แม่ท้องดื่มน้ำอัดลม เสี่ยงลูกในครรภ์น้ำหนักตัวเกิน
น้ำอัดลม ส่งผลเสียต่อลูกในครรภ์อย่างไร มีผลวิจัยมาฝาก
แม่ท้องดื่มน้ำอัดลมแบบไม่มีน้ำตาล เสี่ยงลูกในครรภ์น้ำหนักตัวเกินกำหนด
คุณอาจดื่มน้ำอัดลมได้บ้างเป็นครั้งคราว แต่ไม่ควรดื่มเป็นประจำทุกวันนะครับ เพราะอาจส่งผลเสียต่อลูกน้อยแบบที่คุณไม่รู้ตัว
น้ำอัดลม กับผลกระทบต่อลูกในครรภ์
น้ำอัดลม เป็นเครื่องดื่มที่ใครหลายคนชื่นชอบ รวมไปถึงแม่ท้องด้วย เพราะมีความหวานและให้ความสดชื่นแก่ร่างกาย แต่เชื่อหรือไม่ครับว่า น้ำอัดลมนั้นมีข้อเสียที่แม่ท้องไม่ควรละเลยอยู่มากทีเดียว ไม่ว่าจะมีน้ำตามหรือไม่มีน้ำตาล เมื่อแม่ท้องดื่มเข้าไปแล้ว ก็อาจส่งผลเสียต่อลูกน้อยในครรภ์ได้เหมือนกันครับ
หลายคนคิดว่าการดื่มน้ำอัดลมจะทำให้อ้วน จึงเปลี่ยนมาดื่มน้ำอัดลมแบบไม่มีน้ำตาลแทน เพราะเชื่อว่าปริมาณแคลอรี่ที่มีอยู่น้อยจะไม่ส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น แต่น้ำอัดลมแบบไม่มีน้ำตาลนั้นยังมีส่วนผสมของสารให้ความหวานแทนน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ ซึ่งจะส่งผลต่อลูกในท้อง
จากผลการวิจัยล่าสุดพบว่า แม่ท้องที่มีการบริโภคสารให้ความหวานแทนน้ำตาลอาจส่งผลทำให้ลูกน้อยในครรภ์มีภาวะน้ำหนักตัวเกิน และเสี่ยงต่อโรคอ้วนในอนาคตได้
และจากผลการวิจัยถึงความสัมพันธ์จากคู่แม่ลูกจำนวน 2,413 คู่ พบว่า เด็กที่เกิดจากแม่ดื่มน้ำอัดลมที่มีสารให้ความหวานแทนน้ำตาลในปริมาณมาก จะมีความเสี่ยงเป็นสองเท่าที่จะทำให้ลูกมีน้ำหนักตัวมากกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
จากการสำรวจพบว่า 5.1 % ของแม่ท้องมีการดื่มน้ำอัดลมที่มีสารให้ความหวานเป็นประจำทุกวัน ในขณะที่ 23.4 % ดื่มน้ำอัดลมแบบที่มีน้ำตาลปกติ
ดอกเตอร์ Mark A. Pereira และนายแพทย์ Matthew W. Gillman ผู้ร่วมการวิจัยให้ความเห็นว่า “การดื่มเครื่องดื่มที่มีสารให้ความหวานแทนน้ำตาลในขณะตั้งครรภ์เป็นประจำ จะทำให้ลูกที่เกิดมาเป็นโรคอ้วน ซึ่งบางทีแม่ท้องที่ดื่มเครื่องดื่มเหล่านั้นอาจยังไม่ทราบถึงผลเสียที่กำลังจะตามมา”
อย่างไรก็ตามยังต้องมีการค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเพิ่มเติมในอนาคต เพราะในขณะนี้ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าการดื่มเครื่องดื่มที่มีสารให้ความหวานแทนน้ำตาลของแม่ท้องนั้น ส่งผลเสียโดยตรงต่อลูกน้อยได้อย่างไร แต่เพื่อความปลอดภัยของทั้งคุณแม่และลูกน้อย ควรดื่มน้ำอัดลมแต่พอดี หรือหากเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงไปจะดีที่สุดครับ แต่หากคุณแม่ท่านใดชอบดื่มน้ำอัดลมทุกวัน ก็อย่าลืมปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้นะครับ
ที่มา fitpregnancy.com
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!
