

 

4. ถ้ารายได้ไม่มากพอ (หรือรวย) ระยะยาวอาจมีทุกข์เพราะเงินไม่พอใช้จ่ายค่ะ คนแบกภาระเครียด จนอาจพาลเผลอปากไม่ดีใส่แม่ Full Time ให้น้อยเนื้อต่ำใจ ถ้าจำเป็นขอให้ลาออกแค่ช่วงสั้นๆ ก็พอ เพราะดีกับลูก แต่ข้อเสียก็มีเยอะเหมือนกัน ชั่งใจดีๆ

แม่ full time ได้ใช้เวลาคุณภาพกับลูก

 

5. เลี้ยงเอง แต่ไม่ได้ลาออกจากงานนะคะ เพราะเงินก็สำคัญ เราเอาลูกไปฝากที่เนอร์สเซอรี่ตั้งแต่ 3 เดือน มีกล้องให้ดูได้ตลอดเวลา เช้าตื่นเตรียมตัวไปส่งลูกและไปทำงานเลิกงานก็ไปรับลูกมาดูแล ตอนนี้ลูก 3 ขวบกว่าแล้ว

 

6. เลี้ยงเองดีทุกอย่าง แต่ต้องมั่นใจสถานะการเงินที่สามีจะหล่อเลี้ยงเรากับลูกได้จนกว่าเราจะได้กลับไปทำงาน หรืออาจจะไม่มีโอกาสกลับไปทำงานด้วย และต้องมั่นใจว่าสามีจะไม่มองเราเป็นภาระในวันหลัง และเราต้องทำใจว่าสังคมเราจะแคบลง อะไรที่อยากได้ให้ตัวเองอาจมีข้อจำกัดเพราะไม่มีรายได้แล้ว

 

7. ข้อดีคือสนิทกับลูกมาก ลูกไว้ใจมาก อ่านนิทานก่อนนอนด้วยกัน ไม่รู้สึกเสียดายเลยที่ต้องออกงานมาเลี้ยงลูก มันคุ้มค่ามาก อันนี้คือแฟนมีรายได้เพียงพอ ไม่ได้อดอยากลำบากอะไรนะคะ แต่ถ้ามีปัญหาเรื่องเงินก็ต้องทำงานแหละค่ะ

 

8. หากไม่คิดเรื่องการได้เลี้ยงลูกเองออกไป อยากให้แม่ลองคำนวณรายได้ที่หาได้ต่อเดือน กับเงินที่จะต้องจ้างพี่เลี้ยง/ฝากเลี้ยงดูนะคะ + ความเห็นท่านอื่นเกี่ยวกับรายได้สามี แต่อยากให้คิดดีๆ นะคะ เศรษฐกิจไม่ดี ไม่มีอะไรแน่นอน ความมั่นคงของแม่สำคัญไม่แพ้กัน

 

ข้อดีของการลาออกมาเลี้ยงลูก

 

9. ตั้งใจที่จะมีลูกและเลี้ยงลูกเอง มีเงินเก็บก้อนนึง คิดว่าสามารถช่วยแบ่งเบาภาระสามีได้บางส่วน แต่เหตุการณ์พลิก เพราะป่วยบ่อยจนต้องใช้เงินเก็บรักษาตัว แต่พอพยายามมีลูกตั้งแต่ฝากท้องจนคลอด เราเป็นคนเดียวที่เลี้ยงและอยู่กับลูก 24/7 มันเป็นความเหนื่อยที่บางครั้งก็มีความสุข

 

10. เราลาออกมาเลี้ยงลูกค่ะ แต่พอลูกเข้าโรงเรียนแล้วกลับไปทำงานเถอะค่ะ เลี้ยงลูกเองมันดีจริงๆ ดีมากๆ ค่ะ แต่มันก็มีข้อเสีย เราไม่เคยนึกเผื่อไว้ว่าหากสามีไปก่อนมันจะลำบาก สามีพี่เสียไปเมื่อ 3 ปี ที่แล้ว กว่าจะผ่านมาได้ ลำบากมากเหมือนกัน อย่าลืมคิดเผื่ออนาคตข้างหน้าด้วยนะคะ

 

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจลาออกจากงานมาเลี้ยงลูกเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิด แต่อยากให้คุณแม่ทุกคนพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และเลือกทางเลือกที่เหมาะสมกับตัวเองและครอบครัวที่สุด สิ่งสำคัญที่สุดคือการให้ความสำคัญกับความสุขของทุกคนในบ้าน การดูแลสุขภาพตัวเองและการดูแลลูกน้อยให้เติบโตอย่างแข็งแรงและมีความสุขนะคะ

 

 

ที่มา : thematter.co , กลุ่มเฟซบุ๊ก “ห้องนั่งเล่นพ่อแม่” , thaipbskids.com

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เจ้าหนูจำไม ถามเก่ง ถามไม่หยุด พ่อแม่ควรรับมือยังไงดี

ปี 2025 เริ่มต้น เด็ก Gen Beta เด็กยุค AI ที่โลกไม่ควรละสายตา

ค่าขนมลูกวันละกี่บาทดี ? คู่มือสำหรับพ่อแม่ยุคใหม่

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!