นักวิจัยชี้ แม่เครียดตอนท้อง เป็นภัยเครียดที่ส่งผลต่อพฤติกรรมลูกในท้องสูง

แม่เครียดตอนท้อง ทำไมการจัดการความเครียดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญในระหว่างที่กำลังตั้งครรภ์

นักวิจัยกล่าวว่า แม่เครียดตอนท้อง มารดาที่มีความเครียดสูง มีโอกาสที่ลูกจะมีปัญหาทางด้านพฤติกรรม และเพื่อเป็นการป้องกันสุขภาพของทารกน้อยที่อยู่ในครรภ์ คุณแม่ตั้งครรภ์จำเป็นต้องเลิกนิสัยที่ไม่ดีต่าง ๆ เช่นการสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในขณะที่งานวิจัยใหม่ ๆ ได้แนะนำให้ว่าที่คุณแม่ทั้งหลายควรมีความพยายามที่จะยับยั้งนิสัยที่ไม่ดีอื่น ๆ ด้วย เพื่อทำให้ความเครียดนั้นหมดไป!

นักวิจัยชี้ แม่เครียดตอนท้อง ต้องรีบจัดการความเครียด

ตามข้อมูลของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Ottawa พบว่าความเครียดของแม่ท้องนั้นสามารถส่งผลต่อพัฒนาการสมองของทารกในครรภ์ ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาในด้านพฤติกรรมเพิ่มมากขึ้น อย่างเช่น ภาวะสมาธิสั้น และจากทีมวิจียที่นำโดย ดร. เอียน โคลแมน (Dr. Ian Colman) กล่าวว่า "มารดาที่แสดงให้เห็นถึงการมีระดับความเครียดที่สูงในระหว่างตั้งครรภ์ จะมีแนวโน้มที่ลูกจะเกิดมีอาการของโรคสมาธิสั้นและมีปัญหาด้านพฤติกรรมมากขึ้นกว่าสองเท่า ง่าย ๆ ก็คือ “ถ้าแม่มีความเครียดสูงก็จะทำให้ลูกมีอาการดังกล่าวสูง”

แม่เครียดตอนท้อง

เด็กที่เกิดมาจากผลกระทบที่แม่เครียดตอนท้อง ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ในวัยเรียนจะมีอาการสมาธิสั้นหรือมีพฤติกรรมกเกเรคล้ายอันธพาล ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาในสังคมและความสัมพันธ์ระหว่างตัวเด็กเองกับครอบครัวและเพื่อนได้ ดังนั้นการลดความเครียดในช่วงก่อนคลอด อาจมีบทบาทสำคัญในการช่วยป้องกันปัญหาด้านพฤติกรรมสำหรับลูกน้อยที่จะเกิดมา

เคล็ดลับช่วยว่าที่คุณแม่ตั้งครรภ์จัดการกับความเครียด

  • มองหาต้นตอของความเครียด ดูว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณแม่เครียดอยู่ในตอนนี้และพยายามแก้ปัญหาให้หลุดออกไป
  • หาที่ปรึกษา ซึ่งก็คือคนที่อยู่ใกล้ตัวคุณแม่มากที่สุด ระบายในสิ่งที่กำลังรู้สึกเครียด กังวลให้สามีฟัง
  • ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น ด้วยการลดภาระทางใจในระหว่างการตั้งครรภ์ เช่น การนั่งสมาธิ เล่นโยคะ หรือทำอะไรก็ตามที่คิดว่าเหนื่อยมากให้น้อยลง และเรียนรู้ที่จะพูดว่า “ไม่”
  • หาเวลาให้กับตัวเอง ทำในสิ่งที่ชอบ ไม่ว่าจะเป็นงานอดิเรกหรือกิจกรรมการออกกำลังสำหรับคนท้อง

แม่เครียดตอนท้อง

แม้เราไม่อาจหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความเครียดในชีวิตได้ทุกครั้ง โดยเฉพาะการตั้งครรภ์ที่ทำให้คุณแม่ทั้งหวาดกลัวและเกิดความวิตก แต่ก็ควรพยายามที่จะจัดการความเครียดนั้นให้ออกไปจากชีวิตอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะทำให้ลูกที่จะคลอดออกมานั้นเติบโตขึ้นมาเป็นเด็กอารมณ์ดี มีความสุขนะคะ

