จำความรู้สึกนั้นได้ไหม ลูกดิ้นครั้งแรกรู้สึกอย่างไร
การดิ้นของลูก เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงสุขภาพของลูกน้อยในครรภ์ และบอกได้ว่าลูกน้อยกำลังตื่น หรือว่านอนหลับอยู่ โดยตั้งแต่สัปดาห์ที่ 14 หรืออย่างช้าคือสัปดาห์ที่ 18 เป็นช่วงที่ลูกเริ่มดิ้นและคุณแม่จะรู้สึกได้ชัดเจนขึ้นเป็นครั้งแรก
จำความรู้สึกนั้นได้ไหม ลูกดิ้นครั้งแรกรู้สึกอย่างไร
ลูกดิ้นครั้งแรกรู้สึกอย่างไร
ลูกดิ้นครั้งแรกรู้สึกอย่างไร
จากการที่ได้พูดคุยกับคุณแม่หลายๆท่าน ความรู้สึกตอนที่ลูกดิ้นครั้งแรกนั้น จะว่าไปแล้ว ความรู้สึกนี้ก็ยากที่จะอธิบาย คุณแม่บางท่านก็บอกว่า มีความรู้สึกเหมือนผีเสื้อกระพือปีกอยู่ในท้องคล้ายๆกับตอนที่มีอาการตื่นเต้น บางท่านก็ว่ารู้สึกเหมือนมีอะไรมาดุนๆอยู่ในท้อง บางท่านก็ว่ารู้สึกเหมือนตอนท้องร้อง ในขณะที่บางท่านก็บอกว่า รู้สึกเหมือนโดนปลาตอด
แต่ไม่ว่าจะรู้สึกอย่างไรก็ตาม คุณแม่แต่ละท่านต่างก็เล่าถึงประสบการณ์ ครั้งแรกที่ลูกดิ้น ด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้มด้วยกันทั้งนั้น
ลูกดิ้นรู้สึกอย่างไร
เจ้าตัวน้อยในท้องของแม่
อย่างไรก็ตาม คุณแม่ต้องอย่าลืมว่า เด็กแต่ละคนมีนิสัยที่ไม่เหมือนกันตั้งแต่อยู่ในท้อง ซึ่งรูปแบบการดิ้น หรือความถี่ของการดิ้นของเด็กก็เช่นเดียวกัน ดังนั้น จึงไม่สามารถเปรียบเทียบลักษณะการเคลื่อนไหวของลูกในท้องกับคุณแม่คนอื่นๆได้ ว่าทำไมดิ้นเวลาไม่เหมือนกัน แถมเด็กบางคนดิ้นแรง บางคนดิ้นถี่ แต่โดยส่วนมากแล้ว ลูกจะดิ้นมากเวลาที่
- คุณแม่อยู่ในอารมณ์ที่สบายๆหรือกำลังทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย
- หลังจากที่คุณแม่ทานอาหารหรือทานขนม เมื่อลูกน้อยได้รับสารอาหารหรือน้ำตาลในเลือด ก็จะทำให้ลูกมีเรี่ยวแรงที่จะยืดเส้นยืดสายได้บ้าง
- เวลาที่คุณแม่ตื่นเต้น อะดรีนาลีนจะหลั่งออกมา ทำให้ลูกดิ้นมาก
การดิ้นของทารกในครรภ์
การดิ้น กับอารมณ์ของลูก ลูกดิ้นรู้สึกอย่างไร
โดยธรรมชาติแล้ว เมื่อลูกในท้องของคุณแม่อยู่ท่าใดท่าหนึ่งเป็นเวลานานๆ ก็อาจจะมีการขยับตัว เพื่อเปลี่ยนอิริยาบถ เปลี่ยนท่าทางที่ทำให้รู้สึกสบายขึ้น และในบางครั้ง ที่คุณแม่มีอารมณ์เปลี่ยนไป เช่น มีอารมณ์โกรธ โมโห เครียด หงุดหงิด หรือหวาดกลัว ก็จะทำให้ลูกดิ้นมากขึ้น เพราะสารแห่งความเครียด หรือฮอร์โมนอะดรีนาลีน จะถูกหลั่งผ่านรกมายังตัวลูก ทำให้เป็นการไปกระตุ้น ให้ลูกน้อยเกิดความเครียดเหมือนคุณแม่ด้วยดังนั้น คุณแม่จึงต้องคอยควบคุมอารมณ์ พยายามไม่เครียด และทำตัวให้มีความสุข เพราะนั่นจะทำให้ลูกน้อยมีความสุขตามไปด้วย