คนท้อง ร้องไห้ แม่เครียดเสี่ยงแท้ง ลูกในท้องโตช้า คลอดออกมาลูกซึมเศร้า

คนท้อง ร้องไห้ แม่เครียดเสี่ยงแท้ง

รู้หรือไม่! คนท้อง ร้องไห้ แม่เครียดเสี่ยงแท้ง ความคิดมากของแม่ กระทบลูกในท้อง ทำให้ทารกเติบโตช้าในครรภ์ เสี่ยงทารกติดเชื้อในครรภ์สูงขึ้นด้วย

 

ไม่อยากดราม่า แต่กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ แม่เครียดขนาดนี้ กลัวลูกในท้องจะเป็นอันตราย

แม่ท้องเครียดเกินไปหรือเปล่า

คนท้องร้องไห้ทุกวัน จากปัญหาถาโถม ไหนจะมีเรื่องกับแม่ผัว พอเครียดก็ไม่อยากแต่งตัว ปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้โทรม จนผัวเมิน เผลอ ๆ ผัวก็แอบไปมีกิ๊ก พอจับได้ก็ยิ่งเครียด ร้องห่มร้องไห้ไปกันใหญ่

ไม่ว่า ปัญหาอะไร ก็ถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนท้อง ไม่ใช่ว่าดราม่าไปเองหรอกนะ มันมีเหตุผล

นักวิจัยชี้ แม่เครียดตอนท้อง เป็นภัยเครียดที่ส่งผลต่อพฤติกรรมลูกในท้องสูง

 

ทำไมคนท้องร้องไห้บ่อย ร้องไห้ง่าย ให้กับเรื่องไม่เป็นเรื่อง

คนท้อง ร้องไห้บ่อย ๆ ระหว่างตั้งครรภ์ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ เพราะระดับฮอร์โมนที่สูงขึ้น อารมณ์แม่ก็จัดเต็มตามไปด้วย เดี๋ยวก็ดีเดี๋ยวก็ร้าย อารมณ์สวิงไปมา และยากที่จะควบคุมได้ โดยเฉพาะในช่วงตั้งครรภ์ไตรมาสแรก หรือ 3 เดือนแรก ที่กำลังท้องอ่อน ๆ นอกจากนี้ อาการที่เกิดจากการตั้งครรภ์ อาทิ อาการคลื่นไส้อาเจียน อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ นอนน้อย ปวดหลัง ปัสสาวะบ่อย พวกนี้ก็ส่งผลทำให้คนท้องเบื่อ เหนื่อย เครียด!

สำหรับคนท้องบางคน ก็จะมีอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ เป็นครั้งคราว ตลอดระยะเวลาการตั้งครรภ์ นั่นก็เพราะตอนท้อง ร่างกายของแม่ท้องเปลี่ยนไปมากมาย ความรู้สึกไม่ชอบรูปร่างตัวเองก็เกิดขึ้น พบกับปัญหาผิวแตกลาย คอดํา รักแร้ดํา หัวนมดำ จนหงุดหงิด ไหนจะความเจ็บปวดของร่างกาย ปวดเมื่อยเนื้อตัว เดินไม่ถนัด เจ็บตรงโน้นตรงนี้ สิ่งเหล่านี้ก่อตัวเป็นความเครียดขึ้นทีละเล็กทีละน้อย

อาการเครียดในระยะสั้นของคนท้อง

หากแม่เครียดเล็กน้อย และสามารถปรับตัวได้ จะไม่มีผลเสียต่อการตั้งครรภ์ แม่บางคนแปรเปลี่ยนความเครียดเป็นการดูแลตัวเองระหว่างตั้งครรภ์ให้ดีขึ้น ส่งผลให้สุขภาพแม่แข็งแรง ทารกในครรภ์เติบโตดี แต่ถ้าแม่ท้องเครียดมาก ๆ รู้หรือเปล่าว่า ผลเสียต่อตัวแม่ท้องและทารกในครรภ์นั้นรุนแรงมาก สำหรับอาการเครียดในระยะสั้นของคนท้องก็เช่น

  • เกิดอาการเหนื่อย
  • นอนไม่หลับ
  • ตื่นเต้น
  • เบื่ออาหารหรือเจริญอาหารมาก
  • ปวดศีรษะ และปวดหลัง
  • ถ้าปล่อยให้เครียดนานจะทำให้ภูมิต้านทานต่อการติดเชื้อลดลง ความดันโลหิตสูง และเกิดโรคหัวใจตามมาได้

ความเครียดของแม่ท้องส่งผลต่อทารกในครรภ์

ภาวะเครียดของแม่ ทำให้สารเคมีและฮอร์โมนที่เกิดจากความเครียดหลั่งออกมามาก ส่งผลให้เส้นเลือดที่ไปยังมดลูกและรกเกิดการหดตัว ปริมาณออกซิเจนที่ไปยังทารกในครรภ์ลดน้อยลง จึงเกิดอันตรายและความเสี่ยงมากมาย ดังนี้

  • เกิดการแท้ง
  • ทารกเติบโตช้าในครรภ์
  • ทารกติดเชื้อในครรภ์สูงขึ้น
  • มีรายงานว่าทารกที่คลอดจากมารดาที่มีภาวะเครียด ในระหว่างตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในการตั้งครรภ์ช่วงแรกจะมีอารมณ์ซึมเศร้า และไวต่อการกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อมภายนอก
  • ผลที่เกิดกับทารกในระยะยาว จะทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อ โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวานเพิ่มขึ้น
  • ส่งผลถึงปัญหาทางจิตใจ และการปรับตัวทางสังคมตามมา

 

ลูกจะรู้สึกยังไง หากคุณเเม่ร้องไห้ตอนท้อง

เวลาที่แม่ท้องเครียดรู้หรือไม่ว่า ลูกจะรู้สึกยังไง จากงานวิจัยของ Psychological Science พบว่า เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์เข้าสู่เดือนที่ 6 ลูกในครรภ์จะสามารถรับรู้อารมณ์ของคุณแม่ได้ และผลกระทบนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้นด้วยนะคะ เพราะอารมณ์ที่คุณแม่รู้สึกนั้นจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่กำหนดทัศนคติของลูกด้วย

เมื่อคุณแม่เครียด ร่างกายของคุณแม่จะหลั่งฮอร์โมนแห่งความเครียดออกมา แม้ว่าอารมณ์ของคุณแม่จะส่งผ่านถุงน้ำคร่ำไปหาลูกไม่ได้ แต่ฮอร์โมนของคุณแม่สามารถทำได้ เครียดเป็นครั้งคราวลูกได้รับฮอร์โมนเป็นครั้งคราว ไม่เป็นไร แต่ถ้าลูกได้รับฮอร์โมนนี้บ่อย ๆ เข้า ลูกก็จะมีอาการเครียดเรื้อรัง แถมยังทำให้ลูกมีอาการโคลิคเมื่อคลอดออกมาแล้วด้วย โดยฮอร์โมนแห่งความเครียด หรือ คอร์ติซอล (cortisol) ถ้าร่างกายได้รับบ่อย ๆ หรือได้รับมากไป นอกจากจะทำให้เป็นโรคอ้วนแล้ว ยังส่งผลต่อการทำงานของสมองอีกด้วย ทำให้สมองส่วนฮิปโปแคมปัส ที่เกี่ยวข้องการเรียนรู้ ความจำต่าง ๆ ทำงานลดลง

 


credit content : www.consumeraffairs.com

บทความอื่นที่น่าสนใจ :

“งานแม่” ไม่มีวันจบ ผลสำรวจเผย แม่ที่ เลี้ยงลูกอยู่บ้าน เครียด โกรธ ซึมเศร้า ไม่ได้สบายอย่างที่คิดเล้ย!

สงสารลูกเถอะ! แม่ท้องเครียด ส่งผลถึงพัฒนาการลูก ถ้ารักลูกอย่าเครียดเลยนะจ๊ะแม่!!

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!