แต่หากว่าลูกดิ้นมาก หรือดิ้นไม่ยอมหยุด คุณแม่ก็อาจจะต้องหามุมสงบๆ ปรับตัวให้ผ่อนคลาย แล้วลูบบริเวณหน้าท้องเบาๆ พร้อมทั้งพูดคุยกับลูกด้วยเสียงที่นุ่มนวล เพื่อช่วยปลอบลูก หรือเปิดเพลงเพราะๆให้ลูกฟังเบาๆ ก็จะทำให้ลูกรู้สึกผ่อนคลายและคุณแม่ก็จะรู้สึกสบายไปกับลูกด้วย
ลูกดิ้น ลูกตอด
ลูกดิ้นมาก ผิดปกติไหม
โดยส่วนใหญ่แล้ว ถ้าลูกดิ้นมาก ไม่ถือว่าผิดปกติครับ การที่ลูกในท้องดิ้นมาก ไม่ได้หมายความว่าลูกคลอดออกมาแล้ว จะเป็นเด็กไฮเปอร์นะครับ ลูกจะมีช่วงตื่นช่วงหลับเป็นวงจรอยู่ในท้อง ในช่วงที่ตื่นก็อาจจะรู้สึกว่าดิ้นมาก ซึ่งไม่เป็นอันตราย
แต่ก็มีข้อยกเว้นเพียงบางกรณีหรือมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่จะถือว่าผิดปกติ โดยอาการลูกดิ้นมากที่แสดงถึงสัญญาณอันตรายก็คือ ลูกจะดิ้นแรงมากอยู่ระยะหนึ่งแล้วหยุดดิ้นไปเลยและไม่มีอาการดิ้นอีกต่อไป เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณอันตราย แสดงว่าทารกในครรภ์อาจจะเสียชีวิตได้
อย่างไรก็ตาม คุณแม่อย่าเพิ่งวิตกจนเกินเหตุนะครับ เพราะกรณีเช่นนี้มักจะมีสิ่งบอกเหตุมาก่อน เช่น มีโรค หรือมีความผิดปกติที่ตรวจพบอยู่ก่อนแล้ว หรือกำลังรักษาอยู่ แต่ถ้าคุณแม่ตั้งครรภ์ปกติแล้วลูกดิ้นแรง และดิ้นต่อไป ก็ไม่ต้องกังวลไปครับว่าจะมีอันตรายเกิดขึ้น แต่ถ้าลูกดิ้นน้อยลงในระยะใกล้คลอดนี่สิครับที่น่าเป็นห่วง
ลูกดิ้นดุ๊กดิ๊ก
ลูกดิ้นน้อย ผิดปกติไหม
ถ้าลูกดิ้นน้อย ในระยะที่ควรจะดิ้นมาก ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงครับ ถ้าคุณแม่มีอายุครรภ์มากแล้ว โดยเฉพาะในระยะใกล้กำหนดคลอดแล้วลูกดิ้นน้อยลงเรื่อยๆ และดิ้นเบา ๆ หรือในระหว่างวัน รู้สึกว่าลูกดิ้นเพียงไม่กี่ครั้งก็ควรจะพบหมอทันที อย่ารอจนกระทั่งลูกหยุดดิ้น หรือรอจนถึงวันนัด มิฉะนั้นอาจจะสายเกินไปนะครับ
แล้วคุณล่ะ จำความรู้สึกนั้นได้ไหม ลูกดิ้นครั้งแรกรู้สึกอย่างไร อย่าลืมมาแชร์ประสบการณ์อันน่าประทับใจกันนะครับ และหากคุณแม่ท่านใดต้องการทาราบถึงเรื่องของ วิธีนับลูกดิ้น วิธีกระตุ้นให้ลูกดิ้น หรือถ้าอยากทราบว่า แม่ท้องรู้ไหม ลูกดิ้นแบบนี้อยากบอกอะไรคุณแม่นะ ก็สามารถติดตามอ่านได้จากบทความด้านล่างนี้เลยนะครับ
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ
วิธีการนับลูกดิ้นพร้อมบันทึกการนับดิ้น
วิธีกระตุ้นให้ลูกดิ้น แม่ท้องต้องทำแบบนี้นะ
แม่ท้องรู้ไหม ลูกดิ้นแบบนี้อยากบอกอะไรคุณแม่นะ
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!
